นักพัฒนาระบบหลังบ้าน (Back-end Developer) หรือที่รู้จักกันในชื่อ นักพัฒนาระบบฝั่งเซิร์ฟเวอร์ (Server-side Developer) หรือนักพัฒนา API (API Developer) มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างและดูแลการทำงานของตรรกะฝั่งเซิร์ฟเวอร์ การเชื่อมต่อฐานข้อมูล และการเชื่อมต่อ API สำหรับเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่ง Back-end Developer
ตำแหน่ง: Back-end Developer
แผนก: ฝ่ายพัฒนาเทคโนโลยี (Technology Department)
รายงานตรงต่อ: Lead Developer หรือ Engineering Manager
สถานที่ทำงาน: สำนักงานใหญ่ / Remote (ขึ้นอยู่กับนโยบายของบริษัท)
บทนำ (Job Overview)
ตำแหน่ง Back-end Developer หรือ นักพัฒนาฝั่งหลัง มีหน้าที่รับผิดชอบในการพัฒนาและดูแลส่วนของ Back-end หรือเซิร์ฟเวอร์ด้านหลังของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ ซึ่งรวมถึงการออกแบบฐานข้อมูล, การพัฒนา API, การพัฒนาระบบเชื่อมต่อกับบริการต่างๆ และการประสานงานกับทีม Front-end Developer เพื่อนำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและสามารถขยายขนาดได้ในอนาคต
หน้าที่และความรับผิดชอบ (Key Responsibilities)
- การพัฒนาและดูแล Back-end System
- พัฒนาและออกแบบระบบ Back-end ที่มีความสามารถในการรองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก รวมถึงการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลและบริการภายนอก
- เขียนโค้ดที่มีประสิทธิภาพและสามารถบำรุงรักษาได้ในระยะยาว โดยใช้ภาษาและเทคโนโลยีต่างๆ เช่น Python, Java, Ruby, PHP, Node.js, หรือ Go
- การออกแบบฐานข้อมูล (Database Design)
- ออกแบบและดูแลฐานข้อมูลให้มีโครงสร้างที่เหมาะสม เช่น SQL (MySQL, PostgreSQL) หรือ NoSQL (MongoDB, Redis)
- ปรับปรุงประสิทธิภาพของฐานข้อมูล เช่น การใช้ดัชนี (Indexing), การจัดการกับข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ และการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา
- การพัฒนาและจัดการ API
- พัฒนา RESTful APIs หรือ GraphQL ที่สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถใช้งานร่วมกับ Front-end ได้
- ทำงานร่วมกับทีม Front-end Developer เพื่อให้แน่ใจว่า API ที่พัฒนาขึ้นนั้นสามารถทำงานร่วมกับส่วนที่เป็น Front-end ได้อย่างราบรื่น
- การเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการขยายตัว (Scalability & Performance)
- พัฒนาระบบที่สามารถขยายขนาดได้ตามความต้องการ เช่น การใช้เทคโนโลยี Cloud, Containerization (Docker), หรือการใช้ระบบ Load Balancing
- ตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของระบบ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลหรือการจัดการทรัพยากรในระบบ
- การทำงานร่วมกับทีม DevOps
- ทำงานร่วมกับทีม DevOps ในการพัฒนาและรักษาระบบ Continuous Integration / Continuous Deployment (CI/CD)
- ช่วยในการตั้งค่าและดูแลระบบที่เกี่ยวข้องกับการ deploy แอปพลิเคชัน
- การทดสอบระบบ (System Testing)
- เขียนและดูแลการทดสอบระบบที่ครอบคลุม เช่น Unit Testing, Integration Testing, และ API Testing
- ใช้เครื่องมือทดสอบอัตโนมัติเพื่อให้แน่ใจว่าโค้ดที่พัฒนาขึ้นไม่ส่งผลกระทบต่อระบบที่มีอยู่
- การตรวจสอบและแก้ไขบั๊ก (Bug Fixing)
- ตรวจสอบและแก้ไขบั๊กที่เกิดขึ้นในระบบ Back-end
- วิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพของระบบหรือความผิดปกติของการเชื่อมต่อ
- การพัฒนาและบำรุงรักษาระบบความปลอดภัย (Security)
- ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลที่จัดเก็บในฐานข้อมูล และการจัดการกับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
- ใช้เทคนิคการเข้ารหัสข้อมูลและระบบยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัย เช่น OAuth, JWT หรือการจัดการสิทธิ์เข้าถึงระบบ
- การบำรุงรักษาและปรับปรุงระบบที่มีอยู่
- ปรับปรุงและเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ ในระบบ Back-end ที่มีอยู่
- บำรุงรักษาระบบที่มีอยู่เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่มีปัญหา
คุณสมบัติที่ต้องการ (Qualifications)
- การศึกษาหรือวุฒิการศึกษา
- ปริญญาตรีหรือสูงกว่าในสาขาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์, วิทยาการคอมพิวเตอร์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
- หากมีประกาศนียบัตรจากหลักสูตรการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือการพัฒนา Web Applications เช่น AWS Certified Developer หรือ Google Cloud Certified จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
- ประสบการณ์
- ประสบการณ์ในการพัฒนา Back-end Application อย่างน้อย 2-5 ปี
- มีประสบการณ์ในการพัฒนาระบบที่รองรับปริมาณการใช้งานสูง และมีความสามารถในการขยายขนาดระบบ (scalable)
- เคยทำงานกับฐานข้อมูล SQL หรือ NoSQL อย่างน้อย 2 ปี
- ทักษะทางเทคนิค
- ความชำนาญในการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาที่ใช้ในการพัฒนา Back-end เช่น Python, Java, Node.js, Ruby หรือ PHP
- ทักษะในการพัฒนา RESTful APIs หรือ GraphQL และการทำงานร่วมกับ JSON
- ความรู้ในการออกแบบฐานข้อมูลและการจัดการฐานข้อมูลทั้ง SQL และ NoSQL
- ประสบการณ์การใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยีในการพัฒนาเช่น Docker, Kubernetes, หรือ Cloud services (AWS, Azure, Google Cloud)
- ความรู้ในการเขียน Unit Test และการใช้เครื่องมือในการทดสอบเช่น Mocha, Jest หรือ PyTest
- ทักษะการแก้ไขปัญหา
- ความสามารถในการวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาทางเทคนิคที่ซับซ้อน
- สามารถทำงานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และสามารถจัดการความกดดันได้ดี
- ทักษะการสื่อสาร
- มีทักษะในการสื่อสารที่ดี สามารถอธิบายแนวคิดทางเทคนิคให้แก่บุคคลที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคเข้าใจได้
- สามารถทำงานร่วมกับทีม Front-end Developer และทีมอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติที่ต้องการเพิ่มเติม (Preferred Qualifications)
- ประสบการณ์ในเทคโนโลยีที่ทันสมัย
- มีประสบการณ์ในการทำงานกับ Microservices Architecture, Serverless Computing, หรือ API Gateway
- ประสบการณ์ในการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถรองรับการใช้งานในระบบ Cloud
- ทักษะด้าน DevOps
- หากมีประสบการณ์ในการตั้งค่าและดูแลระบบ Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD) จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
- ทักษะด้านการพัฒนาระบบที่รองรับการใช้งานจำนวนมาก
- หากมีประสบการณ์ในการพัฒนาและปรับขยายระบบที่สามารถรองรับการใช้งานในระดับองค์กร (Enterprise-level systems) จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ
ตำแหน่งเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาและบำรุงรักษาระบบของแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ โดยผู้สมัครจะต้องมีทักษะการพัฒนาระบบที่มีประสิทธิภาพ, ความสามารถในการทำงานกับฐานข้อมูล, และการพัฒนา API เพื่อรองรับฟีเจอร์ที่ต้องการ ผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้ต้องสามารถทำงานร่วมกับทีมพัฒนาและทีมอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งพัฒนาระบบที่สามารถขยายขนาดและรองรับผู้ใช้งานจำนวนมากในอนาคต
บทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำศัพท์ทาง HR
สนใจเริ่มต้นใช้งานระบบประเมินผลออนไลน์ EsteeMATE ติดต่อเราได้ที่นี่