ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่ง Account Admin

ตัวอย่าง JD หรือ Job Description ของตำแหน่ง Account Administrator (Account Admin) มักจะเป็นการจัดการดูแลงาน day-to-day operations ในส่วนของ บัญชี การเงิน และแอดมินต่างๆ ขององค์กร โดยมักจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

Photo by Sincerely Media on Unsplash

ตัวอย่าง Job Description

1. Financial Management:

จัดการและดูแลบันทึกทางการเงิน รวมถึงบัญชีเจ้าหนี้, บัญชีลูกหนี้, การออกใบแจ้งหนี้ และการติดตามค่าใช้จ่าย


2. Accounting Systems Administration:

ตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของระบบบัญชี เช่น สมุดบัญชีทั่วไป, บัญชีเจ้าหนี้ และบัญชีลูกหนี้


3. Data Entry and Processing:

ป้อนและประมวลผลธุรกรรมทางการเงิน, ใบแจ้งหนี้, การชำระเงิน และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องลงในซอฟต์แวร์บัญชีหรือสเปรดชีต


4. Budgeting and Forecasting:

ช่วยในการเตรียมงบประมาณ, การคาดการณ์ และรายงานทางการเงินเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ


5. Compliance and Auditing:

ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามกฎหมาย, ระเบียบข้อบังคับ และนโยบายของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการบัญชี เข้าร่วมในการตรวจสอบภายในและการตรวจสอบภายนอกตามความจำเป็น


6. Vendor Management:

จัดการความสัมพันธ์กับผู้ขาย, ซัพพลายเออร์ และผู้รับเหมา รวมถึงการจัดซื้อ, การประมวลผลการชำระเงิน และการออกใบแจ้งหนี้


7. Reconciliation and Analysis:

กระทบยอดบัญชี, วิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน และระบุแนวโน้มหรือข้อผิดพลาดเพื่อสนับสนุนการตัดสินใจทางธุรกิจ


8. Reporting and Analytics:

จัดทำและแจกจ่ายรายงาน, แดชบอร์ด และการแสดงผลต่าง ๆ ให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เช่น ผู้บริหาร, นักลงทุน หรือหน่วยงานกำกับดูแล


9. Process Improvement:

ระบุโอกาสในการปรับปรุงกระบวนการ, ดำเนินการเปลี่ยนแปลง และตรวจสอบความมีประสิทธิภาพของการเปลี่ยนแปลงนั้น


10. Collaboration and Communication:

ทำงานอย่างใกล้ชิดกับแผนกอื่น ๆ เช่น ฝ่ายขาย, ฝ่ายปฏิบัติการ และฝ่ายการเงิน เพื่อให้แน่ใจว่ามีการรายงานทางการเงินที่ถูกต้องและการปฏิบัติตามข้อกำหนด

ตัวอย่าง Key Performance Indicators (KPIs)

ของตำแหน่ง Account Administrator มักจะใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้

1. Account Setup Rate:

เปอร์เซ็นต์ของบัญชีใหม่ที่ตั้งค่าเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 95% ภายใน 24 ชั่วโมง)


2. User Onboarding Time:

เวลาที่ใช้โดยเฉลี่ยในการนำผู้ใช้ใหม่เข้าใช้ระบบ รวมถึงการสร้างบัญชี, การตั้งค่าบทบาท และการมอบหมายสิทธิ์การเข้าถึง


3. Error Rate:

เปอร์เซ็นต์ของข้อผิดพลาดหรือความไม่สอดคล้องในการตั้งค่าบัญชี ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกระบวนการ


4. Account Maintenance Frequency:

ความถี่ที่บัญชีถูกตรวจสอบและอัปเดตเพื่อให้แน่ใจว่ามีความถูกต้องและครบถ้วน (เช่น รายวัน, รายสัปดาห์)


5. User Request Resolution Time:

เวลาที่ใช้โดยเฉลี่ยในการแก้ไขคำร้องขอของผู้ใช้ เช่น การรีเซ็ตรหัสผ่านหรือปัญหาการเข้าถึงบัญชี


6. Account Access Requests:

จำนวนคำร้องขอการเปลี่ยนแปลงการเข้าถึงบัญชี เช่น การเพิ่มหรือลบผู้ใช้ ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการปรับปรุงกระบวนการหรือการตรวจสอบความปลอดภัย


7. Compliance and Governance:

การปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมายและการกำกับดูแล เช่น GDPR, HIPAA, หรือ SOX


8. User Satisfaction:

วัดผลจากแบบสำรวจ, แบบฟอร์มข้อเสนอแนะ, หรือวิธีการอื่น ๆ เพื่อประเมินความพึงพอใจของผู้ใช้ต่อบริการการจัดการบัญชี


9. Account Data Accuracy:

เปอร์เซ็นต์ของข้อมูลบัญชีที่ถูกต้อง รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ เช่น บทบาทของผู้ใช้, สิทธิ์ และระดับการเข้าถึง


10. Process Efficiency:

วัดประสิทธิภาพของกระบวนการจัดการบัญชี เช่น การลดเวลาในการทำงานให้เสร็จสิ้นหรือการทำงานอัตโนมัติของงานที่ทำซ้ำ ๆ


11. Security Incidents:

ความถี่และความรุนแรงของเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย เช่น ความพยายามในการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการละเมิดข้อมูล ซึ่งบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการความปลอดภัย


12. Training and Support:

การประเมินประสิทธิภาพของโปรแกรมการฝึกอบรมและบริการสนับสนุนที่ให้แก่ผู้ใช้ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขามีทักษะที่จำเป็นในการใช้ระบบและแอปพลิเคชันของบริษัท

การใช้ KPI อย่างเหมาะสมจะช่วยให้ตำแหน่ง Account Admin สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล พร้อมทั้งสนับสนุนการเติบโตและความสำเร็จขององค์กรได้เป็นอย่างดี



ตัวอย่าง JD งานกราฟฟิค


ตัวอย่าง JD งานโรงแรม


ตัวอย่าง JD งานบริการ


ตัวอย่าง JD งานเซลส์


ตัวอย่าง JD งานขนส่ง