หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการค้าปลีก หรือ Head of Retail Operations มักจะดูแล และ จัดการการดำเนินงานประจำวันขององค์กรค้าปลีก เพื่อให้แน่ใจว่าทุกด้านของธุรกิจกำลังดำเนินไปอย่างราบรื่น แล มีประสิทธิภาพ
ตำแหน่ง: Senior Warehouse Manager
แผนก: ฝ่ายคลังสินค้า (Warehouse Department)
รายงานต่อ: ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ (Operations Manager)
สถานที่ทำงาน: คลังสินค้าของบริษัท
ภาพรวมของตำแหน่ง
Senior Warehouse Manager รับผิดชอบในการบริหาร จัดการการดำเนินงานในคลังสินค้าของบริษัท รวมถึงการจัดการทรัพยากรบุคคลที่ทำงานในคลังสินค้า, การควบคุม และ ดูแลระบบการจัดเก็บสินค้า การจัดการสต็อก และ การควบคุมความปลอดภัยของคลังสินค้าเพื่อให้การจัดการคลังสินค้าทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และ ตรงตามมาตรฐานของบริษัท
คุณสมบัติที่ต้องการ
- ปริญญาตรีหรือสูงกว่าในสาขาการจัดการโลจิสติกส์, การบริหารธุรกิจ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
- ประสบการณ์ในการบริหารจัดการคลังสินค้าหรือการปฏิบัติงานในคลังสินค้าไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยเฉพาะในตำแหน่งผู้จัดการ
- ความรู้ในด้านการควบคุมสต็อกสินค้า , การขนส่ง , และการใช้ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS)
- ทักษะการบริหารจัดการทีม และ การพัฒนาบุคลากร
- ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล และ การตัดสินใจจากข้อมูล
- ความรู้เกี่ยวกับกฎหมาย และ ข้อบังคับด้านความปลอดภัยในการทำงานในคลังสินค้า
- ความสามารถในการใช้โปรแกรม MS Office และโปรแกรมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
- ความสามารถในการแก้ไขปัญหา และ การตัดสินใจในสถานการณ์ที่ซับซ้อน
Photo by Markus Spiske on Unsplash
Key Responsibilities Head of Retail Operation
รายงานผลการดำเนินงานให้กับผู้บริหาร โดยเฉพาะในเรื่องของประสิทธิภาพในการจัดการสต็อกสินค้า และการประสานงานกับฝ่ายต่างๆ
1.การบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Operations Management):
ดูแล และ ควบคุมกระบวนการทั้งหมดในคลังสินค้า ตั้งแต่การรับสินค้า การจัดเก็บสินค้า ไปจนถึงการจัดส่งสินค้าตามคำสั่งซื้อ
จัดทำแผนการดำเนินงาน และ กำหนดเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสต็อกสินค้า และการจัดส่ง
2.การจัดการสต็อกสินค้า (Inventory Management):
ควบคุมการจัดการสต็อกสินค้าเพื่อให้มีความแม่นยำสูงสุด และ สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า
ทำการตรวจสอบสต็อกสินค้าคงคลังเป็นประจำ และ ให้แน่ใจว่าสินค้าครบถ้วน และ ไม่มีการขาดแคลน
จัดทำรายงานสต็อกสินค้า และ ทำการปรับปรุงสต็อกให้สอดคล้องกับยอดขาย
3.การจัดการทีมงาน (Team Management):
บริหารจัดการทีมงานในคลังสินค้าเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้
จัดการการฝึกอบรม และ พัฒนาทักษะของพนักงานในทีม รวมถึงการสรรหาพนักงานใหม่ตามความต้องการ
จัดทำแผนการตรวจสอบผลการทำงานของพนักงาน และ ให้คำแนะนำหรือการปรับปรุงที่จำเป็น
4.การรักษาความปลอดภัย (Warehouse Safety):
ตรวจสอบให้คลังสินค้ามีมาตรการด้านความปลอดภัยที่เหมาะสม และ สอดคล้องกับกฎหมายแรงงาน และ ข้อกำหนดขององค์กร
จัดทำแผนการฝึกอบรมด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานในคลังสินค้า
5.การประสานงานกับฝ่ายอื่นๆ (Cross-Functional Coordination):
ประสานงานกับฝ่ายจัดซื้อ (Procurement) ในการรับสินค้าผ่านการจัดส่ง และ ตรวจสอบคุณภาพของสินค้า
ประสานงานกับฝ่ายขนส่ง (Logistics) เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าเป็นไปตามกำหนดเวลา
6.การควบคุมต้นทุน (Cost Control):
ตรวจสอบ และ ควบคุมต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานในคลังสินค้า เช่น ค่าใช้จ่ายในส่วนของการจัดการสต็อก และ การขนส่ง
ใช้มาตรการในการลดต้นทุน เช่น การใช้เทคโนโลยีในการติดตามสต็อกสินค้า และ การปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
7.การจัดการ และใช้เทคโนโลยี (Technology and System Management):
ใช้ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) และ เครื่องมืออื่นๆ ในการตรวจสอบ และ จัดเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
ดูแล และ พัฒนาเทคโนโลยีในคลังสินค้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การใช้เครื่องมือหรือซอฟต์แวร์ในการติดตามการจัดเก็บสินค้า
8.การตรวจสอบ และรายงานผลการดำเนินงาน (Performance Monitoring & Reporting):
ตรวจสอบประสิทธิภาพการดำเนินงานของคลังสินค้าโดยใช้ KPIs และ การวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุง
ตัวอย่าง Key Performance Indicators (KPIs) Head of Retail Operation
- ประสิทธิภาพในการจัดเก็บสินค้า (Storage Efficiency):
- คำอธิบาย: การจัดการพื้นที่ในคลังสินค้าจะต้องมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่เกิดความเสียหายหรือการขาดแคลนพื้นที่
- ตัวอย่าง KPI:
- การใช้พื้นที่จัดเก็บต้องมีอัตราการใช้งานมากกว่า 90% ของพื้นที่ทั้งหมด
- ลดอัตราการเสียหายของสินค้าในคลังสินค้าให้น้อยกว่า 1% ต่อปี
- ความแม่นยำในการจัดส่งสินค้า (Order Accuracy):
- คำอธิบาย: การจัดส่งสินค้าต้องแม่นยำ และตรงตามคำสั่งซื้อของลูกค้า
- ตัวอย่าง KPI:
- อัตราความผิดพลาดในการจัดส่งสินค้าต้องต่ำกว่า 0.5% ของจำนวนการจัดส่งทั้งหมด
- สินค้าต้องส่งตรงเวลา 100% ตามกำหนดการที่ตกลงกับลูกค้า
- การลดต้นทุนการดำเนินงาน (Cost Reduction):
- คำอธิบาย: การควบคุมต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของคลังสินค้า
- ตัวอย่าง KPI:
- ลดต้นทุนการดำเนินงานของคลังสินค้า (เช่น ค่าขนส่ง, ค่าพนักงาน) ลง 10% ต่อปี
- ลดค่าใช้จ่ายในการจัดการสต็อกลง 5% ต่อปี
- ความปลอดภัยในการทำงาน (Safety Performance):
- คำอธิบาย: การรักษาความปลอดภัยในคลังสินค้าจะต้องเป็นไปตามมาตรฐาน และไม่มีอุบัติเหตุ
- ตัวอย่าง KPI:
- อัตราอุบัติเหตุในคลังสินค้าต้องไม่เกิน 0.1 อุบัติเหตุ/เดือน
- ตรวจสอบ และอัปเดตมาตรการความปลอดภัยอย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี
- ประสิทธิภาพในการจัดการสต็อก (Inventory Turnover):
- คำอธิบาย: การหมุนเวียนของสินค้าในคลังจะต้องมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการขาดสต็อกหรือล้นเกิน
- ตัวอย่าง KPI:
- อัตราการหมุนเวียนของสต็อก (Inventory Turnover) ต้องไม่น้อยกว่า 8 ครั้งต่อปี
- ลดการค้างสต็อกเกินกำหนดไม่เกิน 5% ต่อปี
ตำแหน่ง Senior Warehouse Manager มีหน้าที่ในการดูแลการดำเนินงานของคลังสินค้าทั้งหมดเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงการจัดการทีมงาน, การควบคุมสต็อกสินค้า, การลดต้นทุน และการรักษาความปลอดภัยในคลังสินค้า โดยการประเมินผลจะใช้ KPI ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน เช่น ความแม่นยำในการจัดส่งสินค้า, การลดต้นทุน และ การรักษาความปลอดภัย