ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่ง Chief Housekeeping

Job Description ของตำแหน่ง Chief Housekeeping หรือหัวหน้าแม่บ้าน มีหน้าที่หลักในการบริหารจัดการงานทำความสะอาดในสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงแรม โรงพยาบาล หรือสำนักงานขนาดใหญ่ ผู้ที่ทำงานในตำแหน่งนี้จะต้องมีทักษะการบริหารจัดการที่ดี มีความละเอียดรอบคอบ และมีความสามารถในการสื่อสารและประสานงานกับผู้อื่นได้ดี

Job Description ของตำแหน่ง Chief Housekeeping

Photo by Nik Lanús on Unsplash

ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่ง Chief Housekeeping

1. Strategic Planning

จัดทำแผนงานต่างๆ ทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร

2. Leadership

ดูแลทีมงานทำความสะอาด รวมถึงผู้ควบคุมงาน ผู้ประสานงาน และพนักงานทำความสะอาด เพื่อให้การสื่อสาร การฝึกอบรม และการจูงใจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

3. Quality Control

ดูแลดำเนินงานด้านการทำความสะอาดทั้งหมดมีมาตรฐานสูงด้านความสะอาด ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ โดยการตรวจสอบเป็นประจำและการติดตามตัวชี้วัดประสิทธิภาพ

4. Budgeting and Resource Management

จัดการงบประมาณแผนก จัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และตัดสินใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ วัสดุ และการจัดบุคลากรเพื่อบรรลุเป้าหมายในการดำเนินงาน

ดำเนินงานด้านการทำความสะอาดเป็นไปตามข้อกำหนด กฎหมาย และมาตรฐานอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น แนวทาง OSHA ข้อกำหนดการรับรองด้านสุขภาพ หรือแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมโรงแรม

6. Risk Management

ระบุความเสี่ยงและอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการทำความสะอาด และพัฒนากลยุทธ์เพื่อลดความเสี่ยงเหล่านั้น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยสำหรับพนักงานและผู้มาเยือน

7. Customer Service

ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ลูกค้าสัมพันธ์ หรือแขกโดยการให้บริการที่ยอดเยี่ยม การแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว และการรวบรวมข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน

8. Collaboration and Communication

ร่วมทำงานกับแผนกอื่นๆ อย่างใกล้ชิด (เช่น การจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก การต้อนรับ ทรัพยากรบุคคล) เพื่อให้บริการทำความสะอาดอย่างไร้รอยต่อและการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

ตำแหน่ง Chief Housekeeping หรือ หัวหน้าฝ่ายทำความสะอาด มีความสำคัญอย่างยิ่งในองค์กรที่ให้บริการด้านการพักอาศัย เช่น โรงแรม รีสอร์ท หรือสถานที่บริการอื่น ๆ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสะอาดและการดูแลสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในสถานที่ให้บริการ โดยเฉพาะในธุรกิจที่มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ความสะอาดและความเรียบร้อยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อความพึงพอใจของลูกค้า และยังส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงขององค์กร

ความสำคัญของตำแหน่ง Chief Housekeeping

  1. การสร้างความพึงพอใจของลูกค้า
    • ความสะอาดเป็นปัจจัยหลักที่ลูกค้าคาดหวังจากการใช้บริการในโรงแรมหรือสถานที่พักอาศัยต่าง ๆ การที่ห้องพักและพื้นที่ต่าง ๆ ในสถานที่นั้นสะอาดและมีความเรียบร้อย จะช่วยเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าและทำให้ลูกค้ารู้สึกสบายใจเมื่อเข้าพัก
    • การที่ Chief Housekeeping สามารถรักษามาตรฐานความสะอาดที่สูงได้จะช่วยสร้างความประทับใจที่ยั่งยืน ทำให้ลูกค้าต้องการกลับมาใช้บริการอีกในอนาคต
  2. การรักษาภาพลักษณ์ของโรงแรมหรือสถานที่ให้บริการ
    • การที่สถานที่ให้บริการมีความสะอาดและดูแลรักษาอย่างดีจะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง เช่น โรงแรมและรีสอร์ท ลูกค้าจะตัดสินใจเลือกเข้าพักหรือไม่ขึ้นอยู่กับคุณภาพของสิ่งอำนวยความสะดวก โดยเฉพาะเรื่องความสะอาด
    • ในบางครั้ง ความสะอาดของโรงแรมอาจถูกนำไปเปรียบเทียบกับคุณภาพการบริการอื่น ๆ เช่น ความเป็นมิตรของพนักงานหรือสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่มีให้บริการ
  3. การบริหารจัดการทีมงานและการฝึกอบรม
    • Chief Housekeeping มีบทบาทในการบริหารจัดการทีมงานทำความสะอาด โดยต้องฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะการทำงานที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุขและมีประสิทธิผล
    • การที่ทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้สามารถทำความสะอาดได้ตามมาตรฐานและในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งมีผลดีต่อการดำเนินงานโดยรวม
  4. การควบคุมค่าใช้จ่ายและทรัพยากร
    • Chief Housekeeping ต้องดูแลและควบคุมสต็อกวัสดุอุปกรณ์ทำความสะอาดให้มีประสิทธิภาพ และใช้งบประมาณในการสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยลดการสูญเสียทรัพยากรและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
    • การควบคุมการใช้งานทรัพยากรและอุปกรณ์อย่างมีประสิทธิภาพทำให้สามารถลดต้นทุนได้โดยไม่กระทบต่อคุณภาพการให้บริการ
  5. การดูแลและรักษามาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย
    • Chief Housekeeping ต้องมั่นใจว่าพนักงานในแผนกทำความสะอาดปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยและสุขอนามัย เช่น การเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ปลอดภัย การจัดการกับของเสีย หรือการดูแลห้องน้ำให้สะอาดและปลอดภัย
    • การดูแลความสะอาดอย่างละเอียดจะช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและสิ่งสกปรก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญต่อสุขภาพของลูกค้าและพนักงาน
  6. การปรับปรุงและพัฒนาแผนกทำความสะอาด
    • Chief Housekeeping ยังมีหน้าที่ในการพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานในแผนกให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เช่น การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในการทำความสะอาด การออกแบบกระบวนการทำงานที่รวดเร็วขึ้น และการฝึกอบรมพนักงานให้มีทักษะใหม่ ๆ
    • การปรับปรุงกระบวนการทำงานจะช่วยลดเวลาการทำงาน ลดค่าใช้จ่าย และทำให้สามารถให้บริการลูกค้าได้รวดเร็วและมีคุณภาพมากขึ้น
  7. การจัดการการซ่อมบำรุงและรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก
    • Chief Housekeeping ต้องร่วมมือกับแผนกบำรุงรักษาในการดูแลและซ่อมแซมห้องพักหรือพื้นที่ส่วนกลางที่เกิดความเสียหาย เพื่อให้ทุกสิ่งยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • การตรวจสอบและดูแลอุปกรณ์เครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ หรือเครื่องปรับอากาศ เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า

ตัวอย่าง KPIs สำหรับตำแหน่ง Chief Housekeeping Officer

1. Housekeeping Efficiency

จำนวนห้องที่ทำความสะอาดต่อชั่วโมง/วัน โดยมีเป้าหมาย 10-12 ห้องต่อชั่วโมง โดยมีการทำความสะอาดอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวัน

เพื่อให้แน่ใจว่าทีมงานทำความสะอาดมีประสิทธิภาพและสามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว

2. Guest Satisfaction

เปอร์เซ็นต์ของแขกที่พึงพอใจกับความสะอาดของห้อง (ตามแบบสำรวจหรือแบบฟอร์มข้อเสนอแนะ) โดยจะมีเป้าหมายที่ อัตราความพึงพอใจ 90% หรือสูงกว่า เพื่อให้แน่ใจว่าแขกมีประสบการณ์ที่ดีกับบริการทำความสะอาดของโรงแรม

3. Housekeeping Compliance

เปอร์เซ็นต์ของห้องที่ตรวจสอบแล้วพบว่ามีมาตรฐานคุณภาพ (เช่น ความสะอาด การจัดระเบียบ ฯลฯ) โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ อัตราการปฏิบัติตามมาตรฐาน 95% หรือสูงกว่า เพื่อรับประกันว่าโรงแรมรักษามาตรฐานสูงสำหรับความสะอาดและการจัดระเบียบห้อง

4. Inventory Management

อัตราการใช้สินค้าคงคลังและจุดสั่งซื้อใหม่เป้าหมาย โดยเราจะรักษาระดับสต็อกอย่างน้อย 80% เพื่อให้แน่ใจว่ามีวัสดุทำความสะอาดเพียงพอ เพื่อป้องกันการขาดแคลน ลดการสูญเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรทรัพยากร

5. Employee Engagement

แบบสำรวจความพึงพอใจของพนักงานหรือแบบฟอร์มข้อเสนอแนะเป้าหมาย โดยจะตั้งไว้ที่อัตราความพึงพอใจของพนักงาน 85% หรือสูงกว่า เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ปรับปรุงขวัญกำลังใจ และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานทำความสะอาด

6. Cost Control

ค่าใช้จ่ายจริงเทียบกับค่าใช้จ่ายตามงบประมาณสำหรับวัสดุทำความสะอาด ค่าสาธารณูปโภค และค่าแรงเป้าหมาย ให้มีการเบี่ยงเบนจากค่าใช้จ่ายตามงบประมาณไม่เกิน 5% เพื่อรักษาวินัยทางการเงิน ลดการสูญเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร

หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ ที่นี่



ตัวอย่าง JD งานกราฟฟิค


ตัวอย่าง JD งานโรงแรม


ตัวอย่าง JD งานบริการ


ตัวอย่าง JD งานเซลส์


ตัวอย่าง JD งานขนส่ง


ตัวอย่าง JD งานเซลส์