ตัวอย่าง KPI สำหรับฝ่ายขาย

KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดผลสำคัญสำหรับฝ่ายขายมีหลากหลายอย่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของธุรกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ดังนี้คือตัวอย่างของ KPI สำหรับฝ่ายขาย:

Photo by Austin Distel on Unsplash

  1. ยอดขายทั้งหมด (Total Sales) นับจำนวนรวมของยอดขายที่ทำได้ในระยะเวลาที่กำหนด เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดประสิทธิภาพของทีมขาย.
  2. ยอดขายต่อบุคคล (Sales per Individual) คำนวณจากยอดขายทั้งหมดหารด้วยจำนวนพนักงานขาย เป็นวิธีการวัดประสิทธิภาพของพนักงานแต่ละคนในทีม.
  3. กำไรขั้นต้น (Gross Profit) นับจากยอดขายทั้งหมดลบด้วยต้นทุนทั้งหมด เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของฝ่ายขาย.
  4. การเพิ่มลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) วัดจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้รับมาในระยะเวลาที่กำหนด เป็นการวัดความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าใหม่.
  5. การรักษาลูกค้า (Customer Retention) วัดอัตราการรักษาลูกค้าเก่าในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อดูความพึงพอใจของลูกค้าและความสามารถในการรักษาลูกค้า.
  6. ยอดขายต่อแผนก (Sales per Department) การวัดผลการขายตามแผนกหรือภูมิภาคต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของแต่ละพื้นที่หรือแผนก.
  7. ค่าใช้จ่ายต่อการขาย (Cost per Sale) วัดค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่ใช้ในการทำขายแบ่งด้วยยอดขายทั้งหมด เพื่อวัดความหมายของการทำกำไร.
  8. อัตราการเปิดใบเสนอราคา (Quotation Conversion Rate) วัดสัดส่วนของใบเสนอราคาที่เปิดแล้วเปลี่ยนเป็นการขายจริง เพื่อวัดประสิทธิภาพในการแปลงโอกาสขาย.
  9. ระยะเวลาที่ใช้ในการปิดการขาย (Sales Cycle Length) วัดเวลาที่ใช้ในการดำเนินการขายตั้งแต่การติดต่อแรกจนถึงการเปิดขาย เพื่อวัดประสิทธิภาพในการดำเนินการขาย.
  10. ความพึงพอใจของลูกค้า (Customer Satisfaction) วัดความพึงพอใจของลูกค้าตามระดับที่กำหนด เพื่อดูภาพรวมของประสิทธิภาพในการให้บริการ.

KPI เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างเบื้องต้นและอาจมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมตามความต้องการของธุรกิจและกลยุทธ์การขายของบริษัทโดยตรง.



ตัวอย่าง JD งานกราฟฟิค


ตัวอย่าง JD งานโรงแรม


ตัวอย่าง JD งานบริการ


ตัวอย่าง JD งานเซลส์


ตัวอย่าง JD งานขนส่ง