“ประเมินผลงานของพนักงาน” ระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

การ ประเมินผลงานของพนักงาน เป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร การประเมินผลงานไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้บริหารทราบถึงความสามารถ ความเป็นมืออาชีพ และความก้าวหน้าของพนักงาน แต่ยังช่วยให้พนักงานทราบถึงความคาดหวัง ความสำเร็จ และความต้องการพัฒนาตนเอง นอกจากนี้การประเมินผลงานยังเป็นเครื่องมือในการให้รางวัล การเลื่อนตำแหน่ง การกำหนดเงินเดือน และการวางแผนการพัฒนาทักษะของพนักงาน

อย่างไรก็ตามการสร้างระบบประเมินผลงานของพนักงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ลักษณะงาน วัฒนธรรมองค์กร ความต้องการของพนักงาน และเทคโนโลยีที่มีอยู่ หากคุณใช้ระบบประเมินผลงานที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดผลเสียต่อการทำงาน การร่วมมือ และการมีส่วนร่วมของพนักงาน ดังนั้นคุณต้องรู้วิธีการสร้างระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

ในบทความนี้ เราจะอธิบายหลักการและขั้นตอนในการสร้างระบบประเมินผลงานของพนักงาน และวิธีการปรับระบบประเมินผลงานให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้เรายังจะอธิบายประโยชน์และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

การใช้ KPI เพื่อประเมินผลงาน พนักงาน เหมาะสม กับธุรกิจ Key Performance Indicator

การสร้างระบบ ประเมินผลงานของพนักงาน มีหลักการและขั้นตอน ดังนี้
  1. กำหนดวัตถุประสงค์ของการประเมินผลงาน คือ สิ่งที่องค์กรต้องการจากการประเมินผลงาน เช่น การบริหารจัดการคนเก่ง การสร้างวัฒนธรรมการทำงาน การพัฒนาทักษะของพนักงาน หรือการให้รางวัลและการเลื่อนตำแหน่งในองค์กร
  2. กำหนดเกณฑ์การประเมินผลงาน คือ สิ่งที่ใช้วัดผลการปฏิบัติงานของพนักงาน เช่น ตัวชี้วัด (KPI) พฤติกรรม (Behavior) หรือความสามารถ (Competency) เกณฑ์การประเมินผลงานควรเป็นที่ยอมรับ วัดผลได้ และสอดคล้องกับเป้าหมายเฉพาะขององค์กรเรา
  3. กำหนดวิธีการประเมินผลงาน คือ วิธีการที่ใช้ในการวัดผลการปฏิบัติงานของพนักงาน เช่น การให้คะแนน การให้ข้อเสนอแนะ การให้รางวัล หรือการประเมินผลจากหลายแหล่ง วิธีการประเมินผลงานควรเป็นการประเมินที่เป็นธรรม ทันเวลา และเป็นแบบสองทาง
  4. กำหนดระยะเวลาการประเมินผลงาน คือ ระยะเวลาที่ใช้ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงาน เช่น ประจำปี ประจำไตรมาส หรือประจำเดือน ระยะเวลาการประเมินผลงานควรเหมาะสมกับลักษณะงาน และให้โอกาสพนักงานในการปรับปรุงผลงาน
  5. ประกาศผลการประเมินผลงาน คือ การแจ้งผลการปฏิบัติงานของพนักงานให้ทราบ โดยใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ เช่น ระบบออนไลน์ EsteeMATE หรือเอกสารที่พิมพ์ออกมา การประกาศผลการประเมินผลงานควรเป็นการประกาศที่รวดเร็ว และให้พนักงานมีส่วนร่วมในการบันทึกรับทราบผลประเมิน

การปรับระบบประเมินผลงานให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเป็นกระบวนการที่ต้องใช้การวิเคราะห์ การทดลอง และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง คุณไม่สามารถใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมือนกันกับองค์กรอื่นได้ เพราะธุรกิจของคุณมีลักษณะ วัตถุประสงค์ และความแตกต่างเฉพาะตัว ดังนั้นคุณต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการประเมินผลงานของพนักงาน ได้แก่

  • ลักษณะงาน คุณต้องรู้ว่างานของพนักงานมีลักษณะอย่างไร เช่น งานที่มีความชัดเจน งานที่มีความซับซ้อน งานที่มีความสร้างสรรค์ งานที่มีความเป็นทีม หรืองานที่มีความเป็นส่วนตัว ลักษณะงานจะมีผลต่อการกำหนดเป้าหมาย การวัดผล และการให้คะแนนของพนักงาน ตัวอย่างเช่น ถ้างานของพนักงานมีความซับซ้อน คุณอาจต้องใช้เป้าหมายที่มีความยืดหยุ่น การวัดผลที่มีหลายมิติ และการให้คะแนนที่มีการประเมินจากหลายแหล่ง
  • วัฒนธรรมองค์กร คุณต้องรู้ว่าองค์กรของคุณมีวัฒนธรรมอย่างไร เช่น วัฒนธรรมที่เน้นการแข่งขัน วัฒนธรรมที่เน้นการร่วมมือ วัฒนธรรมที่เน้นการเรียนรู้ วัฒนธรรมที่เน้นการปรับเปลี่ยน หรือวัฒนธรรมที่เน้นการควบคุม วัฒนธรรมองค์กรจะมีผลต่อการให้ข้อเสนอแนะ การให้รางวัล และการสร้างความไว้วางใจระหว่างผู้ประเมินผลและผู้ถูกประเมินผล ตัวอย่างเช่น ถ้าองค์กรของคุณมีวัฒนธรรมที่เน้นการร่วมมือ คุณอาจต้องใช้การให้ข้อเสนอแนะที่เป็นแบบสองทาง การให้รางวัลที่เป็นแบบกลุ่ม และการสร้างความไว้วางใจที่เป็นแบบเปิดเผย
  • ความต้องการของพนักงาน คุณต้องรู้ว่าพนักงานของคุณมีความต้องการอย่างไร เช่น ความต้องการทางด้านการเงิน ความต้องการทางด้านความปลอดภัย ความต้องการทางด้านความเป็นสังคม ความต้องการทางด้านความเคารพนับถือ หรือความต้องการทางด้านการเติบโต ความต้องการของพนักงานจะมีผลต่อการให้รางวัล การให้ข้อเสนอแนะ และการวางแผนการพัฒนาทักษะของพนักงาน ตัวอย่างเช่น ถ้าพนักงานของคุณมีความต้องการทางด้านการเติบโต คุณอาจต้องใช้การให้รางวัลที่เป็นแบบไม่มีตัวเลข การให้ข้อเสนอแนะที่เป็นแบบเป้าหมาย และการวางแผนการพัฒนาทักษะที่เป็นแบบเป็นระยะ
  • เทคโนโลยีที่มีอยู่ คุณต้องรู้ว่าองค์กรของคุณมีเทคโนโลยีอะไรที่สามารถช่วยในการประเมินผลงานของพนักงานได้ เช่น เทคโนโลยีที่ช่วยในการตั้งเป้าหมาย การวัดผล การให้คะแนน การให้ข้อเสนอแนะ หรือการให้รางวัล เทคโนโลยีที่มีอยู่จะมีผลต่อการประหยัดเวลา การเพิ่มความถูกต้อง การเพิ่มความเป็นธรรม และความสะดวกในการใช้งาน

ระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น

1. ระบบการประเมินผลแบบ 360 องศา (360-Degree Feedback)
  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่เน้นการพัฒนาและสร้างประสิทธิภาพของพนักงานทั้งในระดับบุคคลและทีม
  • หลักการ: การประเมินผลที่รวบรวมข้อมูลจากหลายแหล่ง เช่น เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หัวหน้า และผู้ใต้บังคับบัญชา
  • ข้อดี: ช่วยให้การประเมินมีความรอบด้านและเป็นธรรมมากขึ้น
  • การใช้งาน: ใช้ในองค์กรที่ต้องการให้พนักงานได้รับคำติชมจากหลายแหล่งที่มาพร้อมมุมมองที่หลากหลาย
2. ระบบการประเมินผลตามเป้าหมาย (Management by Objectives: MBO)
  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่เน้นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้
  • หลักการ: การประเมินผลจะขึ้นอยู่กับการตั้งเป้าหมายร่วมกันระหว่างหัวหน้ากับพนักงาน โดยพนักงานจะได้รับการประเมินตามการบรรลุเป้าหมายที่กำหนด
  • ข้อดี: ช่วยให้พนักงานมีความมุ่งมั่นในการทำงาน เพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจน
  • การใช้งาน: เหมาะกับองค์กรที่มีการตั้งเป้าหมายในแต่ละแผนกหรือทีม
3. ระบบการประเมินผลแบบสมรรถนะ (Competency-Based Appraisal)
  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่เน้นทักษะเฉพาะและสมรรถนะที่ต้องการในพนักงาน
  • หลักการ: การประเมินผลโดยอิงจากทักษะและความสามารถที่พนักงานแสดงออกมา เช่น ความสามารถในการสื่อสาร การคิดเชิงกลยุทธ์ หรือการทำงานเป็นทีม
  • ข้อดี: ช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะที่สำคัญต่อองค์กร
  • การใช้งาน: ใช้ในองค์กรที่เน้นการพัฒนาความสามารถที่เป็นลักษณะเฉพาะ เช่น สายงานเทคโนโลยี หรือการบริการลูกค้า
4. ระบบการประเมินผลแบบรายบุคคล (Individual Performance Appraisal)
  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่มีการมุ่งเน้นการประเมินผลงานของพนักงานแต่ละคน
  • หลักการ: การประเมินผลที่มุ่งเน้นการพิจารณาผลงานของพนักงานรายบุคคลตามเกณฑ์ที่กำหนด
  • ข้อดี: การประเมินผลสามารถทำได้ตรงจุดและเน้นไปที่ผลงานของแต่ละบุคคล
  • การใช้งาน: ใช้ในองค์กรที่มีการแบ่งแยกหน้าที่ชัดเจนและต้องการประเมินผลตามการทำงานของแต่ละคน
5. ระบบการประเมินผลจากผลลัพธ์ (Results-Oriented Appraisal)
  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่มีการวัดผลตามตัวชี้วัดที่เฉพาะเจาะจง เช่น ยอดขาย ผลกำไร หรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่
  • หลักการ: การประเมินผลที่พิจารณาผลลัพธ์ที่ได้จากการทำงาน
  • ข้อดี: สามารถวัดความสำเร็จได้ชัดเจน
  • การใช้งาน: เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการผลลัพธ์ทางธุรกิจที่สามารถวัดได้ เช่น ธุรกิจการขาย
6. ระบบการประเมินผลตามการพัฒนา (Developmental Appraisal)
  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน
  • หลักการ: เน้นการประเมินเพื่อหาจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา เพื่อให้พนักงานเติบโตและมีศักยภาพเพิ่มขึ้น
  • ข้อดี: ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่จำเป็น
  • การใช้งาน: ใช้ในธุรกิจที่เน้นการฝึกอบรมและพัฒนาอาชีพของพนักงาน
7. ระบบการประเมินผลแบบองค์รวม (Holistic Appraisal)
  • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับภาพรวมของผลงานและการทำงานร่วมกัน
  • หลักการ: การประเมินผลงานจะพิจารณาหลายแง่มุม เช่น ผลลัพธ์ทางธุรกิจ ความพึงพอใจของลูกค้า การทำงานเป็นทีม เป็นต้น
  • ข้อดี: ให้มุมมองที่ครบถ้วนจากหลายมิติ
  • การใช้งาน: เหมาะกับองค์กรที่ต้องการดูผลการทำงานของพนักงานในหลากหลายมิติ

เรามาดูกันว่า ประโยชน์และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ในตอนหน้า