Tag: esteemate

  • ความสำคัญของผลงานต่อการทำงานในบริษัท

    ความสำคัญของผลงานต่อการทำงานในบริษัท ผลงานของพนักงานถือเป็นตัวชี้วัดหลักที่สะท้อนถึงประสิทธิภาพและคุณค่าของพนักงานในองค์กร การทำงานที่มีผลงานดีไม่เพียงแค่ช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายและวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ แต่ยังส่งผลต่อการเติบโตและพัฒนาของบุคคลากรในระยะยาว รวมถึงสร้างบรรยากาศการทำงานที่มีแรงจูงใจและความพึงพอใจในทีม 1. การบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ขององค์กร ความสำคัญของผลงานต่อการทำงานในบริษัท ผลงานของพนักงานเป็นปัจจัยที่สำคัญในการช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจและกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มรายได้ การขยายตลาด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน 2. การสร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจในการทำงาน ผลงานที่ดีไม่เพียงแต่ช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมาย แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงานเอง เมื่อพนักงานเห็นว่าเป้าหมายของตนเองถูกตระหนักและได้รับการยอมรับ พวกเขาจะรู้สึกมีคุณค่าและมุ่งมั่นที่จะทำงานได้ดีขึ้น 3. การสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร ผลงานของพนักงานยังสะท้อนภาพลักษณ์ขององค์กรในตลาดและในวงการ การที่พนักงานทำงานได้ดีและสร้างผลงานที่มีคุณภาพจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในองค์กร และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีทั้งในสายตาของลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุน 4. การพัฒนาและเติบโตของพนักงาน ผลงานที่ดีสามารถเป็นตัวชี้วัดการเติบโตของพนักงาน ทั้งในด้านทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ หากพนักงานสามารถสร้างผลงานที่มีคุณภาพและปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงขององค์กรได้ดี พวกเขาจะมีโอกาสในการพัฒนาและเติบโตในองค์กร 5. การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในองค์กร ผลงานของพนักงานยังช่วยในการปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กร การที่พนักงานสามารถมองเห็นช่องทางในการพัฒนาและปรับปรุงวิธีการทำงานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของทีมและองค์กรโดยรวม 6. การสร้างความร่วมมือและการทำงานเป็นทีม ผลงานที่ดีของพนักงานยังมีบทบาทในการสร้างความร่วมมือและทำงานเป็นทีม การที่พนักงานแต่ละคนสามารถแสดงผลงานที่ดีจะช่วยให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถบรรลุเป้าหมายร่วมกันได้ 7. การประเมินและพัฒนาผลการทำงาน ผลงานของพนักงานยังเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ในการประเมินและพัฒนาผลการทำงานในอนาคต การที่บริษัทสามารถประเมินผลงานได้ดีจะช่วยให้การพัฒนาบุคลากรมีทิศทางที่ถูกต้องและตรงตามเป้าหมายขององค์กร สรุป ผลงานที่ดีไม่เพียงแค่มีผลต่อการบรรลุเป้าหมายขององค์กร แต่ยังส่งผลต่อการสร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจของพนักงาน การพัฒนาและเติบโตของพนักงาน การปรับปรุงกระบวนการทำงานในองค์กร และการสร้างความร่วมมือในทีมทั้งหมดนี้จึงเป็นผลสำคัญจากผลงานที่ดี ซึ่งทำให้องค์กรมีโอกาสในการเติบโตและประสบความสำเร็จในระยะยาว สนใจทดลองใช้งานโปรแกรมประเมินออนไลน์…

  • ทำอย่างไรให้การประเมินได้รับความสนใจ

    ทำอย่างไรให้การประเมินได้รับความสนใจ ทำให้กระบวนการประเมินผลพนักงานได้รับความสนใจจากทั้งผู้บริหารและพนักงานเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรควรให้ความสำคัญ เพราะการประเมินผลที่ดีจะช่วยสร้างแรงจูงใจในการทำงาน และช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าผลการทำงานของตนเองมีค่าและได้รับการยอมรับ การทำให้การประเมินได้รับความสนใจสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งจะช่วยให้กระบวนการประเมินเป็นประโยชน์ต่อทั้งพนักงานและองค์กร ทำอย่างไรให้การประเมินได้รับความสนใจ มีดังนี้ 1. การทำให้กระบวนการประเมินมีความโปร่งใสและชัดเจน ความโปร่งใสในการประเมินผลเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พนักงานให้ความสนใจกับกระบวนการประเมิน การตั้งเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนและยุติธรรมจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าการประเมินเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผล และพวกเขาจะสามารถปรับปรุงการทำงานของตนเองได้ดีขึ้นในอนาคต 2. เชื่อมโยงผลการประเมินกับการพัฒนาอาชีพ พนักงานมักจะให้ความสนใจในกระบวนการประเมินเมื่อพวกเขามองเห็นว่าผลการประเมินสามารถส่งผลต่อการพัฒนาตนเองได้ การเชื่อมโยงการประเมินผลกับ การพัฒนาอาชีพ เช่น การให้คำแนะนำในการพัฒนา การฝึกอบรม หรือโอกาสในการเลื่อนตำแหน่ง จะทำให้พนักงานรู้สึกว่า การประเมินไม่ใช่แค่การให้คะแนน แต่ยังเป็นเครื่องมือในการช่วยให้พวกเขาเติบโตในสายอาชีพ 3. การให้การตอบรับ (Feedback) ที่มีคุณภาพและมีการพัฒนา การให้ การตอบรับ (feedback) อย่างเป็นธรรมและสร้างสรรค์หลังจากการประเมินผล จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าได้รับการสนใจและได้เรียนรู้จากการประเมินนั้น ๆ การตอบรับที่ดีจะต้องเป็นการบอกทั้งในส่วนที่ทำได้ดีและส่วนที่ต้องพัฒนา พร้อมทั้งแนะแนวทางที่พนักงานสามารถปรับปรุงได้ 4. การใช้เทคโนโลยีในการประเมินผล การใช้เครื่องมือหรือ เทคโนโลยี ที่ทันสมัยในการประเมินผลจะทำให้กระบวนการประเมินดูมีความน่าสนใจมากขึ้น พนักงานจะรู้สึกว่าองค์กรมีการพัฒนาและมีกระบวนการประเมินผลที่ทันสมัย รวมถึงทำให้การประเมินสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากขึ้น 5. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ประเมินและพนักงาน ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ประเมินและพนักงานจะทำให้กระบวนการประเมินเป็นไปในทางที่ดีขึ้น พนักงานจะรู้สึกสบายใจในการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานและการพัฒนาของตนเอง รวมถึงการให้ความร่วมมือในการปรับปรุงพัฒนาผลงาน 6. การสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการประเมิน พนักงานจะให้ความสนใจกับการประเมินผลเมื่อองค์กรได้สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของกระบวนการนี้อย่างต่อเนื่อง โดยการทำให้พนักงานเห็นถึงประโยชน์ของการประเมินผลทั้งในด้านการพัฒนาอาชีพและการพัฒนาองค์กร…

  • KPI คืออะไร

    KPI คืออะไร หลายๆคนอาจจะรู้แล้วว่า KPI ย่อมาจากคำว่า Key Performance Indicators หรือตัวชี้วัดผลสำคัญ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดและประเมินผลสำคัญของการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ในองค์กร แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ความ หมาย KPI คือ อะไรกันแน่ “KPI คือตัวชี้วัดที่สามารถบ่งบอกถึงความสำเร็จในการทำงานหรือการดำเนินงานตามเป้าหมายขององค์กรได้อย่างชัดเจน” ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตัวชี้วัดเหล่านี้สามารถเป็นตัวชี้วัดทางการเงิน เช่น ยอดขาย กำไรสุทธิ หรือตัวชี้วัดทางปฏิบัติการ เช่น ประสิทธิภาพในการผลิต ระยะเวลาในการตอบกลับลูกค้า หรือตัวชี้วัดทางคุณภาพ เช่น ระดับความพึงพอใจของลูกค้า การประเมิน KPI เป็นกระบวนการสำคัญที่ใช้ในการวัดผลและปรับปรุงความสำเร็จขององค์กรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประเภทของ KPI KPI สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ: ความสำคัญของ KPI KPI มีความสำคัญในหลายๆ ด้านของการดำเนินงาน เช่น: ประเภทของ KPI (Key Performance Indicator) สามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะการใช้และวัตถุประสงค์ที่ต้องการวัดผล ซึ่งแบ่งออกเป็นหลักๆ…

  • ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร

    OKRs (Objectives and Key Results) คือ ระบบการตั้งเป้าหมายและการวัดผลที่นิยมใช้ในองค์กรเพื่อให้ทีมงานทุกคนมุ่งไปในทิศทางเดียวกันและสามารถประเมินความสำเร็จของเป้าหมายได้ชัดเจน OKRs ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ Objectives (เป้าหมาย) และ Key Results (ผลลัพธ์ที่สำคัญ) ซึ่งเป้าหมายจะบ่งบอกถึงสิ่งที่องค์กรหรือทีมต้องการทำให้สำเร็จ ในขณะที่ Key Results จะเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินว่าได้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ Photo by engin akyurt on Unsplash ทำไม OKRs ถึงสำคัญต่อองค์กร 1. สร้างความชัดเจนในเป้าหมาย 2. การวัดผลและติดตามความคืบหน้า 3. กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม 4. สร้างความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ 5. สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว 6. การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งผลลัพธ์ 7. การเชื่อมโยงเป้าหมายของแต่ละทีมกับองค์กร ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร ตัวอย่างที่ 1: OKRs สำหรับการเติบโตของธุรกิจ การอธิบาย:…

  • ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR)

    by

    in

    ปัจจุบัน หลายๆคน คงมีการนำเอา OKRs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมการทำงานของทีมและให้การชี้วัดที่ชัดเจนสำหรับการวัดความสำเร็จของเป้าหมาย มาใช้กันในองค์กร โดยเฉพาะในงานทรัพยากรบุคคล OKRs เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำ OKRs ที่เกี่ยวพันกันกับวัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ OKRs (Objectives and Key Results) เป็นเครื่องมือการตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้แผนกต่าง ๆ ในองค์กรสามารถตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เพื่อให้สามารถพัฒนาและบรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้ โดยในส่วนของ แผนกทรัพยากรบุคคล (HR) การใช้ OKRs ช่วยให้ฝ่าย HR สามารถจัดการและประเมินผลกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารคนในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมายของ OKRs วัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) Objective 1: ปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากร (Recruitment Process) Key Results: การอธิบาย: การปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากรถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพื่อให้ฝ่าย HR สามารถหาคนที่เหมาะสมเข้าร่วมทีมได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตั้ง Key…

  • แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์

    การประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้บริหารสามารถทราบถึงปัญหาและโอกาสที่มีอยู่ และช่วยให้ทีมขายพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความสามารถในการทำงานได้อย่างเหมาะสม Photo by krakenimages on Unsplash จุดประสงค์ของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: การวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขาย การประเมินโปรโมทเซลส์เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ผู้จัดการสามารถทราบถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้า และสามารถวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้อย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น การสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขายของธุรกิจ: การใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเจ้าหน้าที่ด้านการขาย ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีในองค์กรและส่งเสริมพัฒนาการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการมีแบบฟอร์มที่เหมาะสมและสมบูรณ์ องค์กรจะสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทหรือองค์กรประเมินผลการทำงานของพนักงานขาย (Sales) หลังจากการทำการโปรโมทหรือแคมเปญการขาย เพื่อดูว่าแคมเปญนั้นๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการได้หรือไม่ รวมถึงการประเมินพัฒนาการของพนักงานขายในการทำงานและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จุดประสงค์ของการใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: โครงสร้างของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์จะมีหลายส่วนที่สำคัญ ประกอบด้วยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแคมเปญ, การประเมินประสิทธิภาพของพนักงานขาย, และผลลัพธ์ที่ได้รับจากการโปรโมท ตัวอย่างโครงสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ 1. ข้อมูลทั่วไป 2. การประเมินการทำงาน (Score 1-5) ให้คะแนนจาก 1-5 โดย 1 = ไม่พอใจที่สุด, 5 = พอใจมากที่สุด…

  • KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท

    การมี KPI หรือตัวชี้วัดผลสำคัญเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับบริษัทเพราะเหตุผลต่อไปนี้: Photo by Austin Distel on Unsplash KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท มีดังนี้ การวัดประสิทธิภาพและความสำเร็จKPI ช่วยให้บริษัทสามารถวัดความสำเร็จของกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำไปใช้ ตัวชี้วัดนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเห็นภาพรวมของผลการดำเนินงานได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น การวัดการเติบโตของรายได้, อัตรากำไร, หรืออัตราการปิดการขาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถประเมินว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นบรรลุผลหรือไม่ ตัวอย่าง:ถ้า KPI ของบริษัทคือการเพิ่มยอดขายขึ้น 20% ในปีนี้ หากบริษัทสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นจริง 20% ตามเป้าหมายนี้ ก็หมายความว่ากลยุทธ์การขายของบริษัทประสบความสำเร็จ การตัดสินใจที่มีข้อมูลสนับสนุนKPI เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารหรือแผนกต่าง ๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน ตัวชี้วัดเหล่านี้จะช่วยให้เห็นว่าอะไรทำงานได้ดีและอะไรต้องได้รับการปรับปรุง ตัวอย่าง:หาก KPI ของการตลาดคือต้นทุนต่อการได้มาของลูกค้า (Customer Acquisition Cost – CAC) สูงขึ้นกว่าปีก่อน แผนกการตลาดอาจต้องทบทวนกลยุทธ์การใช้จ่ายเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ในราคาที่เหมาะสม การปรับปรุงประสิทธิภาพการติดตาม KPI ช่วยให้บริษัทเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของการดำเนินงาน สามารถปรับกลยุทธ์เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมและทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปรับปรุงกระบวนการขายหรือการลดต้นทุนในการผลิต ตัวอย่าง:หาก KPI ของแผนกการผลิตคือ…

  • ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท

    การติดตามและวัดผลสำคัญ (Key Performance Indicators – KPIs) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทมีการตัดสินใจที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจได้ ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจตัวอย่าง KPI ที่เหมาะสมสำหรับบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารและทีมงานควรพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ Photo by LYCS Architecture on Unsplash ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัทที่คุณสามารถนำเอาไปใช้ได้: สรุป: การเลือกใช้ KPIs ที่เหมาะสมและมีความหมายสำหรับบริษัทเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท แต่ละแผนก KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดผลการดำเนินงานขององค์กรหรือแผนกต่าง ๆ ในบริษัท โดยช่วยให้บริษัทสามารถติดตามความก้าวหน้าและความสำเร็จของเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย KPI ที่เหมาะสมจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กร ในบทความนี้จะยกตัวอย่าง KPI ที่สามารถใช้สำหรับบริษัทในหลากหลายแผนก เช่น แผนกการเงิน, การตลาด, การขาย, และการบริการลูกค้า 1. KPI แผนกการเงิน KPI: อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit…

  • ตัวอย่าง KPI ของแผนกการเงิน

    KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและติดตามผลการดำเนินงานของแผนกหรือองค์กร ซึ่งสำหรับแผนกการเงิน KPI สามารถเน้นได้ทั้งด้านการเงินและด้านการบริหารจัดการทางการเงินขององค์กร ตัวอย่างของ KPI ของแผนกการเงิน ได้แก่ 1.อัตราการเรียกเก็บหนี้ (Debt Collection Rate) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินหนี้ที่สำเร็จการเรียกเก็บได้ต่อรายการเงินหนี้ทั้งหมดที่ต้องเรียกเก็บ 2.ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหนี้ (Cost of Debt Collection) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดเก็บหนี้ต่อยอดหนี้ที่เก็บได้ 3.ระยะเวลาการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญ (Cycle Time for Invoice Processing) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญทางการเงิน ตั้งแต่วันที่รับใบสำคัญจนถึงวันที่อนุมัติเสร็จสิ้น 4.อัตราผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment – ROI) วัดผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในกิจกรรมทางการเงิน เช่น การลงทุนในระบบสารสนเทศทางการเงินหรือการพัฒนากระบวนการทางการเงิน 5.อัตราค่าใช้จ่ายทั่วไป (Operating Expense Ratio) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของแผนกการเงินต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัท 6.ระยะเวลาในการประมวลผลการชำระเงิน (Payment Processing Time) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการประมวลผลการชำระเงิน ตั้งแต่วันที่รับคำขอชำระเงินจนถึงการชำระเงินจริง 7.อัตราความผิดพลาดในการบัญชี (Accounting Error…

  • ตัวอย่าง KPI สำหรับฝ่ายขาย

    KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดผลสำคัญสำหรับฝ่ายขาย มีหลากหลายอย่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของธุรกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ดังนี้คือตัวอย่างของ KPI สำหรับฝ่ายขาย วิธีการประเมิน รวบรวมยอดขายทั้งหมดจากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 2. ยอดขายต่อบุคคล (Sales per Individual) คำนวณจากยอดขายทั้งหมดหารด้วยจำนวนพนักงานขาย เป็นวิธีการวัดประสิทธิภาพของพนักงานแต่ละคนในทีม วิธีการประเมิน แบ่งยอดขายรวมด้วยจำนวนพนักงานขาย สูตร คำอธิบายสูตร 3. กำไรขั้นต้น (Gross Profit) นับจากยอดขายทั้งหมดลบด้วยต้นทุนทั้งหมด เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของฝ่ายขาย วิธีการประเมิน คำนวณจากยอดขายรวมหักต้นทุนของสินค้าที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 4. การเพิ่มลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) วัดจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้รับมาในระยะเวลาที่กำหนด เป็นการวัดความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ วิธีการประเมิน นับจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง สูตร คำอธิบายสูตร 5. การรักษาลูกค้า (Customer Retention) วัดอัตราการรักษาลูกค้าเก่าในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อดูความพึงพอใจของลูกค้าและความสามารถในการรักษาลูกค้า วิธีการประเมิน คำนวณอัตราส่วนของลูกค้าที่รักษาไว้…