Tag: ประเมินผล

  • ตัวอย่าง Job Description และ KPI ของตำแหน่ง 3D Animator

    JD ของตำแหน่งงาน 3D Animator มักจะระบุความต้องการของพนักงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการสร้างและพัฒนาภาพเคลื่อนไหว 3 มิติสำหรับโปรเจคต่าง ๆ รวมถึงเกม, ภาพยนตร์, และโฆษณา ผู้ที่สนใจจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะด้านเทคนิคที่ดีเยี่ยม Photo by Mo Eid: https://www.pexels.com/photo/person-in-black-shirt-walking-on-sand-8347501/ ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่งงาน 3D Animator: 1. Conceptualize and design: พัฒนาแนวคิดสำหรับการออกแบบตัวละคร, อุปกรณ์ประกอบฉาก และสภาพแวดล้อมตามบท, สตอรีบอร์ด หรือคำสั่งการ 2. Modeling: สร้างโมเดลสามมิติของตัวละคร, วัตถุ และสภาพแวดล้อมโดยใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD) หรือเครื่องมือทำโมเดล 3D เช่น Maya, Blender, หรือ ZBrush 3. Texturing and shading: ใส่พื้นผิว, สี และเอฟเฟกต์แสงให้กับโมเดล 3D เพื่อให้มีความสมจริง 4.…

  • ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร

    OKRs (Objectives and Key Results) คือ ระบบการตั้งเป้าหมายและการวัดผลที่นิยมใช้ในองค์กรเพื่อให้ทีมงานทุกคนมุ่งไปในทิศทางเดียวกันและสามารถประเมินความสำเร็จของเป้าหมายได้ชัดเจน OKRs ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ Objectives (เป้าหมาย) และ Key Results (ผลลัพธ์ที่สำคัญ) ซึ่งเป้าหมายจะบ่งบอกถึงสิ่งที่องค์กรหรือทีมต้องการทำให้สำเร็จ ในขณะที่ Key Results จะเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินว่าได้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ Photo by engin akyurt on Unsplash ทำไม OKRs ถึงสำคัญต่อองค์กร 1. สร้างความชัดเจนในเป้าหมาย 2. การวัดผลและติดตามความคืบหน้า 3. กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม 4. สร้างความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ 5. สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว 6. การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งผลลัพธ์ 7. การเชื่อมโยงเป้าหมายของแต่ละทีมกับองค์กร ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร ตัวอย่างที่ 1: OKRs สำหรับการเติบโตของธุรกิจ การอธิบาย:…

  • ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน มีอะไรบ้าง

    ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน หรือดัชนีชี้วัดผลงานของผู้บริหาร คือตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสำเร็จของการบริหารงาน การนำทีม และการสนับสนุนเป้าหมายขององค์กร โดยตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะงาน ภาระกิจ และเป้าหมายของแต่ละฝ่ายหรือแผนก ตัวอย่างของ Key Performance Indicators (KPIs) ที่อาจจะใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของหัวหน้างาน ได้แก่ ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน พร้อมการอธิบายและวิธีการคำนวณ ตัวอย่างเช่น ถ้าใน 1 วัน ทีมผลิตสินค้าได้ 500 ชิ้น และใช้เวลา 8 ชั่วโมง 2. Employee Engagement (การมีส่วนร่วมของพนักงาน) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามี 75% ของพนักงานที่พึงพอใจหรือมีส่วนร่วมในทีม 3. Quality of Work (คุณภาพของงาน) 4. Team Attendance (การเข้าร่วมงานของทีม) 5. Training and Development (การฝึกอบรมและพัฒนา)…

  • กำหนด KPI สำหรับพนักงานในร้านอาหาร

    พนักงานที่ทำงานในร้านอาหาร ถือเป็นด่านหน้าที่จะเจอลูกค้าเป็นคนแรก ดังนั้นพนักงานที่ดีจะสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีในการบริการให้กับลูกค้าได้ การกำหนด KPI สำหรับพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานเข้าใจความสำคัญของหน้าที่และการปฏิบัติงานของพวกเขา Photo by Vanna Phon on Unsplash ตัวอย่างของ KPI ที่เหมาะสมสำหรับพนักงานเสิร์ฟได้แก่: ตัวอย่าง KPI สำหรับพนักงานเสิร์ฟ คำอธิบาย วัดระยะเวลาตั้งแต่พนักงานเสิร์ฟเริ่มรับคำสั่งจนถึงการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า ตัวอย่างการคำนวณ หากเวลาในการเสิร์ฟเฉลี่ยของพนักงานเสิร์ฟ 1 คือ 8 นาที/โต๊ะ และเป้าหมายคือ 7 นาที/โต๊ะ ดังนั้นถ้าใช้เวลาในการเสิร์ฟ 8 นาทีจะถือว่าไม่ผ่าน KPI การคำนวณ ถ้าทั้งหมดมี 100 โต๊ะ ที่เสิร์ฟเสร็จในเวลา 7 นาที หรือเร็วกว่านั้น = 100 โต๊ะ คำนวณเปอร์เซ็นต์: (จำนวนโต๊ะที่เสิร์ฟทันเวลาความต้องการ / จำนวนโต๊ะทั้งหมด) × 100 = (100 / 100) ×…

  • Skill กับ Competency ต่างกันอย่างไร

    “Skill” กับ “competency” แตกต่างกันอย่างไร ทั้งสองคำนี้เป็นคำศัพท์ที่มั่นใจเลยว่า พวกเราได้ยินกันบ่อยมากเมื่อพูดถึงงานประเมินผลพนักงาน ฟังเผินๆแล้วก็นึกไปว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีความแตกต่างกัน ดังนี้ Photo by Brooke Cagle on Unsplash 1. Skill (ทักษะ) Skill หมายถึง ความสามารถเฉพาะด้านที่สามารถพัฒนาได้ผ่านการฝึกฝน และประสบการณ์ โดยปกติแล้ว Skill จะมุ่งเน้นไปที่การทำงานที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น การใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยี การทำงานตามกระบวนการที่ชัดเจน หรือการประยุกต์ใช้ความรู้ในการทำสิ่งต่าง ๆ 2. Competency (สมรรถนะ) Competency หมายถึง ความสามารถรวมที่ใช้ในการทำงาน หรือการปฏิบัติงานในบริบทต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยหลาย ๆ องค์ประกอบ เช่น Skill, Knowledge, และ Behavior (พฤติกรรม) โดยที่ Competency ไม่ได้เน้นที่ทักษะเดียว แต่มักจะรวมถึงคุณสมบัติ และปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถทำให้บุคคลประสบความสำเร็จในการทำงาน หรือในสถานการณ์ที่หลากหลาย…

  • ข้อดีและข้อเสียของการประเมินผลงาน ของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อดีและข้อเสียของการประเมินผลงาน ของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาบุคลากร และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมากมาย ข้อดีและข้อเสีย ที่สำคัญของการประเมินผลงาน มีดังนี้ Photo by CoWomen on Unsplash ข้อดีของการประเมินผลงาน มีดังนี้ 1. การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การประเมินผลงานช่วย ให้พนักงานทราบถึงจุดแข็ง และจุดอ่อนของตนเองในกระบวนการทำงาน ทำให้สามารถปรับปรุง และพัฒนาความสามารถในการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยิ่งช่วยให้พนักงานมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาตนเอง 2. การสนับสนุนการตัดสินใจในการจัดการ การประเมินผลงานที่มีประสิทธิภาพช่วย ให้ผู้จัดการสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น การเลื่อนตำแหน่ง การให้รางวัล หรือการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพนักงานในด้านที่ยังขาดทักษะ การมีข้อมูลที่ชัดเจนจากการประเมินช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างยุติธรรม และมีความโปร่งใส 3. การเสริมสร้างความมุ่งมั่นและความพึงพอใจของพนักงาน การประเมินผลงานที่ดีช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน เพราะเมื่อพนักงานเห็นว่าองค์กรให้ความสำคัญ และมีการติดตามผลการทำงานอย่างจริงจัง พวกเขาจะรู้สึกว่ามีคุณค่า และได้รับการยอมรับ ซึ่งส่งผล ให้พนักงานมีความมุ่งมั่นในการทำงานมากขึ้น 4. การพัฒนาความสัมพันธ์ในองค์กร การประเมินผลงานช่วยให้ผู้จัดการ และพนักงานได้มีโอกาสสื่อสาร และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงาน การได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากผู้บังคับบัญชาจะช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะ และความรู้ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน และผู้บังคับบัญชา 5. การกระตุ้นการพัฒนาและการเรียนรู้ เมื่อพนักงานได้รับการประเมินผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาจะได้รับข้อมูลที่สามารถใช้ในการปรับปรุงตนเองได้…