เคล็ดลับการใช้ monday.com เพื่อจัดการลูกค้าสัมพันธ์ในงานขาย (CRM)

การใช้เครื่องมือออนไลน์ในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ในงานขายเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการกระบวนการขายได้อย่างมีประสิทธิผล เพราะ CRM ช่วยให้คุณสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นได้อย่างละเอียดและครบถ้วน การที่ข้อมูลลูกค้าทั้งหมดถูกเก็บไว้ในที่เดียว ไม่ว่าจะเป็นประวัติการติดต่อ การซื้อขายที่ผ่านมา หรือความต้องการของลูกค้า ช่วยให้ทีมขายสามารถเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ซึ่งเป็นประโยชน์ในการให้บริการลูกค้าได้อย่างตรงจุดและรวดเร็ว

Photo by Brooke Cagle on Unsplash

การใช้ CRM ยังช่วยในการติดตามกระบวนการขายอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ขั้นตอนการติดต่อครั้งแรกจนถึงการปิดการขาย ระบบสามารถแจ้งเตือนคุณถึงโอกาสสำคัญหรือกิจกรรมที่ต้องดำเนินการ ทำให้คุณไม่พลาดโอกาสที่สำคัญในกระบวนการขาย นอกจากนี้ CRM ยังช่วยในการวิเคราะห์พฤติกรรมและข้อมูลเชิงลึกจากลูกค้า ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงกลยุทธ์การขายและการตลาด ทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

อีกทั้งการใช้งานเครื่องมือออนไลน์ ยังช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันภายในทีมขาย สมาชิกทุกคนในทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าเดียวกันได้ ทำให้การทำงานเป็นทีมเป็นไปอย่างราบรื่นและลดการทำงานซ้ำซ้อน ระบบยังช่วยในการแบ่งปันข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อมีข้อมูลใหม่ ๆ เกิดขึ้น ทุกคนในทีมจะได้รับการอัปเดตอย่างทันท่วงที นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดลำดับความสำคัญของลูกค้าและโอกาสในการขายได้ ทำให้คุณสามารถจัดการเวลาและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ monday.com เพื่อจัดการลูกค้าสัมพันธ์ในงานขาย (CRM) สามารถช่วยให้คุณบริหารจัดการกระบวนการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่คือเคล็ดลับในการใช้ monday.com สำหรับ CRM

1. สร้างบอร์ดที่ชัดเจน
  • ตั้งค่าบอร์ดสำหรับการจัดการลูกค้า สร้างบอร์ดที่แยกต่างหากสำหรับลูกค้าแต่ละรายหรือกลุ่มลูกค้า โดยระบุสถานะการขาย (เช่น Lead, Negotiation, Closed)
2. ใช้คอลัมน์ที่เหมาะสม
  • เพิ่มคอลัมน์ข้อมูล เช่น ชื่อบริษัท, ชื่อผู้ติดต่อ, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์, สถานะการติดตาม, วันที่นัดหมาย และหมายเหตุเพื่อบันทึกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับลูกค้าแต่ละราย
3. ตั้งค่าการติดตามและการแจ้งเตือน
  • ตั้งค่าการแจ้งเตือน เพื่อให้คุณไม่พลาดการติดตามลูกค้า คุณสามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานะหรือถึงเวลานัดหมาย
4. ใช้ฟังก์ชันการจัดกลุ่ม
  • การจัดกลุ่มลูกค้า คุณสามารถจัดกลุ่มลูกค้าตามประเภท เช่น ลูกค้าใหม่, ลูกค้าประจำ หรือกลุ่มตามอุตสาหกรรม เพื่อการจัดการที่ง่ายขึ้น
5. ใช้การรวมกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ
  • เชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น monday.com สามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น Gmail, Zoom, หรือ Slack เพื่อให้การสื่อสารและการจัดการงานทำได้สะดวกยิ่งขึ้น
6. วิเคราะห์ข้อมูล
  • ใช้ฟังก์ชันกราฟและรายงาน monday.com มีฟังก์ชันในการสร้างกราฟและรายงานเพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขาย เช่น อัตราการเปลี่ยนลูกค้า หรือการติดตามประสิทธิภาพการขาย
7. ทำงานร่วมกันในทีม
  • แชร์บอร์ดกับทีมงาน ให้สมาชิกในทีมสามารถเข้าถึงข้อมูลลูกค้าและอัพเดตสถานะได้ ทำให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
8. ใช้เทมเพลต
  • เลือกใช้เทมเพลตที่มีอยู่ monday.com มีเทมเพลตสำหรับ CRM ที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณได้ง่ายและรวดเร็ว

monday.com เป็นซอฟท์แวร์เพื่อปรับปรุงกระบวนการทำงานของทีมขาย ให้มีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใสมากขึ้น ถ้าใครยังไม่มีแอคเคาท์สำหรับเข้าใช้งาน monday.com แบบใช้งานฟรี สามารถ กดสร้างบัญชีใหม่ได้ที่นี่เลย

ตัวอย่างและวิธีการทำ

1. สร้างบอร์ดสำหรับ CRM

ตัวอย่าง บอร์ด “การจัดการลูกค้า”

วิธีทำ

  • สร้างบอร์ดใหม่ใน monday.com และตั้งชื่อเป็น “การจัดการลูกค้า”
  • เพิ่มคอลัมน์หลัก เช่น:
    • ชื่อบริษัท
    • ชื่อผู้ติดต่อ
    • อีเมล
    • เบอร์โทรศัพท์
    • สถานะการขาย (ใช้ Dropdown เพื่อเลือกสถานะ เช่น Lead, Negotiation, Closed)
    • วันที่นัดหมาย
    • หมายเหตุ
1. กดปุ่ม + 2. กด Board
3. ตั้งชื่อบอร์ดที่ต้องการ 4. ตั้งชื่อคอลัมน์แรก 5. กด create board
6. กดปุ่ม + เพื่อเพิ่มคอลัมน์ 7. เลือกรูปแบบที่ต้องการสร้างคอลัมน์
2. เพิ่มการติดตามลูกค้า

ตัวอย่าง คอลัมน์ติดตามการติดต่อ

วิธีทำ

  • เพิ่มคอลัมน์ “วันที่ติดตาม” เพื่อบันทึกวันและเวลาที่คุณต้องติดตามลูกค้า
  • ตั้งค่าการแจ้งเตือนเมื่อถึงวันติดตาม เพื่อไม่ให้พลาดการติดต่อ
1. กด automate เพื่อตั้งค่าให้แจ้งเตือนก่อนถึงวันที่ต้องติดตาม 1 วัน
2. ตั้ง automate ให้แจ้งเตือนตามเงื่อนไขที่ต้องการ
ตัวอย่างแจ้งเตือนเมื่อถึงวันเวลาที่กำหนด
3. จัดกลุ่มลูกค้า

ตัวอย่าง กลุ่มลูกค้าใหม่และลูกค้าประจำ

วิธีทำ

  • ใช้ฟังก์ชัน “กลุ่ม” เพื่อสร้างกลุ่มต่าง ๆ เช่น “ลูกค้าใหม่” และ “ลูกค้าประจำ”
  • คุณสามารถลากและวางลูกค้าไปยังกลุ่มที่เหมาะสมได้ตามสถานะการขาย
1. กดปุ่ม add new group เพื่อแบ่งกลุ่มตามต้องการ
4. ใช้ฟังก์ชันการวิเคราะห์

ตัวอย่าง การสร้างกราฟเพื่อวิเคราะห์ยอดขาย

วิธีทำ

  • ไปที่แถบ “Views” และเลือก “Chart” เพื่อสร้างกราฟแสดงยอดขายตามสถานะ เช่น จำนวนลูกค้าที่อยู่ในแต่ละสถานะ (Lead, Negotiation, Closed)
  • ใช้ข้อมูลจากคอลัมน์ “สถานะการขาย” เพื่อสร้างกราฟที่แสดงผลได้ชัดเจน
1. กดปุ่ม + เพื่อเพิ่ม view ที่ต้องการดู 2. หน้า view จะแสดงข้อมูลตามที่เลือก
5. เชื่อมต่อกับเครื่องมืออื่น ๆ

ตัวอย่าง การเชื่อมต่อกับ Gmail

วิธีทำ

  • ใช้ฟังก์ชัน “Integrations” ใน monday.com เพื่อเชื่อมต่อกับ Gmail
  • สร้างการแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อมีอีเมลจากลูกค้า โดยสามารถตั้งค่าให้ส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องไปยังบอร์ด CRM ของคุณ
1. กด Integrate เพื่อเชื่อมต่อไปยังแหล่งข้อมูลอื่นๆ ได้
เลือกช่องทางที่ต่อการเชื่อมต่อข้อมูล
6. ทำงานร่วมกับทีม

ตัวอย่าง: การมอบหมายงานให้ทีมขาย

วิธีทำ:

  • เพิ่มคอลัมน์ “ผู้รับผิดชอบ” เพื่อมอบหมายงานให้กับสมาชิกในทีม
  • ใช้คอลัมน์นี้ในการติดตามว่าใครรับผิดชอบการติดต่อลูกค้าแต่ละราย
กดเพิ่มคอลัมน์ people เพื่อให้สามารถเลือกผู้รับผิดชอบงานได้
7. ใช้เทมเพลต

ตัวอย่าง: ใช้เทมเพลต CRM

วิธีทำ:

  • ไปที่ “Templates” ใน monday.com และค้นหาเทมเพลตที่เกี่ยวข้องกับ CRM
  • เลือกเทมเพลตที่เหมาะสมแล้วปรับแต่งให้เข้ากับความต้องการของคุณ
1. กดปุ่ม + 2. เลือก template center เพื่อหา template ที่ตรงกับที่ต้องการได้
8. รับฟีดแบ็กจากทีม

ตัวอย่าง: การสร้างฟีดแบ็กจากทีมงาน

1. กด + เพื่อสร้างคอมเม้นฟีดแบ็ก 2. ใส่คอมเม้นแะเมนชั่นหาคนในทีมได้