ทักษะที่ HR Tech ควรมี เช่น SQL, Data Visualization, หรือ Digital Transformation

ในยุคดิจิทัลที่การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (HR) ถูกพัฒนาและสนับสนุนด้วยเทคโนโลยี ทักษะที่ HR Tech ควรมี หรือเทคโนโลยีทรัพยากรบุคคล จำเป็นต้องมีทักษะที่ช่วยให้ผู้ทำงานในสาย HR สามารถใช้เครื่องมือดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างเหมาะสม ทักษะเหล่านี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้เทคโนโลยีในการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับพนักงานและองค์กรด้วย

ทักษะที่ HR Tech ควรมี โดยมีข้อสำคัญ ดังนี้

  1. SQL (Structured Query Language)
    • ทักษะนี้สำคัญ: SQL เป็นภาษาที่ใช้สำหรับการจัดการข้อมูลในฐานข้อมูล (Database Management) การใช้ SQL ช่วยให้ HR สามารถเข้าถึงข้อมูลจากฐานข้อมูล เช่น ข้อมูลพนักงาน, เงินเดือน, การลาออก, การประเมินผลการทำงาน ฯลฯ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
    • ทำไมถึงสำคัญ: HR Tech จำเป็นต้องมีความสามารถในการดึงข้อมูลที่ต้องการจากฐานข้อมูลโดยไม่ต้องพึ่งพาผู้อื่น และสามารถจัดการกับข้อมูลที่มีปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • ตัวอย่างการใช้: การดึงข้อมูลพนักงานที่ลาออกในช่วงเวลาที่กำหนด หรือการคำนวณค่าใช้จ่ายเงินเดือนโดยใช้คำสั่ง SQL
  2. Data Visualization (การแสดงผลข้อมูล)
    • ทักษะนี้สำคัญ: การแสดงผลข้อมูลด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม (เช่น Power BI, Tableau) ช่วยให้ HR สามารถทำการวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูลในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เช่น กราฟหรือแผนภูมิ
    • ทำไมถึงสำคัญ: ทักษะการแสดงผลข้อมูลช่วยให้ข้อมูลที่ซับซ้อนสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์อัตราการลาออก, การติดตามผลการทำงาน, หรือการประเมินผลของพนักงาน นอกจากนี้ยังช่วยให้การตัดสินใจในระดับบริหารมีข้อมูลที่รองรับ
    • ตัวอย่างการใช้: การสร้างแดชบอร์ดเพื่อแสดงผลการติดตาม KPI ต่าง ๆ เช่น การสรรหาพนักงาน, อัตราการลาออก, และการประเมินผลการทำงานผ่านกราฟหรือแผนภูมิ
  3. Digital Transformation (การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล)
    • ทักษะนี้สำคัญ: การเข้าใจและประยุกต์ใช้แนวคิดของ Digital Transformation ในการนำเทคโนโลยีมาปรับเปลี่ยนกระบวนการ HR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความยุ่งยาก เช่น การใช้ระบบ HRMS (Human Resource Management System), ATS (Applicant Tracking System) หรือเครื่องมือสำหรับการประเมินผลการทำงาน
    • ทำไมถึงสำคัญ: HR ต้องมีทักษะในการพัฒนาและนำเทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการต่าง ๆ อย่างเช่น การใช้เครื่องมืออัตโนมัติในการคัดเลือกพนักงาน หรือการใช้เครื่องมือดิจิทัลในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    • ตัวอย่างการใช้: การปรับกระบวนการสรรหาพนักงานจากการใช้กระดาษและเอกสารไปเป็นการใช้ Applicant Tracking System (ATS) ที่สามารถคัดกรองและจัดการข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. Data Analytics (การวิเคราะห์ข้อมูล)
    • ทักษะนี้สำคัญ: การมีทักษะในการวิเคราะห์ข้อมูลและการใช้เครื่องมือการวิเคราะห์ (เช่น R, Python, Excel) ช่วยให้ HR สามารถทำการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก เช่น การทำนายอัตราการลาออกของพนักงาน หรือการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงในกระบวนการสรรหาพนักงาน
    • ทำไมถึงสำคัญ: ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้ HR สามารถตัดสินใจได้อย่างแม่นยำและมีข้อมูลรองรับ เช่น การพยากรณ์แนวโน้มในอนาคตหรือการประเมินผลกระทบจากนโยบายต่าง ๆ
    • ตัวอย่างการใช้: การใช้การวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อทำนายอัตราการลาออกในปีถัดไป และแนะนำแนวทางในการลดอัตราการลาออก
  5. HRMS (Human Resource Management Systems)
    • ทักษะนี้สำคัญ: การใช้ระบบจัดการทรัพยากรบุคคล (HRMS) เช่น Workday, SAP SuccessFactors หรือ Oracle HCM เพื่อจัดการข้อมูลของพนักงานในทุกด้าน เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล, การลา, เงินเดือน, การประเมินผลการทำงาน
    • ทำไมถึงสำคัญ: ระบบ HRMS ช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูล HR มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ลดการใช้กระดาษและกระบวนการที่ซ้ำซ้อน
    • ตัวอย่างการใช้: การใช้ระบบ HRMS ในการจัดการข้อมูลเงินเดือนและการประเมินผลพนักงาน
  6. Cybersecurity (ความปลอดภัยทางไซเบอร์)
    • ทักษะนี้สำคัญ: เนื่องจากข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ HR มีความสำคัญและละเอียดอ่อน การมีทักษะด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันข้อมูลจากการถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
    • ทำไมถึงสำคัญ: HR จะต้องจัดการข้อมูลสำคัญของพนักงานในระบบดิจิทัล จึงต้องมีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการโจมตีจากไซเบอร์และการปกป้องข้อมูลให้ปลอดภัย
    • ตัวอย่างการใช้: การตั้งค่าระบบการเข้ารหัสข้อมูลในระบบ HRMS และการจัดการกับการเข้าถึงข้อมูลพนักงานที่มีความละเอียดอ่อน
  7. Cloud Computing (การประมวลผลแบบคลาวด์)
    • ทักษะนี้สำคัญ: การใช้เทคโนโลยีคลาวด์ช่วยให้ HR สามารถเก็บข้อมูลและทำงานร่วมกันในแพลตฟอร์มออนไลน์ได้สะดวกมากขึ้น
    • ทำไมถึงสำคัญ: การใช้ระบบคลาวด์ช่วยให้ HR สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกที่และทุกเวลา และสามารถทำงานร่วมกับทีมได้อย่างรวดเร็ว
    • ตัวอย่างการใช้: การใช้ Google Drive, OneDrive, หรือระบบ HRMS ที่รองรับการทำงานบนคลาวด์
  8. Communication Tools (เครื่องมือการสื่อสาร)
    • ทักษะนี้สำคัญ: การใช้เครื่องมือการสื่อสารออนไลน์ เช่น Slack, Microsoft Teams, Zoom ช่วยให้ HR สามารถติดต่อสื่อสารกับพนักงานได้สะดวกและรวดเร็ว โดยเฉพาะในการทำงานจากระยะไกล
    • ทำไมถึงสำคัญ: ในยุคที่การทำงานทางไกล (Remote Work) เป็นที่นิยม การมีเครื่องมือการสื่อสารที่ดีช่วยให้ HR สามารถสนับสนุนและดูแลพนักงานได้ดีขึ้น
    • ตัวอย่างการใช้: การใช้ Slack เพื่อสร้างช่องทางการสื่อสารสำหรับ HR กับพนักงานในองค์กร

สรุป

ทักษะที่ HR Tech ควรมีประกอบด้วยทั้งทักษะด้านเทคนิคและด้านการใช้เครื่องมือดิจิทัล เช่น SQL, Data Visualization, Digital Transformation, Data Analytics, Cybersecurity, HRMS, และ Cloud Computing การมีทักษะเหล่านี้จะช่วยให้ HR สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และสามารถตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย

หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI บริการของ EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ที่นี่

ทักษะที่ HR Tech ควรมี
ทักษะที่ HR Tech ควรมี
ทักษะที่ HR Tech ควรมี



Search the website