การทำ Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps

การทำผ่าน Mobile Apps เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในองค์กรในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในช่วงที่การทำงานทางไกล (remote work) และการทำงานที่บ้าน (work from home) กลายเป็นเรื่องปกติ การใช้แอปพลิเคชันบนมือถือเพื่อดูแลสุขภาพกายและจิตใจของพนักงานสามารถเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว

ประโยชน์ของการทำ Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps

  1. การเข้าถึงง่าย: แอปพลิเคชันบนมือถือสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลาและทุกที่ เพียงแค่พนักงานมีสมาร์ทโฟนและการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถใช้เครื่องมือนี้ในการดูแลตัวเองได้ตลอด 24 ชั่วโมง
  2. การสนับสนุนสุขภาพจิตและการจัดการความเครียด: หลายแอปพลิเคชันมักมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้พนักงานสามารถฝึกสมาธิ, การหายใจลึก, หรือการผ่อนคลายจิตใจ ซึ่งช่วยลดความเครียดและปรับสมดุลทางจิตใจ
  3. การติดตามกิจกรรมทางกาย: แอปบางตัวสามารถบันทึกการออกกำลังกาย, การเดิน, การวิ่ง, หรือการออกกำลังกายประเภทอื่น ๆ ช่วยส่งเสริมให้พนักงานมีสุขภาพที่ดี
  4. การส่งเสริมการทำงานที่มีความสมดุล: แอปสามารถส่งการแจ้งเตือนให้พนักงานหยุดพักผ่อน, ทำกิจกรรมการยืดเส้นยืดสาย, หรือออกกำลังกาย ซึ่งช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่ยาวนาน
  5. การสนับสนุนด้านโภชนาการ: แอปบางตัวสามารถติดตามการรับประทานอาหารและแนะนำอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้พนักงานรักษาโภชนาการที่ดี

ความสำคัญของการทำ Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps

การดูแล ผ่าน Mobile Apps เป็นแนวทางที่สำคัญในการส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของพนักงาน ซึ่งจะช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน, ลดความเครียด, และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งสร้างสมดุลที่ดีระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานทางไกล (remote work) และการทำงานจากบ้าน (work from home) กลายเป็นแนวทางที่พนักงานต้องใช้มากขึ้น การนำแอปพลิเคชันมาช่วยส่งเสริมนั้นสามารถให้ผลลัพธ์ที่สำคัญหลายประการ ได้แก่

  1. ส่งเสริมสุขภาพจิตและร่างกาย: แอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อดูแลสุขภาพจิต เช่น แอปสำหรับการทำสมาธิ หรือแอปสำหรับการออกกำลังกาย ช่วยให้พนักงานลดความเครียดและดูแลร่างกายได้ดีขึ้น
  2. เพิ่มความพึงพอใจในการทำงาน: พนักงานที่มีความสุขและสุขภาพดีมักจะมีประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น เนื่องจากความเครียดน้อยลงและความสมดุลระหว่างงานและชีวิตดีขึ้น
  3. สร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน: การใช้แอปทำให้พนักงานสามารถดูแลตัวเองได้ในเวลาที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการพักผ่อน
  4. การสนับสนุนจากองค์กร: แอปสามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทใส่ใจในสุขภาพและความเป็นอยู่ของพวกเขา ซึ่งส่งผลต่อการรักษาพนักงานและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กร
  5. ปรับปรุงวัฒนธรรมองค์กร: การส่งเสริมสุขภาพของพนักงานผ่านแอปเป็นการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความสมดุลระหว่างงานและชีวิต ซึ่งช่วยเพิ่มความภักดีและการมีส่วนร่วมของพนักงาน

ตัวอย่างแอปพลิเคชันที่ใช้ในการทำ Employee Wellbeing

  1. Headspace
    • ประเภท: การดูแลสุขภาพจิต
    • ฟีเจอร์: แอปที่ช่วยในการทำสมาธิ, การฝึกหายใจ, และการลดความเครียด โดยมีโปรแกรมสำหรับการทำสมาธิทั้งในระยะสั้นและยาว
    • การใช้ในองค์กร: สามารถให้พนักงานใช้เพื่อบรรเทาความเครียด และส่งเสริมการมีจิตใจที่สงบและผ่อนคลาย
  2. MyFitnessPal
    • ประเภท: การดูแลสุขภาพร่างกาย
    • ฟีเจอร์: แอปที่ช่วยในการติดตามการรับประทานอาหารและกิจกรรมการออกกำลังกาย โดยสามารถบันทึกแคลอรี่ที่บริโภคและการเผาผลาญพลังงานจากการออกกำลังกาย
    • การใช้ในองค์กร: องค์กรสามารถนำแอปนี้มาใช้ในการสนับสนุนพนักงานที่ต้องการควบคุมสุขภาพและลดน้ำหนัก
  3. Wellness Coach
    • ประเภท: การดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ
    • ฟีเจอร์: ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกาย, การนอนหลับ, การทำสมาธิ, และการตั้งเป้าหมายสุขภาพ
    • การใช้ในองค์กร: ใช้ในการสร้างแผนการสุขภาพส่วนบุคคลที่สามารถติดตามได้ง่าย พร้อมการเสนอคำแนะนำและเป้าหมายที่เหมาะสม
  4. Strava
    • ประเภท: การติดตามกิจกรรมทางกาย
    • ฟีเจอร์: แอปที่สามารถติดตามการวิ่ง, การขี่จักรยาน และกิจกรรมการออกกำลังกายอื่น ๆ ได้
    • การใช้ในองค์กร: องค์กรสามารถใช้ Strava ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เช่น การแข่งขันวิ่งหรือกิจกรรมการออกกำลังกายร่วมกับพนักงาน
  5. Calm
    • ประเภท: การดูแลสุขภาพจิต
    • ฟีเจอร์: แอปที่เน้นการทำสมาธิ, การฝึกการหายใจ, และการฟังเสียงที่ช่วยในการผ่อนคลาย
    • การใช้ในองค์กร: ใช้สำหรับการลดความเครียด และเพิ่มความสุขในการทำงาน
  6. Office Stretch
    • ประเภท: การเคลื่อนไหวและยืดเส้น
    • ฟีเจอร์: แอปที่แนะนำการยืดเส้นและการทำท่ากายบริหารระหว่างการทำงาน ซึ่งช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน
    • การใช้ในองค์กร: พนักงานสามารถใช้ในช่วงเวลาพักหรือระหว่างการประชุมเพื่อบรรเทาความเครียดจากการนั่งทำงาน

วิธีการสร้างโปรแกรม Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps

  1. สำรวจความต้องการของพนักงาน: การสำรวจความคิดเห็นจากพนักงานเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการจากโปรแกรม Wellbeing เป็นสิ่งสำคัญ อาจใช้การสำรวจออนไลน์เพื่อถามถึงความสนใจในด้านต่าง ๆ เช่น สุขภาพจิต, การออกกำลังกาย, หรือการควบคุมโภชนาการ
  2. เลือกแอปที่เหมาะสม: เลือกแอปพลิเคชันที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ขององค์กร เช่น ถ้าต้องการส่งเสริมสุขภาพจิตให้เลือกแอปที่ช่วยในเรื่องการทำสมาธิ หากต้องการส่งเสริมการออกกำลังกายให้เลือกแอปที่สามารถติดตามกิจกรรมทางกาย
  3. ให้พนักงานทดลองใช้: ให้พนักงานทดลองใช้แอปพลิเคชันเป็นระยะเวลาหนึ่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์จริง อาจพิจารณาให้การสนับสนุนหรือแนะนำวิธีการใช้แอปที่ถูกต้อง
  4. การติดตามและประเมินผล: ใช้ข้อมูลจากแอปในการติดตามความก้าวหน้าของพนักงาน และประเมินผลการใช้แอปว่ามีผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของพนักงานอย่างไร
  5. จัดกิจกรรมหรือโปรแกรมท้าทาย: การจัดกิจกรรมหรือโปรแกรมท้าทายต่าง ๆ เช่น การแข่งขันการออกกำลังกายออนไลน์หรือการตั้งเป้าหมายสุขภาพร่วมกับทีมงาน สามารถเพิ่มแรงจูงใจให้พนักงาน

หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI บริการของ EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ที่นี่

Employee Wellbeing
Employee Wellbeing



Search the website