Tag: เอสติเมท
-
ตัวอย่าง KPI สำหรับฝ่ายขาย
KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดผลสำคัญสำหรับฝ่ายขาย มีหลากหลายอย่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของธุรกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ดังนี้คือตัวอย่างของ KPI สำหรับฝ่ายขาย วิธีการประเมิน รวบรวมยอดขายทั้งหมดจากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 2. ยอดขายต่อบุคคล (Sales per Individual) คำนวณจากยอดขายทั้งหมดหารด้วยจำนวนพนักงานขาย เป็นวิธีการวัดประสิทธิภาพของพนักงานแต่ละคนในทีม วิธีการประเมิน แบ่งยอดขายรวมด้วยจำนวนพนักงานขาย สูตร คำอธิบายสูตร 3. กำไรขั้นต้น (Gross Profit) นับจากยอดขายทั้งหมดลบด้วยต้นทุนทั้งหมด เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของฝ่ายขาย วิธีการประเมิน คำนวณจากยอดขายรวมหักต้นทุนของสินค้าที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 4. การเพิ่มลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) วัดจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้รับมาในระยะเวลาที่กำหนด เป็นการวัดความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ วิธีการประเมิน นับจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง สูตร คำอธิบายสูตร 5. การรักษาลูกค้า (Customer Retention) วัดอัตราการรักษาลูกค้าเก่าในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อดูความพึงพอใจของลูกค้าและความสามารถในการรักษาลูกค้า วิธีการประเมิน คำนวณอัตราส่วนของลูกค้าที่รักษาไว้…
-
ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน มีอะไรบ้าง
ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน หรือดัชนีชี้วัดผลงานของผู้บริหาร คือตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสำเร็จของการบริหารงาน การนำทีม และการสนับสนุนเป้าหมายขององค์กร โดยตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะงาน ภาระกิจ และเป้าหมายของแต่ละฝ่ายหรือแผนก ตัวอย่างของ Key Performance Indicators (KPIs) ที่อาจจะใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของหัวหน้างาน ได้แก่ ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน พร้อมการอธิบายและวิธีการคำนวณ ตัวอย่างเช่น ถ้าใน 1 วัน ทีมผลิตสินค้าได้ 500 ชิ้น และใช้เวลา 8 ชั่วโมง 2. Employee Engagement (การมีส่วนร่วมของพนักงาน) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามี 75% ของพนักงานที่พึงพอใจหรือมีส่วนร่วมในทีม 3. Quality of Work (คุณภาพของงาน) 4. Team Attendance (การเข้าร่วมงานของทีม) 5. Training and Development (การฝึกอบรมและพัฒนา)…
-
ประโยชน์และผลลัพธ์ ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
ประโยชน์และผลลัพธ์ การใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ การใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณเป็นการทำให้ธุรกิจมีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ การใช้ระบบนี้มี ประโยชน์และผลลัพธ์ ที่สำคัญต่อธุรกิจ ดังนี้ Photo by krakenimages on Unsplash ประโยชน์จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสม 1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ระบบประเมินผลงานช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบ และวัดผลการทำงานของพนักงานได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถระบุได้ว่าพนักงานคนไหนมีผลการทำงานที่ดีหรือไม่ดี และต้องการการพัฒนาในด้านใด ตัวอย่างเช่น 2. การพัฒนาความสามารถของพนักงาน เมื่อทราบถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของพนักงานจากการประเมินผล ทำให้สามารถจัดการฝึกอบรมหรือพัฒนาทักษะที่จำเป็นได้ตรงจุด ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น 3. สร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจในงาน การประเมินผลงานที่มีความยุติธรรม และโปร่งใสสามารถสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน เพราะพวกเขาจะรู้สึกว่าความพยายามที่ทำไปนั้นได้รับการยอมรับและมีคุณค่า ตัวอย่างเช่น 4. การกำหนดทิศทางการเติบโตและการสรรหาบุคลากร ระบบประเมินผลงานช่วยให้ธุรกิจสามารถมองเห็นทิศทางการเติบโตของพนักงานและกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในองค์กรได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถสรรหาบุคลากรที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น 5. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ธุรกิจที่ใช้ระบบประเมินผลงานที่มีประสิทธิภาพจะสามารถพัฒนาและรักษาทีมงานที่มีความสามารถได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ตัวอย่างเช่น 6. การตัดสินใจที่ดีขึ้นในการจัดสรรทรัพยากร การมีข้อมูลจากระบบประเมินผลงานจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในการจัดสรรทรัพยากร (เช่น งบประมาณในการฝึกอบรม หรือโบนัส) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงาน 1.…
-
“ประเมินผลงานของพนักงาน” ระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ
การ ประเมินผลงานของพนักงาน เป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร การประเมินผลงานไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้บริหารทราบถึงความสามารถ ความเป็นมืออาชีพ และความก้าวหน้าของพนักงาน แต่ยังช่วยให้พนักงานทราบถึงความคาดหวัง ความสำเร็จ และความต้องการพัฒนาตนเอง นอกจากนี้การประเมินผลงานยังเป็นเครื่องมือในการให้รางวัล การเลื่อนตำแหน่ง การกำหนดเงินเดือน และการวางแผนการพัฒนาทักษะของพนักงาน อย่างไรก็ตามการสร้างระบบประเมินผลงานของพนักงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ลักษณะงาน วัฒนธรรมองค์กร ความต้องการของพนักงาน และเทคโนโลยีที่มีอยู่ หากคุณใช้ระบบประเมินผลงานที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดผลเสียต่อการทำงาน การร่วมมือ และการมีส่วนร่วมของพนักงาน ดังนั้นคุณต้องรู้วิธีการสร้างระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ในบทความนี้ เราจะอธิบายหลักการและขั้นตอนในการสร้างระบบประเมินผลงานของพนักงาน และวิธีการปรับระบบประเมินผลงานให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้เรายังจะอธิบายประโยชน์และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ การสร้างระบบ ประเมินผลงานของพนักงาน มีหลักการและขั้นตอน ดังนี้ การปรับระบบประเมินผลงานให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเป็นกระบวนการที่ต้องใช้การวิเคราะห์ การทดลอง และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง คุณไม่สามารถใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมือนกันกับองค์กรอื่นได้ เพราะธุรกิจของคุณมีลักษณะ วัตถุประสงค์ และความแตกต่างเฉพาะตัว ดังนั้นคุณต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการประเมินผลงานของพนักงาน ได้แก่ ระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น 1. ระบบการประเมินผลแบบ 360 องศา (360-Degree Feedback) 2. ระบบการประเมินผลตามเป้าหมาย (Management by…
-
ตัวอย่าง kpi สำหรับงานแอดมิน
งานแอดมินมีหน้าที่หลากหลายและมุ่งเน้นในการสนับสนุนทำให้ธุรกิจทำงานได้สะดวกและประสานงานได้ดีขึ้น การกำหนด KPI (Key Performance Indicator) สำหรับงานแอดมินมีความสำคัญหลายประการ เพราะการกำหนด KPI ช่วยในการวัดประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของงานแอดมิน ว่ามีความสามารถในการทำงานตามเป้าหมายและข้อกำหนดที่ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถติดตามและประเมินผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ KPI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของงานแอดมิน โดยทำให้พนักงานสามารถเห็นภาพรวมของความสำเร็จและข้อบกพร่องในการทำงาน ทำให้สามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังช่วยในการสร้างความโปร่งใสในการทำงาน โดยทุกคนในทีมสามารถเห็นถึงเป้าหมายและผลการทำงาน ซึ่งช่วยในการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างสมาชิกในทีม มากไปกว่านั้น KPI ยังช่วยในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับงานแอดมิน ทำให้พนักงานสามารถรู้ว่าความสำเร็จของตนถูกวัดจากอะไรและต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น นอกจากนี้ KPI ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นและให้แรงจูงใจแก่พนักงาน โดยการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและสามารถวัดผลได้ ช่วยให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานและพยายามพัฒนาตนเอง ท้ายสุดแล้ว การกำหนด KPI สำหรับงานแอดมินยังช่วยในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ด้วยข้อมูลที่ได้จาก KPI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทำงาน ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการทำงานได้ การกำหนด KPI สำหรับงานแอดมินจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Photo by Campaign Creators on Unsplash การตั้ง KPI (Key Performance Indicator) สำหรับงานแอดมิน (Admin) มีความสำคัญเพื่อให้สามารถวัดผลการทำงานและประเมินความสำเร็จได้อย่างชัดเจน ในบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ…
-
กำหนด KPI สำหรับพนักงานในร้านอาหาร
พนักงานที่ทำงานในร้านอาหาร ถือเป็นด่านหน้าที่จะเจอลูกค้าเป็นคนแรก ดังนั้นพนักงานที่ดีจะสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีในการบริการให้กับลูกค้าได้ การกำหนด KPI สำหรับพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานเข้าใจความสำคัญของหน้าที่และการปฏิบัติงานของพวกเขา Photo by Vanna Phon on Unsplash ตัวอย่างของ KPI ที่เหมาะสมสำหรับพนักงานเสิร์ฟได้แก่: ตัวอย่าง KPI สำหรับพนักงานเสิร์ฟ คำอธิบาย วัดระยะเวลาตั้งแต่พนักงานเสิร์ฟเริ่มรับคำสั่งจนถึงการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า ตัวอย่างการคำนวณ หากเวลาในการเสิร์ฟเฉลี่ยของพนักงานเสิร์ฟ 1 คือ 8 นาที/โต๊ะ และเป้าหมายคือ 7 นาที/โต๊ะ ดังนั้นถ้าใช้เวลาในการเสิร์ฟ 8 นาทีจะถือว่าไม่ผ่าน KPI การคำนวณ ถ้าทั้งหมดมี 100 โต๊ะ ที่เสิร์ฟเสร็จในเวลา 7 นาที หรือเร็วกว่านั้น = 100 โต๊ะ คำนวณเปอร์เซ็นต์: (จำนวนโต๊ะที่เสิร์ฟทันเวลาความต้องการ / จำนวนโต๊ะทั้งหมด) × 100 = (100 / 100) ×…
-
ระบบประเมินผลงานของพนักงานที่ดี ควรจะเป็นยังไง
ระบบประเมินผลงานของพนักงานที่ดี ควรมีลักษณะแบบไหนบ้าง ที่เหมาะกับการนำเอามาใช้วัดผลงานของพนักงานในองค์กร ซึ่งอย่างน้อยจะต้องเป็นระบบที่ชัดเจนและมีเป้าหมายที่สามารถวัดได้โดยไม่ซับซ้อน นอกจากนี้แล้ว ระบบประเมินผลที่ดียังควรเน้นไปที่การส่งเสริมและสนับสนุนพนักงานให้สามารถพัฒนาทักษะและความสามารถในการทำงานได้ด้วย เพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีค่า Photo by Jess Bailey on Unsplash นี่คือคุณลักษณะบางข้อที่เราสามารถนำมาใช้ในการสร้าง ระบบประเมินผลงานของพนักงานที่ดี ในองค์กรกัน 1. มีการกำหนดเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจน ระบบประเมินผลงานที่ดีต้องมีเกณฑ์การประเมินที่ชัดเจนและวัดผลได้ เช่น การวัดความสำเร็จจากการทำงานตามเป้าหมาย (KPIs) หรือการประเมินทักษะเฉพาะที่สำคัญต่อบทบาทของพนักงาน เช่น ความสามารถในการทำงานเป็นทีม หรือการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง 2. การประเมินที่โปร่งใสและมีความยุติธรรม ระบบประเมินผลงานควรเปิดเผยให้พนักงานทราบถึงเกณฑ์การประเมินและกระบวนการต่างๆ ที่จะนำมาใช้ในการประเมิน รวมทั้งควรให้โอกาสพนักงานในการให้ข้อมูลหรือสะท้อนความคิดเห็นเกี่ยวกับการประเมินผลงานด้วย ตัวอย่าง 3. มีการประเมินที่หลากหลายมุมมอง (360-degree feedback) การประเมินจากหลายแหล่ง (เช่น หัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า หรือพนักงานในทีม) ช่วยให้การประเมินมีความหลากหลายและสะท้อนผลการทำงานที่แท้จริงมากขึ้น ตัวอย่าง 4. มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและสามารถวัดผลได้ (SMART Goals) ระบบการประเมินที่ดีต้องสามารถเชื่อมโยงกับการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน เช่น เป้าหมายที่มีความเฉพาะเจาะจง (Specific), วัดผลได้ (Measurable),…
-
Skill กับ Competency ต่างกันอย่างไร
“Skill” กับ “competency” แตกต่างกันอย่างไร ทั้งสองคำนี้เป็นคำศัพท์ที่มั่นใจเลยว่า พวกเราได้ยินกันบ่อยมากเมื่อพูดถึงงานประเมินผลพนักงาน ฟังเผินๆแล้วก็นึกไปว่ามันคือสิ่งเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมันมีความแตกต่างกัน ดังนี้ Photo by Brooke Cagle on Unsplash 1. Skill (ทักษะ) Skill หมายถึง ความสามารถเฉพาะด้านที่สามารถพัฒนาได้ผ่านการฝึกฝน และประสบการณ์ โดยปกติแล้ว Skill จะมุ่งเน้นไปที่การทำงานที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น การใช้เครื่องมือหรือเทคโนโลยี การทำงานตามกระบวนการที่ชัดเจน หรือการประยุกต์ใช้ความรู้ในการทำสิ่งต่าง ๆ 2. Competency (สมรรถนะ) Competency หมายถึง ความสามารถรวมที่ใช้ในการทำงาน หรือการปฏิบัติงานในบริบทต่าง ๆ ซึ่งประกอบไปด้วยหลาย ๆ องค์ประกอบ เช่น Skill, Knowledge, และ Behavior (พฤติกรรม) โดยที่ Competency ไม่ได้เน้นที่ทักษะเดียว แต่มักจะรวมถึงคุณสมบัติ และปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถทำให้บุคคลประสบความสำเร็จในการทำงาน หรือในสถานการณ์ที่หลากหลาย…
-
ข้อดีและข้อเสียของการประเมินผลงาน ของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีและข้อเสียของการประเมินผลงาน ของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาบุคลากร และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมากมาย ข้อดีและข้อเสีย ที่สำคัญของการประเมินผลงาน มีดังนี้ Photo by CoWomen on Unsplash ข้อดีของการประเมินผลงาน มีดังนี้ 1. การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน การประเมินผลงานช่วย ให้พนักงานทราบถึงจุดแข็ง และจุดอ่อนของตนเองในกระบวนการทำงาน ทำให้สามารถปรับปรุง และพัฒนาความสามารถในการทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ยิ่งประเมินผลอย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยิ่งช่วยให้พนักงานมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการพัฒนาตนเอง 2. การสนับสนุนการตัดสินใจในการจัดการ การประเมินผลงานที่มีประสิทธิภาพช่วย ให้ผู้จัดการสามารถตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้น เช่น การเลื่อนตำแหน่ง การให้รางวัล หรือการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาพนักงานในด้านที่ยังขาดทักษะ การมีข้อมูลที่ชัดเจนจากการประเมินช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างยุติธรรม และมีความโปร่งใส 3. การเสริมสร้างความมุ่งมั่นและความพึงพอใจของพนักงาน การประเมินผลงานที่ดีช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน เพราะเมื่อพนักงานเห็นว่าองค์กรให้ความสำคัญ และมีการติดตามผลการทำงานอย่างจริงจัง พวกเขาจะรู้สึกว่ามีคุณค่า และได้รับการยอมรับ ซึ่งส่งผล ให้พนักงานมีความมุ่งมั่นในการทำงานมากขึ้น 4. การพัฒนาความสัมพันธ์ในองค์กร การประเมินผลงานช่วยให้ผู้จัดการ และพนักงานได้มีโอกาสสื่อสาร และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำงาน การได้รับข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์จากผู้บังคับบัญชาจะช่วยให้พนักงานสามารถพัฒนาทักษะ และความรู้ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงาน และผู้บังคับบัญชา 5. การกระตุ้นการพัฒนาและการเรียนรู้ เมื่อพนักงานได้รับการประเมินผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขาจะได้รับข้อมูลที่สามารถใช้ในการปรับปรุงตนเองได้…
-
EsteeMATE แนะนำตัวกันกับบล้อกแรกของเรา
บล้อกนี้เกิดขึ้นจากไอเดียของทีมงาน EsteeMATE ที่คิดว่าเราน่าจะมีพื้นที่คุยกันเรื่องการประเมินผลงานประจำปีของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นการประเมินโดยอาศัย KPI หรือ OKRs โดยจะมีเนื้อหาที่ทางทีมเราได้นำเอามาจากประสบการณ์การทำงานในฟิลด์นี้ มาแบ่งกันกันเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อย ประมาณนี้กันค่ะ Photo by airfocus on Unsplash โดยเนื้อหาที่ทางเรารวบรวมกันมาใส่ในบล้อกนี้จะมี ดังนี้ บริการของเรา ระบบประเมิน KPI ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามและวัดผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย เราสามารถตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ และสร้างกราฟและแผนภูมิที่เข้าใจง่าย เพื่อให้ทุกคนในทีมมีส่วนร่วมในการพัฒนาและบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ระบบประเมิน 360 ให้คุณค่าของข้อมูลจากหลายมุมมอง ทั้งผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงาน และการประเมินตนเอง เพื่อสร้างภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพและศักยภาพในการพัฒนา ระบบนี้ช่วยส่งเสริมการเติบโตส่วนบุคคลและการทำงานร่วมกันในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของโปรแกรม เราหวังว่าเนื้อหาเกี่ยวกับการประเมินผลงานประจำปีของพนักงานที่เราเอามาแชร์กันนั้น สามารถช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจถึงกระบวนการนี้มากขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาส่วนตัวและองค์กรให้ดียิ่งขึ้นได้ด้วยค่ะ หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI สำหรับฝ่ายขาย ทางเรามี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานฝ่ายขายได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ที่นี่ Contact Us