Category: Competency and KPI

  • ตัวอย่าง Job Description และ KPI ของตำแหน่ง 3D Animator

    JD ของตำแหน่งงาน 3D Animator มักจะระบุความต้องการของพนักงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการสร้างและพัฒนาภาพเคลื่อนไหว 3 มิติสำหรับโปรเจคต่าง ๆ รวมถึงเกม, ภาพยนตร์, และโฆษณา ผู้ที่สนใจจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะด้านเทคนิคที่ดีเยี่ยม Photo by Mo Eid: https://www.pexels.com/photo/person-in-black-shirt-walking-on-sand-8347501/ ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่งงาน 3D Animator: 1. Conceptualize and design: พัฒนาแนวคิดสำหรับการออกแบบตัวละคร, อุปกรณ์ประกอบฉาก และสภาพแวดล้อมตามบท, สตอรีบอร์ด หรือคำสั่งการ 2. Modeling: สร้างโมเดลสามมิติของตัวละคร, วัตถุ และสภาพแวดล้อมโดยใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD) หรือเครื่องมือทำโมเดล 3D เช่น Maya, Blender, หรือ ZBrush 3. Texturing and shading: ใส่พื้นผิว, สี และเอฟเฟกต์แสงให้กับโมเดล 3D เพื่อให้มีความสมจริง 4.…

  • 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI (ตอน 2)

    เรามาต่อกันที่ 5 อันดับที่เหลือเลย ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอน 1 สามารถกดดูได้ที่ลิงค์นี้ คำถามที่พบบ่อยอันดับ 6: ฉันจะติดตามและวัดผล KPI ได้อย่างไร คำตอบ: การติดตามและวัดผล KPI นั้น เราจะใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น รายงานทางการเงิน แบบฟอร์มคำติชมของลูกค้า หรือซอฟต์แวร์การจัดการระบบประเมินผลอย่าง EsteeMATE เพื่อติดตามวัดผลอย่างง่ายๆ 1. กำหนดตัวชี้วัดและเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามผล ก่อนที่จะติดตามและวัดผล KPI ควรเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับลักษณะของ KPI ที่ตั้งขึ้น โดยสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้: 2. สร้างแดชบอร์ดการติดตามผล KPI การใช้ แดชบอร์ด ที่แสดงผล KPI แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทีมงานและผู้บริหารสามารถเห็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ทันที ตัวชี้วัดที่แสดงในแดชบอร์ดจะต้อง: ตัวอย่าง:หาก KPI ของแผนกการขายคือ “เพิ่มยอดขาย 10% ภายในไตรมาสนี้” แดชบอร์ดควรแสดงข้อมูลการขายทั้งหมดในช่วงเวลานั้น ๆ พร้อมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และการเปรียบเทียบยอดขายจริงกับยอดขายเป้าหมาย 3. ตั้งกรอบเวลาในการติดตาม ควรกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการติดตามผล KPI เพื่อให้สามารถประเมินผลและวัดความคืบหน้าได้…

  • 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI

    คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI การตั้ง KPI (Key Performance Indicators) เป็นส่วนสำคัญในการบริหารและประเมินผลการดำเนินงานขององค์กร และมีหลายคำถามที่มักเกิดขึ้นเกี่ยวกับ KPI ซึ่งมีความสำคัญในการเข้าใจแนวทางการใช้ KPI อย่างถูกต้อง นี่คือ 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI พร้อมคำอธิบายและตัวอย่างที่ละเอียด คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI เป็นคำถามข้อที่พบบ่อยมาเป็นอันดับ 1: KPI คืออะไร คำตอบ: KPI คือตัวชี้วัดประสิทธิภาพของการดำเนินงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าองค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด เราใช้ KPI เพื่อประเมินและติดตามประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง คำอธิบาย:KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินผลสำเร็จขององค์กรในด้านต่างๆ เช่น การเงิน การผลิต การบริการลูกค้า หรือการตลาด เพื่อให้ทราบว่าองค์กรหรือแผนกนั้นๆ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ตัวอย่าง: โดยมีแนวทางในการนำเอาไปใช้ดังนี้ เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนสำหรับองค์กรของคุณ จากนั้นระบุตัวชี้วัด หรือ KPI ที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น คำถามที่พบบ่อยอันดับ 2: เหตุใด KPI…

  • จะเป็นอย่างไร ถ้าหากองค์กรดำเนินงานโดยที่ไม่มี KPI

    ถ้าหากองค์กรดำเนินงานโดยที่ไม่มี KPI KPI (Key Performance Indicators) จะมีผลกระทบหลายประการในแง่ของประสิทธิภาพการทำงาน ความสามารถในการติดตามผล และ การบรรลุเป้าหมายขององค์กร รวมทั้งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในด้านต่าง ๆ ภายในองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ ต่อไปนี้คือการอธิบายผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อองค์กรไม่มี KPI Photo by Francisco De Legarreta C. on Unsplash ถ้าหากองค์กรดำเนินงานโดยที่ไม่มี KPI 1. ขาดความชัดเจนในเป้าหมาย KPI คือเครื่องมือสำคัญในการกำหนดเป้าหมาย และ การติดตามความก้าวหน้า หากองค์กรไม่มี KPI จะขาดการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งทำให้ทีมงานไม่รู้ว่าต้องทำอะไร และ ควรทำให้สำเร็จในระดับไหน ความสำคัญ: ตัวอย่าง: 2. ขาดการวัดผล และ ติดตามความคืบหน้า KPI ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงาน และ การบรรลุเป้าหมายได้ หากไม่มี KPI การติดตามผลจะเป็นไปได้ยาก และ ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าองค์กรกำลังไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ ความสำคัญ: ตัวอย่าง: 3.…

  • KPI คืออะไร

    KPI คืออะไร หลายๆคนอาจจะรู้แล้วว่า KPI ย่อมาจากคำว่า Key Performance Indicators หรือตัวชี้วัดผลสำคัญ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดและประเมินผลสำคัญของการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ในองค์กร แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ความ หมาย KPI คือ อะไรกันแน่ “KPI คือตัวชี้วัดที่สามารถบ่งบอกถึงความสำเร็จในการทำงานหรือการดำเนินงานตามเป้าหมายขององค์กรได้อย่างชัดเจน” ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตัวชี้วัดเหล่านี้สามารถเป็นตัวชี้วัดทางการเงิน เช่น ยอดขาย กำไรสุทธิ หรือตัวชี้วัดทางปฏิบัติการ เช่น ประสิทธิภาพในการผลิต ระยะเวลาในการตอบกลับลูกค้า หรือตัวชี้วัดทางคุณภาพ เช่น ระดับความพึงพอใจของลูกค้า การประเมิน KPI เป็นกระบวนการสำคัญที่ใช้ในการวัดผลและปรับปรุงความสำเร็จขององค์กรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประเภทของ KPI KPI สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ: ความสำคัญของ KPI KPI มีความสำคัญในหลายๆ ด้านของการดำเนินงาน เช่น: ประเภทของ KPI (Key Performance Indicator) สามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะการใช้และวัตถุประสงค์ที่ต้องการวัดผล ซึ่งแบ่งออกเป็นหลักๆ…

  • แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์

    การประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้บริหารสามารถทราบถึงปัญหาและโอกาสที่มีอยู่ และช่วยให้ทีมขายพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความสามารถในการทำงานได้อย่างเหมาะสม Photo by krakenimages on Unsplash จุดประสงค์ของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: การวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขาย การประเมินโปรโมทเซลส์เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ผู้จัดการสามารถทราบถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้า และสามารถวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้อย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น การสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขายของธุรกิจ: การใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเจ้าหน้าที่ด้านการขาย ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีในองค์กรและส่งเสริมพัฒนาการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการมีแบบฟอร์มที่เหมาะสมและสมบูรณ์ องค์กรจะสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทหรือองค์กรประเมินผลการทำงานของพนักงานขาย (Sales) หลังจากการทำการโปรโมทหรือแคมเปญการขาย เพื่อดูว่าแคมเปญนั้นๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการได้หรือไม่ รวมถึงการประเมินพัฒนาการของพนักงานขายในการทำงานและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จุดประสงค์ของการใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: โครงสร้างของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์จะมีหลายส่วนที่สำคัญ ประกอบด้วยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแคมเปญ, การประเมินประสิทธิภาพของพนักงานขาย, และผลลัพธ์ที่ได้รับจากการโปรโมท ตัวอย่างโครงสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ 1. ข้อมูลทั่วไป 2. การประเมินการทำงาน (Score 1-5) ให้คะแนนจาก 1-5 โดย 1 = ไม่พอใจที่สุด, 5 = พอใจมากที่สุด…

  • KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท

    การมี KPI หรือตัวชี้วัดผลสำคัญเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับบริษัทเพราะเหตุผลต่อไปนี้: Photo by Austin Distel on Unsplash KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท มีดังนี้ การวัดประสิทธิภาพและความสำเร็จKPI ช่วยให้บริษัทสามารถวัดความสำเร็จของกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำไปใช้ ตัวชี้วัดนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเห็นภาพรวมของผลการดำเนินงานได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น การวัดการเติบโตของรายได้, อัตรากำไร, หรืออัตราการปิดการขาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถประเมินว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นบรรลุผลหรือไม่ ตัวอย่าง:ถ้า KPI ของบริษัทคือการเพิ่มยอดขายขึ้น 20% ในปีนี้ หากบริษัทสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นจริง 20% ตามเป้าหมายนี้ ก็หมายความว่ากลยุทธ์การขายของบริษัทประสบความสำเร็จ การตัดสินใจที่มีข้อมูลสนับสนุนKPI เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารหรือแผนกต่าง ๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน ตัวชี้วัดเหล่านี้จะช่วยให้เห็นว่าอะไรทำงานได้ดีและอะไรต้องได้รับการปรับปรุง ตัวอย่าง:หาก KPI ของการตลาดคือต้นทุนต่อการได้มาของลูกค้า (Customer Acquisition Cost – CAC) สูงขึ้นกว่าปีก่อน แผนกการตลาดอาจต้องทบทวนกลยุทธ์การใช้จ่ายเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ในราคาที่เหมาะสม การปรับปรุงประสิทธิภาพการติดตาม KPI ช่วยให้บริษัทเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของการดำเนินงาน สามารถปรับกลยุทธ์เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมและทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปรับปรุงกระบวนการขายหรือการลดต้นทุนในการผลิต ตัวอย่าง:หาก KPI ของแผนกการผลิตคือ…

  • ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท

    การติดตามและวัดผลสำคัญ (Key Performance Indicators – KPIs) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทมีการตัดสินใจที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจได้ ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจตัวอย่าง KPI ที่เหมาะสมสำหรับบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารและทีมงานควรพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ Photo by LYCS Architecture on Unsplash ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัทที่คุณสามารถนำเอาไปใช้ได้: สรุป: การเลือกใช้ KPIs ที่เหมาะสมและมีความหมายสำหรับบริษัทเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท แต่ละแผนก KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดผลการดำเนินงานขององค์กรหรือแผนกต่าง ๆ ในบริษัท โดยช่วยให้บริษัทสามารถติดตามความก้าวหน้าและความสำเร็จของเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย KPI ที่เหมาะสมจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กร ในบทความนี้จะยกตัวอย่าง KPI ที่สามารถใช้สำหรับบริษัทในหลากหลายแผนก เช่น แผนกการเงิน, การตลาด, การขาย, และการบริการลูกค้า 1. KPI แผนกการเงิน KPI: อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit…

  • ตัวอย่าง KPI ของแผนกการเงิน

    KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและติดตามผลการดำเนินงานของแผนกหรือองค์กร ซึ่งสำหรับแผนกการเงิน KPI สามารถเน้นได้ทั้งด้านการเงินและด้านการบริหารจัดการทางการเงินขององค์กร ตัวอย่างของ KPI ของแผนกการเงิน ได้แก่ 1.อัตราการเรียกเก็บหนี้ (Debt Collection Rate) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินหนี้ที่สำเร็จการเรียกเก็บได้ต่อรายการเงินหนี้ทั้งหมดที่ต้องเรียกเก็บ 2.ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหนี้ (Cost of Debt Collection) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดเก็บหนี้ต่อยอดหนี้ที่เก็บได้ 3.ระยะเวลาการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญ (Cycle Time for Invoice Processing) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญทางการเงิน ตั้งแต่วันที่รับใบสำคัญจนถึงวันที่อนุมัติเสร็จสิ้น 4.อัตราผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment – ROI) วัดผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในกิจกรรมทางการเงิน เช่น การลงทุนในระบบสารสนเทศทางการเงินหรือการพัฒนากระบวนการทางการเงิน 5.อัตราค่าใช้จ่ายทั่วไป (Operating Expense Ratio) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของแผนกการเงินต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัท 6.ระยะเวลาในการประมวลผลการชำระเงิน (Payment Processing Time) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการประมวลผลการชำระเงิน ตั้งแต่วันที่รับคำขอชำระเงินจนถึงการชำระเงินจริง 7.อัตราความผิดพลาดในการบัญชี (Accounting Error…

  • ตัวอย่าง KPI สำหรับฝ่ายขาย

    KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดผลสำคัญสำหรับฝ่ายขาย มีหลากหลายอย่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของธุรกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ดังนี้คือตัวอย่างของ KPI สำหรับฝ่ายขาย วิธีการประเมิน รวบรวมยอดขายทั้งหมดจากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 2. ยอดขายต่อบุคคล (Sales per Individual) คำนวณจากยอดขายทั้งหมดหารด้วยจำนวนพนักงานขาย เป็นวิธีการวัดประสิทธิภาพของพนักงานแต่ละคนในทีม วิธีการประเมิน แบ่งยอดขายรวมด้วยจำนวนพนักงานขาย สูตร คำอธิบายสูตร 3. กำไรขั้นต้น (Gross Profit) นับจากยอดขายทั้งหมดลบด้วยต้นทุนทั้งหมด เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของฝ่ายขาย วิธีการประเมิน คำนวณจากยอดขายรวมหักต้นทุนของสินค้าที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 4. การเพิ่มลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) วัดจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้รับมาในระยะเวลาที่กำหนด เป็นการวัดความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ วิธีการประเมิน นับจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง สูตร คำอธิบายสูตร 5. การรักษาลูกค้า (Customer Retention) วัดอัตราการรักษาลูกค้าเก่าในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อดูความพึงพอใจของลูกค้าและความสามารถในการรักษาลูกค้า วิธีการประเมิน คำนวณอัตราส่วนของลูกค้าที่รักษาไว้…