Author: Admin

  • 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI (ตอน 2)

    เรามาต่อกันที่ 5 อันดับที่เหลือเลย ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอน 1 สามารถกดดูได้ที่ลิงค์นี้ คำถามที่พบบ่อยอันดับ 6: ฉันจะติดตามและวัดผล KPI ได้อย่างไร คำตอบ: การติดตามและวัดผล KPI นั้น เราจะใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น รายงานทางการเงิน แบบฟอร์มคำติชมของลูกค้า หรือซอฟต์แวร์การจัดการระบบประเมินผลอย่าง EsteeMATE เพื่อติดตามวัดผลอย่างง่ายๆ 1. กำหนดตัวชี้วัดและเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามผล ก่อนที่จะติดตามและวัดผล KPI ควรเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับลักษณะของ KPI ที่ตั้งขึ้น โดยสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้: 2. สร้างแดชบอร์ดการติดตามผล KPI การใช้ แดชบอร์ด ที่แสดงผล KPI แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทีมงานและผู้บริหารสามารถเห็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ทันที ตัวชี้วัดที่แสดงในแดชบอร์ดจะต้อง: ตัวอย่าง:หาก KPI ของแผนกการขายคือ “เพิ่มยอดขาย 10% ภายในไตรมาสนี้” แดชบอร์ดควรแสดงข้อมูลการขายทั้งหมดในช่วงเวลานั้น ๆ พร้อมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และการเปรียบเทียบยอดขายจริงกับยอดขายเป้าหมาย 3. ตั้งกรอบเวลาในการติดตาม ควรกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการติดตามผล KPI เพื่อให้สามารถประเมินผลและวัดความคืบหน้าได้…

  • 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI

    คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI การตั้ง KPI (Key Performance Indicators) เป็นส่วนสำคัญในการบริหารและประเมินผลการดำเนินงานขององค์กร และมีหลายคำถามที่มักเกิดขึ้นเกี่ยวกับ KPI ซึ่งมีความสำคัญในการเข้าใจแนวทางการใช้ KPI อย่างถูกต้อง นี่คือ 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI พร้อมคำอธิบายและตัวอย่างที่ละเอียด คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI เป็นคำถามข้อที่พบบ่อยมาเป็นอันดับ 1: KPI คืออะไร คำตอบ: KPI คือตัวชี้วัดประสิทธิภาพของการดำเนินงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าองค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด เราใช้ KPI เพื่อประเมินและติดตามประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง คำอธิบาย:KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินผลสำเร็จขององค์กรในด้านต่างๆ เช่น การเงิน การผลิต การบริการลูกค้า หรือการตลาด เพื่อให้ทราบว่าองค์กรหรือแผนกนั้นๆ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ตัวอย่าง: โดยมีแนวทางในการนำเอาไปใช้ดังนี้ เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนสำหรับองค์กรของคุณ จากนั้นระบุตัวชี้วัด หรือ KPI ที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น คำถามที่พบบ่อยอันดับ 2: เหตุใด KPI…

  • จะเป็นอย่างไร ถ้าหากองค์กรดำเนินงานโดยที่ไม่มี KPI

    ถ้าหากองค์กรดำเนินงานโดยที่ไม่มี KPI KPI (Key Performance Indicators) จะมีผลกระทบหลายประการในแง่ของประสิทธิภาพการทำงาน ความสามารถในการติดตามผล และ การบรรลุเป้าหมายขององค์กร รวมทั้งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจในด้านต่าง ๆ ภายในองค์กรอย่างมีนัยสำคัญ ต่อไปนี้คือการอธิบายผลกระทบที่จะเกิดขึ้นเมื่อองค์กรไม่มี KPI Photo by Francisco De Legarreta C. on Unsplash ถ้าหากองค์กรดำเนินงานโดยที่ไม่มี KPI 1. ขาดความชัดเจนในเป้าหมาย KPI คือเครื่องมือสำคัญในการกำหนดเป้าหมาย และ การติดตามความก้าวหน้า หากองค์กรไม่มี KPI จะขาดการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ซึ่งทำให้ทีมงานไม่รู้ว่าต้องทำอะไร และ ควรทำให้สำเร็จในระดับไหน ความสำคัญ: ตัวอย่าง: 2. ขาดการวัดผล และ ติดตามความคืบหน้า KPI ช่วยให้องค์กรสามารถติดตามความคืบหน้าในการดำเนินงาน และ การบรรลุเป้าหมายได้ หากไม่มี KPI การติดตามผลจะเป็นไปได้ยาก และ ทำให้ไม่สามารถระบุได้ว่าองค์กรกำลังไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่ ความสำคัญ: ตัวอย่าง: 3.…

  • KPI คืออะไร

    KPI คืออะไร หลายๆคนอาจจะรู้แล้วว่า KPI ย่อมาจากคำว่า Key Performance Indicators หรือตัวชี้วัดผลสำคัญ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดและประเมินผลสำคัญของการดำเนินงานหรือกิจกรรมต่าง ๆ ในองค์กร แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ความ หมาย KPI คือ อะไรกันแน่ “KPI คือตัวชี้วัดที่สามารถบ่งบอกถึงความสำเร็จในการทำงานหรือการดำเนินงานตามเป้าหมายขององค์กรได้อย่างชัดเจน” ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงการดำเนินงานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ตัวชี้วัดเหล่านี้สามารถเป็นตัวชี้วัดทางการเงิน เช่น ยอดขาย กำไรสุทธิ หรือตัวชี้วัดทางปฏิบัติการ เช่น ประสิทธิภาพในการผลิต ระยะเวลาในการตอบกลับลูกค้า หรือตัวชี้วัดทางคุณภาพ เช่น ระดับความพึงพอใจของลูกค้า การประเมิน KPI เป็นกระบวนการสำคัญที่ใช้ในการวัดผลและปรับปรุงความสำเร็จขององค์กรได้ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประเภทของ KPI KPI สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ: ความสำคัญของ KPI KPI มีความสำคัญในหลายๆ ด้านของการดำเนินงาน เช่น: ประเภทของ KPI (Key Performance Indicator) สามารถแบ่งออกได้ตามลักษณะการใช้และวัตถุประสงค์ที่ต้องการวัดผล ซึ่งแบ่งออกเป็นหลักๆ…

  • ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร

    OKRs (Objectives and Key Results) คือ ระบบการตั้งเป้าหมายและการวัดผลที่นิยมใช้ในองค์กรเพื่อให้ทีมงานทุกคนมุ่งไปในทิศทางเดียวกันและสามารถประเมินความสำเร็จของเป้าหมายได้ชัดเจน OKRs ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ Objectives (เป้าหมาย) และ Key Results (ผลลัพธ์ที่สำคัญ) ซึ่งเป้าหมายจะบ่งบอกถึงสิ่งที่องค์กรหรือทีมต้องการทำให้สำเร็จ ในขณะที่ Key Results จะเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินว่าได้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ Photo by engin akyurt on Unsplash ทำไม OKRs ถึงสำคัญต่อองค์กร 1. สร้างความชัดเจนในเป้าหมาย 2. การวัดผลและติดตามความคืบหน้า 3. กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม 4. สร้างความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ 5. สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว 6. การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งผลลัพธ์ 7. การเชื่อมโยงเป้าหมายของแต่ละทีมกับองค์กร ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร ตัวอย่างที่ 1: OKRs สำหรับการเติบโตของธุรกิจ การอธิบาย:…

  • ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR)

    by

    in

    ปัจจุบัน หลายๆคน คงมีการนำเอา OKRs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมการทำงานของทีมและให้การชี้วัดที่ชัดเจนสำหรับการวัดความสำเร็จของเป้าหมาย มาใช้กันในองค์กร โดยเฉพาะในงานทรัพยากรบุคคล OKRs เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำ OKRs ที่เกี่ยวพันกันกับวัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ OKRs (Objectives and Key Results) เป็นเครื่องมือการตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้แผนกต่าง ๆ ในองค์กรสามารถตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เพื่อให้สามารถพัฒนาและบรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้ โดยในส่วนของ แผนกทรัพยากรบุคคล (HR) การใช้ OKRs ช่วยให้ฝ่าย HR สามารถจัดการและประเมินผลกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารคนในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมายของ OKRs วัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) Objective 1: ปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากร (Recruitment Process) Key Results: การอธิบาย: การปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากรถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพื่อให้ฝ่าย HR สามารถหาคนที่เหมาะสมเข้าร่วมทีมได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตั้ง Key…

  • แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์

    การประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้บริหารสามารถทราบถึงปัญหาและโอกาสที่มีอยู่ และช่วยให้ทีมขายพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความสามารถในการทำงานได้อย่างเหมาะสม Photo by krakenimages on Unsplash จุดประสงค์ของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: การวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขาย การประเมินโปรโมทเซลส์เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ผู้จัดการสามารถทราบถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้า และสามารถวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้อย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น การสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขายของธุรกิจ: การใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเจ้าหน้าที่ด้านการขาย ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีในองค์กรและส่งเสริมพัฒนาการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการมีแบบฟอร์มที่เหมาะสมและสมบูรณ์ องค์กรจะสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทหรือองค์กรประเมินผลการทำงานของพนักงานขาย (Sales) หลังจากการทำการโปรโมทหรือแคมเปญการขาย เพื่อดูว่าแคมเปญนั้นๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการได้หรือไม่ รวมถึงการประเมินพัฒนาการของพนักงานขายในการทำงานและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จุดประสงค์ของการใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: โครงสร้างของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์จะมีหลายส่วนที่สำคัญ ประกอบด้วยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแคมเปญ, การประเมินประสิทธิภาพของพนักงานขาย, และผลลัพธ์ที่ได้รับจากการโปรโมท ตัวอย่างโครงสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ 1. ข้อมูลทั่วไป 2. การประเมินการทำงาน (Score 1-5) ให้คะแนนจาก 1-5 โดย 1 = ไม่พอใจที่สุด, 5 = พอใจมากที่สุด…

  • KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท

    การมี KPI หรือตัวชี้วัดผลสำคัญเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับบริษัทเพราะเหตุผลต่อไปนี้: Photo by Austin Distel on Unsplash KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท มีดังนี้ การวัดประสิทธิภาพและความสำเร็จKPI ช่วยให้บริษัทสามารถวัดความสำเร็จของกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำไปใช้ ตัวชี้วัดนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเห็นภาพรวมของผลการดำเนินงานได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น การวัดการเติบโตของรายได้, อัตรากำไร, หรืออัตราการปิดการขาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถประเมินว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นบรรลุผลหรือไม่ ตัวอย่าง:ถ้า KPI ของบริษัทคือการเพิ่มยอดขายขึ้น 20% ในปีนี้ หากบริษัทสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นจริง 20% ตามเป้าหมายนี้ ก็หมายความว่ากลยุทธ์การขายของบริษัทประสบความสำเร็จ การตัดสินใจที่มีข้อมูลสนับสนุนKPI เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารหรือแผนกต่าง ๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน ตัวชี้วัดเหล่านี้จะช่วยให้เห็นว่าอะไรทำงานได้ดีและอะไรต้องได้รับการปรับปรุง ตัวอย่าง:หาก KPI ของการตลาดคือต้นทุนต่อการได้มาของลูกค้า (Customer Acquisition Cost – CAC) สูงขึ้นกว่าปีก่อน แผนกการตลาดอาจต้องทบทวนกลยุทธ์การใช้จ่ายเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ในราคาที่เหมาะสม การปรับปรุงประสิทธิภาพการติดตาม KPI ช่วยให้บริษัทเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของการดำเนินงาน สามารถปรับกลยุทธ์เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมและทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปรับปรุงกระบวนการขายหรือการลดต้นทุนในการผลิต ตัวอย่าง:หาก KPI ของแผนกการผลิตคือ…

  • ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท

    การติดตามและวัดผลสำคัญ (Key Performance Indicators – KPIs) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทมีการตัดสินใจที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจได้ ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจตัวอย่าง KPI ที่เหมาะสมสำหรับบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารและทีมงานควรพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ Photo by LYCS Architecture on Unsplash ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัทที่คุณสามารถนำเอาไปใช้ได้: สรุป: การเลือกใช้ KPIs ที่เหมาะสมและมีความหมายสำหรับบริษัทเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท แต่ละแผนก KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดผลการดำเนินงานขององค์กรหรือแผนกต่าง ๆ ในบริษัท โดยช่วยให้บริษัทสามารถติดตามความก้าวหน้าและความสำเร็จของเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย KPI ที่เหมาะสมจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กร ในบทความนี้จะยกตัวอย่าง KPI ที่สามารถใช้สำหรับบริษัทในหลากหลายแผนก เช่น แผนกการเงิน, การตลาด, การขาย, และการบริการลูกค้า 1. KPI แผนกการเงิน KPI: อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit…

  • ตัวอย่าง KPI ของแผนกการเงิน

    KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและติดตามผลการดำเนินงานของแผนกหรือองค์กร ซึ่งสำหรับแผนกการเงิน KPI สามารถเน้นได้ทั้งด้านการเงินและด้านการบริหารจัดการทางการเงินขององค์กร ตัวอย่างของ KPI ของแผนกการเงิน ได้แก่ 1.อัตราการเรียกเก็บหนี้ (Debt Collection Rate) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินหนี้ที่สำเร็จการเรียกเก็บได้ต่อรายการเงินหนี้ทั้งหมดที่ต้องเรียกเก็บ 2.ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหนี้ (Cost of Debt Collection) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดเก็บหนี้ต่อยอดหนี้ที่เก็บได้ 3.ระยะเวลาการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญ (Cycle Time for Invoice Processing) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญทางการเงิน ตั้งแต่วันที่รับใบสำคัญจนถึงวันที่อนุมัติเสร็จสิ้น 4.อัตราผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment – ROI) วัดผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในกิจกรรมทางการเงิน เช่น การลงทุนในระบบสารสนเทศทางการเงินหรือการพัฒนากระบวนการทางการเงิน 5.อัตราค่าใช้จ่ายทั่วไป (Operating Expense Ratio) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของแผนกการเงินต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัท 6.ระยะเวลาในการประมวลผลการชำระเงิน (Payment Processing Time) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการประมวลผลการชำระเงิน ตั้งแต่วันที่รับคำขอชำระเงินจนถึงการชำระเงินจริง 7.อัตราความผิดพลาดในการบัญชี (Accounting Error…