Author: Admin

  • ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR)

    by

    in

    ปัจจุบัน หลายๆคน คงมีการนำเอา OKRs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมการทำงานของทีมและให้การชี้วัดที่ชัดเจนสำหรับการวัดความสำเร็จของเป้าหมาย มาใช้กันในองค์กร โดยเฉพาะในงานทรัพยากรบุคคล OKRs เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำ OKRs ที่เกี่ยวพันกันกับวัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ OKRs (Objectives and Key Results) เป็นเครื่องมือการตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้แผนกต่าง ๆ ในองค์กรสามารถตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เพื่อให้สามารถพัฒนาและบรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้ โดยในส่วนของ แผนกทรัพยากรบุคคล (HR) การใช้ OKRs ช่วยให้ฝ่าย HR สามารถจัดการและประเมินผลกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารคนในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมายของ OKRs วัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) Objective 1: ปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากร (Recruitment Process) Key Results: การอธิบาย: การปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากรถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพื่อให้ฝ่าย HR สามารถหาคนที่เหมาะสมเข้าร่วมทีมได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตั้ง Key…

  • แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์

    การประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้บริหารสามารถทราบถึงปัญหาและโอกาสที่มีอยู่ และช่วยให้ทีมขายพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความสามารถในการทำงานได้อย่างเหมาะสม Photo by krakenimages on Unsplash จุดประสงค์ของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: การวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขาย การประเมินโปรโมทเซลส์เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ผู้จัดการสามารถทราบถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้า และสามารถวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้อย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น การสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขายของธุรกิจ: การใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเจ้าหน้าที่ด้านการขาย ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีในองค์กรและส่งเสริมพัฒนาการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการมีแบบฟอร์มที่เหมาะสมและสมบูรณ์ องค์กรจะสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทหรือองค์กรประเมินผลการทำงานของพนักงานขาย (Sales) หลังจากการทำการโปรโมทหรือแคมเปญการขาย เพื่อดูว่าแคมเปญนั้นๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการได้หรือไม่ รวมถึงการประเมินพัฒนาการของพนักงานขายในการทำงานและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จุดประสงค์ของการใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: โครงสร้างของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์จะมีหลายส่วนที่สำคัญ ประกอบด้วยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแคมเปญ, การประเมินประสิทธิภาพของพนักงานขาย, และผลลัพธ์ที่ได้รับจากการโปรโมท ตัวอย่างโครงสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ 1. ข้อมูลทั่วไป 2. การประเมินการทำงาน (Score 1-5) ให้คะแนนจาก 1-5 โดย 1 = ไม่พอใจที่สุด, 5 = พอใจมากที่สุด…

  • KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท

    การมี KPI หรือตัวชี้วัดผลสำคัญเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับบริษัทเพราะเหตุผลต่อไปนี้: Photo by Austin Distel on Unsplash KPI สำคัญอย่างไรต่อบริษัท มีดังนี้ การวัดประสิทธิภาพและความสำเร็จKPI ช่วยให้บริษัทสามารถวัดความสำเร็จของกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่นำไปใช้ ตัวชี้วัดนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเห็นภาพรวมของผลการดำเนินงานได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น การวัดการเติบโตของรายได้, อัตรากำไร, หรืออัตราการปิดการขาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถประเมินว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นบรรลุผลหรือไม่ ตัวอย่าง:ถ้า KPI ของบริษัทคือการเพิ่มยอดขายขึ้น 20% ในปีนี้ หากบริษัทสามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นจริง 20% ตามเป้าหมายนี้ ก็หมายความว่ากลยุทธ์การขายของบริษัทประสบความสำเร็จ การตัดสินใจที่มีข้อมูลสนับสนุนKPI เป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารหรือแผนกต่าง ๆ สามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลสนับสนุน ตัวชี้วัดเหล่านี้จะช่วยให้เห็นว่าอะไรทำงานได้ดีและอะไรต้องได้รับการปรับปรุง ตัวอย่าง:หาก KPI ของการตลาดคือต้นทุนต่อการได้มาของลูกค้า (Customer Acquisition Cost – CAC) สูงขึ้นกว่าปีก่อน แผนกการตลาดอาจต้องทบทวนกลยุทธ์การใช้จ่ายเพื่อให้ได้ลูกค้าใหม่ในราคาที่เหมาะสม การปรับปรุงประสิทธิภาพการติดตาม KPI ช่วยให้บริษัทเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งของการดำเนินงาน สามารถปรับกลยุทธ์เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมและทำให้การดำเนินงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การปรับปรุงกระบวนการขายหรือการลดต้นทุนในการผลิต ตัวอย่าง:หาก KPI ของแผนกการผลิตคือ…

  • ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท

    การติดตามและวัดผลสำคัญ (Key Performance Indicators – KPIs) เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้บริษัทมีการตัดสินใจที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและมั่นใจได้ ด้วยเหตุนี้ การเข้าใจตัวอย่าง KPI ที่เหมาะสมสำหรับบริษัทจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้บริหารและทีมงานควรพิจารณาอย่างสม่ำเสมอ Photo by LYCS Architecture on Unsplash ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัทที่คุณสามารถนำเอาไปใช้ได้: สรุป: การเลือกใช้ KPIs ที่เหมาะสมและมีความหมายสำหรับบริษัทเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง KPI สำหรับบริษัท แต่ละแผนก KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการวัดผลการดำเนินงานขององค์กรหรือแผนกต่าง ๆ ในบริษัท โดยช่วยให้บริษัทสามารถติดตามความก้าวหน้าและความสำเร็จของเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย KPI ที่เหมาะสมจะต้องสอดคล้องกับเป้าหมายและกลยุทธ์ขององค์กร ในบทความนี้จะยกตัวอย่าง KPI ที่สามารถใช้สำหรับบริษัทในหลากหลายแผนก เช่น แผนกการเงิน, การตลาด, การขาย, และการบริการลูกค้า 1. KPI แผนกการเงิน KPI: อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit…

  • ตัวอย่าง KPI ของแผนกการเงิน

    KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและติดตามผลการดำเนินงานของแผนกหรือองค์กร ซึ่งสำหรับแผนกการเงิน KPI สามารถเน้นได้ทั้งด้านการเงินและด้านการบริหารจัดการทางการเงินขององค์กร ตัวอย่างของ KPI ของแผนกการเงิน ได้แก่ 1.อัตราการเรียกเก็บหนี้ (Debt Collection Rate) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินหนี้ที่สำเร็จการเรียกเก็บได้ต่อรายการเงินหนี้ทั้งหมดที่ต้องเรียกเก็บ 2.ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหนี้ (Cost of Debt Collection) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดเก็บหนี้ต่อยอดหนี้ที่เก็บได้ 3.ระยะเวลาการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญ (Cycle Time for Invoice Processing) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญทางการเงิน ตั้งแต่วันที่รับใบสำคัญจนถึงวันที่อนุมัติเสร็จสิ้น 4.อัตราผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment – ROI) วัดผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในกิจกรรมทางการเงิน เช่น การลงทุนในระบบสารสนเทศทางการเงินหรือการพัฒนากระบวนการทางการเงิน 5.อัตราค่าใช้จ่ายทั่วไป (Operating Expense Ratio) วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของแผนกการเงินต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัท 6.ระยะเวลาในการประมวลผลการชำระเงิน (Payment Processing Time) วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการประมวลผลการชำระเงิน ตั้งแต่วันที่รับคำขอชำระเงินจนถึงการชำระเงินจริง 7.อัตราความผิดพลาดในการบัญชี (Accounting Error…

  • ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน มีอะไรบ้าง

    ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน หรือดัชนีชี้วัดผลงานของผู้บริหาร คือตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสำเร็จของการบริหารงาน การนำทีม และการสนับสนุนเป้าหมายขององค์กร โดยตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะงาน ภาระกิจ และเป้าหมายของแต่ละฝ่ายหรือแผนก ตัวอย่างของ Key Performance Indicators (KPIs) ที่อาจจะใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของหัวหน้างาน ได้แก่ ตัวอย่าง KPI ของหัวหน้างาน พร้อมการอธิบายและวิธีการคำนวณ ตัวอย่างเช่น ถ้าใน 1 วัน ทีมผลิตสินค้าได้ 500 ชิ้น และใช้เวลา 8 ชั่วโมง 2. Employee Engagement (การมีส่วนร่วมของพนักงาน) ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามี 75% ของพนักงานที่พึงพอใจหรือมีส่วนร่วมในทีม 3. Quality of Work (คุณภาพของงาน) 4. Team Attendance (การเข้าร่วมงานของทีม) 5. Training and Development (การฝึกอบรมและพัฒนา)…

  • ประโยชน์และผลลัพธ์ ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

    ประโยชน์และผลลัพธ์ การใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ การใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณเป็นการทำให้ธุรกิจมีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ การใช้ระบบนี้มี ประโยชน์และผลลัพธ์ ที่สำคัญต่อธุรกิจ ดังนี้ Photo by krakenimages on Unsplash ประโยชน์จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสม 1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ระบบประเมินผลงานช่วยให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบ และวัดผลการทำงานของพนักงานได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถระบุได้ว่าพนักงานคนไหนมีผลการทำงานที่ดีหรือไม่ดี และต้องการการพัฒนาในด้านใด ตัวอย่างเช่น 2. การพัฒนาความสามารถของพนักงาน เมื่อทราบถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของพนักงานจากการประเมินผล ทำให้สามารถจัดการฝึกอบรมหรือพัฒนาทักษะที่จำเป็นได้ตรงจุด ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และพัฒนาไปในทิศทางที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น 3. สร้างแรงจูงใจและความพึงพอใจในงาน การประเมินผลงานที่มีความยุติธรรม และโปร่งใสสามารถสร้างแรงจูงใจให้กับพนักงาน เพราะพวกเขาจะรู้สึกว่าความพยายามที่ทำไปนั้นได้รับการยอมรับและมีคุณค่า ตัวอย่างเช่น 4. การกำหนดทิศทางการเติบโตและการสรรหาบุคลากร ระบบประเมินผลงานช่วยให้ธุรกิจสามารถมองเห็นทิศทางการเติบโตของพนักงานและกำหนดเส้นทางความก้าวหน้าในองค์กรได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถสรรหาบุคลากรที่เหมาะสมกับความต้องการขององค์กรได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น 5. เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ ธุรกิจที่ใช้ระบบประเมินผลงานที่มีประสิทธิภาพจะสามารถพัฒนาและรักษาทีมงานที่มีความสามารถได้ดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดและเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ตัวอย่างเช่น 6. การตัดสินใจที่ดีขึ้นในการจัดสรรทรัพยากร การมีข้อมูลจากระบบประเมินผลงานจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถตัดสินใจในการจัดสรรทรัพยากร (เช่น งบประมาณในการฝึกอบรม หรือโบนัส) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเช่น ผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงาน 1.…

  • “ประเมินผลงานของพนักงาน” ระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

    การ ประเมินผลงานของพนักงาน เป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร การประเมินผลงานไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้บริหารทราบถึงความสามารถ ความเป็นมืออาชีพ และความก้าวหน้าของพนักงาน แต่ยังช่วยให้พนักงานทราบถึงความคาดหวัง ความสำเร็จ และความต้องการพัฒนาตนเอง นอกจากนี้การประเมินผลงานยังเป็นเครื่องมือในการให้รางวัล การเลื่อนตำแหน่ง การกำหนดเงินเดือน และการวางแผนการพัฒนาทักษะของพนักงาน อย่างไรก็ตามการสร้างระบบประเมินผลงานของพนักงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณไม่ใช่เรื่องง่าย คุณต้องพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ลักษณะงาน วัฒนธรรมองค์กร ความต้องการของพนักงาน และเทคโนโลยีที่มีอยู่ หากคุณใช้ระบบประเมินผลงานที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้เกิดผลเสียต่อการทำงาน การร่วมมือ และการมีส่วนร่วมของพนักงาน ดังนั้นคุณต้องรู้วิธีการสร้างระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ในบทความนี้ เราจะอธิบายหลักการและขั้นตอนในการสร้างระบบประเมินผลงานของพนักงาน และวิธีการปรับระบบประเมินผลงานให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ นอกจากนี้เรายังจะอธิบายประโยชน์และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ การสร้างระบบ ประเมินผลงานของพนักงาน มีหลักการและขั้นตอน ดังนี้ การปรับระบบประเมินผลงานให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณเป็นกระบวนการที่ต้องใช้การวิเคราะห์ การทดลอง และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง คุณไม่สามารถใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมือนกันกับองค์กรอื่นได้ เพราะธุรกิจของคุณมีลักษณะ วัตถุประสงค์ และความแตกต่างเฉพาะตัว ดังนั้นคุณต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการประเมินผลงานของพนักงาน ได้แก่ ระบบที่เหมาะสมกับธุรกิจสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น 1. ระบบการประเมินผลแบบ 360 องศา (360-Degree Feedback) 2. ระบบการประเมินผลตามเป้าหมาย (Management by…

  • ตัวอย่าง kpi สำหรับงานแอดมิน

    งานแอดมินมีหน้าที่หลากหลายและมุ่งเน้นในการสนับสนุนทำให้ธุรกิจทำงานได้สะดวกและประสานงานได้ดีขึ้น การกำหนด KPI (Key Performance Indicator) สำหรับงานแอดมินมีความสำคัญหลายประการ เพราะการกำหนด KPI ช่วยในการวัดประสิทธิภาพและผลลัพธ์ของงานแอดมิน ว่ามีความสามารถในการทำงานตามเป้าหมายและข้อกำหนดที่ตั้งไว้หรือไม่ ซึ่งจะช่วยให้ผู้บริหารสามารถติดตามและประเมินผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ KPI ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของงานแอดมิน โดยทำให้พนักงานสามารถเห็นภาพรวมของความสำเร็จและข้อบกพร่องในการทำงาน ทำให้สามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังช่วยในการสร้างความโปร่งใสในการทำงาน โดยทุกคนในทีมสามารถเห็นถึงเป้าหมายและผลการทำงาน ซึ่งช่วยในการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างสมาชิกในทีม มากไปกว่านั้น KPI ยังช่วยในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนสำหรับงานแอดมิน ทำให้พนักงานสามารถรู้ว่าความสำเร็จของตนถูกวัดจากอะไรและต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนั้น นอกจากนี้ KPI ยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นและให้แรงจูงใจแก่พนักงาน โดยการตั้งเป้าหมายที่ท้าทายและสามารถวัดผลได้ ช่วยให้พนักงานมีความกระตือรือร้นในการทำงานและพยายามพัฒนาตนเอง ท้ายสุดแล้ว การกำหนด KPI สำหรับงานแอดมินยังช่วยในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ด้วยข้อมูลที่ได้จาก KPI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทำงาน ทำให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและลดข้อผิดพลาดในการทำงานได้ การกำหนด KPI สำหรับงานแอดมินจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงานและสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ Photo by Campaign Creators on Unsplash การตั้ง KPI (Key Performance Indicator) สำหรับงานแอดมิน (Admin) มีความสำคัญเพื่อให้สามารถวัดผลการทำงานและประเมินความสำเร็จได้อย่างชัดเจน ในบทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ…

  • กำหนด KPI สำหรับพนักงานในร้านอาหาร

    พนักงานที่ทำงานในร้านอาหาร ถือเป็นด่านหน้าที่จะเจอลูกค้าเป็นคนแรก ดังนั้นพนักงานที่ดีจะสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีในการบริการให้กับลูกค้าได้ การกำหนด KPI สำหรับพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้พนักงานเข้าใจความสำคัญของหน้าที่และการปฏิบัติงานของพวกเขา Photo by Vanna Phon on Unsplash ตัวอย่างของ KPI ที่เหมาะสมสำหรับพนักงานเสิร์ฟได้แก่: ตัวอย่าง KPI สำหรับพนักงานเสิร์ฟ คำอธิบาย วัดระยะเวลาตั้งแต่พนักงานเสิร์ฟเริ่มรับคำสั่งจนถึงการเสิร์ฟอาหารให้ลูกค้า ตัวอย่างการคำนวณ หากเวลาในการเสิร์ฟเฉลี่ยของพนักงานเสิร์ฟ 1 คือ 8 นาที/โต๊ะ และเป้าหมายคือ 7 นาที/โต๊ะ ดังนั้นถ้าใช้เวลาในการเสิร์ฟ 8 นาทีจะถือว่าไม่ผ่าน KPI การคำนวณ ถ้าทั้งหมดมี 100 โต๊ะ ที่เสิร์ฟเสร็จในเวลา 7 นาที หรือเร็วกว่านั้น = 100 โต๊ะ คำนวณเปอร์เซ็นต์: (จำนวนโต๊ะที่เสิร์ฟทันเวลาความต้องการ / จำนวนโต๊ะทั้งหมด) × 100 = (100 / 100) ×…