Category: evaluation
-
ตัวอย่าง Job Description และ KPI ของตำแหน่ง Accounting Officer
ตัวอย่าง JD หรือ job description ของตำแหน่ง Accounting Officer มีดังต่อไปนี้: Photo by NORTHFOLK on Unsplash 1. Overseeing Financial Operations รับผิดชอบในการจัดการกิจกรรมทางการเงินประจำวันขององค์กร รวมถึงการบริหารเงินสด การจ่ายเงินและรับเงิน และการดำเนินการเกี่ยวกับเงินเดือน 2. Financial Reporting จัดเตรียมและตรวจสอบรายงานทางการเงิน เช่น งบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความถูกต้องและสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 3. Budgeting and Forecasting พัฒนากระบวนการจัดทำงบประมาณและการพยากรณ์ เพื่อช่วยให้องค์กรสามารถตัดสินใจทางการเงินอย่างมีข้อมูล 4. Compliance with Laws and Regulations ตรวจสอบและติดตามว่าองค์กรปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชี กฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง เช่น หลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป (GAAP) หรือมาตรฐานการรายงานทางการเงินระหว่างประเทศ (IFRS) 5. Internal Controls จัดทำและดูแลระบบควบคุมภายใน…
-
ฟีเจอร์ของระบบ Performance Management System
ฟีเจอร์ของระบบ Performance Management System (PMS) ระบบ Performance Management System (PMS) คือระบบที่ช่วยองค์กรในการติดตามและประเมินผลการทำงานของพนักงาน เพื่อให้สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพและผลลัพธ์ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์หลักของระบบ PMS มีหลากหลายที่รองรับกระบวนการติดตาม ประเมินผล และพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ต่อไปนี้คือฟีเจอร์หลัก ๆ ของระบบ PMS 1. การตั้งเป้าหมาย (Goal Setting) 2. การประเมินผลการทำงาน (Performance Appraisal) 3. การให้ข้อเสนอแนะ (Feedback Management) 4. การติดตามและประเมินผล KPI (Key Performance Indicators) 5. การประเมินความพึงพอใจของพนักงาน (Employee Engagement) 6. การวางแผนและพัฒนาทักษะ (Development Planning) 7. การจัดการการฝึกอบรม (Training Management) 8. การตั้งระบบการยอมรับ (Recognition System)…
-
ตัวอย่าง Job Description และ KPI : 3D Designer Support Manager
3D Designer Support Manager หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. Technical Support: Provide expert technical assistance to 3D designers, troubleshoot issues, and resolve problems related to 3D modeling software, rendering engines, and other relevant tools.2. Design Process Optimization: Analyze workflows, identify bottlenecks, and suggest improvements to streamline design processes, reducing errors and increasing productivity.3. Training and Mentoring: Develop and…
-
ประเมินผลงานพนักงาน มีแบบไหนบ้าง
ประเมินผลงานพนักงาน (Employee Performance Evaluation) คือ กระบวนการที่องค์กรใช้เพื่อวัดผลการทำงานของพนักงาน โดยใช้เกณฑ์ต่างๆ ที่มีความสำคัญต่อตำแหน่งงานหรือวัตถุประสงค์ขององค์กร วิธีการประเมินมีหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับนโยบาย และวัฒนธรรมขององค์กร รวมถึงประเภทงานที่พนักงานทำด้วย ประเมินผลงานพนักงาน ต่อไปนี้จะขออธิบาย ประเภทของการประเมินผลงานพนักงาน พร้อมตัวอย่างที่ใช้ในสถานการณ์ต่างๆ 1. การประเมินผลแบบ 360 องศา (360-Degree Feedback) ลักษณะ:การประเมินผลแบบ 360 องศาเป็นการเก็บข้อมูลจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นจากหัวหน้างาน, เพื่อนร่วมงาน, ลูกน้อง และตัวพนักงานเอง การประเมินผลในลักษณะนี้จะช่วยให้ได้มุมมองที่ครบถ้วน และ หลากหลายมิติ ตัวอย่าง: ข้อดี: ข้อเสีย: 2. การประเมินผลจากผลการทำงาน (Key Performance Indicators: KPI) ลักษณะ:การประเมินผลจาก KPI จะประเมินตามตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับผลลัพธ์การทำงานที่ตั้งไว้ล่วงหน้า เช่น ยอดขาย, การผลิต, คุณภาพงาน หรือการให้บริการลูกค้า ตัวชี้วัดเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ประเมินเห็นได้ชัดเจนว่าพนักงานทำผลงานได้ตามเป้าหมายหรือไม่ ตัวอย่าง: ข้อดี: ข้อเสีย: 3. การประเมินผลแบบการตั้งเป้าหมาย…
-
ตัวอย่าง Job Description และ KPI ของตำแหน่ง 3D Animator
JD ของตำแหน่งงาน 3D Animator มักจะระบุความต้องการของพนักงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการสร้างและพัฒนาภาพเคลื่อนไหว 3 มิติสำหรับโปรเจคต่าง ๆ รวมถึงเกม, ภาพยนตร์, และโฆษณา ผู้ที่สนใจจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะด้านเทคนิคที่ดีเยี่ยม Photo by Mo Eid: https://www.pexels.com/photo/person-in-black-shirt-walking-on-sand-8347501/ ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่งงาน 3D Animator: 1. Conceptualize and design: พัฒนาแนวคิดสำหรับการออกแบบตัวละคร, อุปกรณ์ประกอบฉาก และสภาพแวดล้อมตามบท, สตอรีบอร์ด หรือคำสั่งการ 2. Modeling: สร้างโมเดลสามมิติของตัวละคร, วัตถุ และสภาพแวดล้อมโดยใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD) หรือเครื่องมือทำโมเดล 3D เช่น Maya, Blender, หรือ ZBrush 3. Texturing and shading: ใส่พื้นผิว, สี และเอฟเฟกต์แสงให้กับโมเดล 3D เพื่อให้มีความสมจริง 4.…
-
10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI (ตอน 2)
เรามาต่อกันที่ 5 อันดับที่เหลือเลย ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอน 1 สามารถกดดูได้ที่ลิงค์นี้ คำถามที่พบบ่อยอันดับ 6: ฉันจะติดตามและวัดผล KPI ได้อย่างไร คำตอบ: การติดตามและวัดผล KPI นั้น เราจะใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น รายงานทางการเงิน แบบฟอร์มคำติชมของลูกค้า หรือซอฟต์แวร์การจัดการระบบประเมินผลอย่าง EsteeMATE เพื่อติดตามวัดผลอย่างง่ายๆ 1. กำหนดตัวชี้วัดและเครื่องมือที่ใช้ในการติดตามผล ก่อนที่จะติดตามและวัดผล KPI ควรเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมกับลักษณะของ KPI ที่ตั้งขึ้น โดยสามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้: 2. สร้างแดชบอร์ดการติดตามผล KPI การใช้ แดชบอร์ด ที่แสดงผล KPI แบบเรียลไทม์ ช่วยให้ทีมงานและผู้บริหารสามารถเห็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ทันที ตัวชี้วัดที่แสดงในแดชบอร์ดจะต้อง: ตัวอย่าง:หาก KPI ของแผนกการขายคือ “เพิ่มยอดขาย 10% ภายในไตรมาสนี้” แดชบอร์ดควรแสดงข้อมูลการขายทั้งหมดในช่วงเวลานั้น ๆ พร้อมกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ และการเปรียบเทียบยอดขายจริงกับยอดขายเป้าหมาย 3. ตั้งกรอบเวลาในการติดตาม ควรกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการติดตามผล KPI เพื่อให้สามารถประเมินผลและวัดความคืบหน้าได้…
-
10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI
คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI การตั้ง KPI (Key Performance Indicators) เป็นส่วนสำคัญในการบริหารและประเมินผลการดำเนินงานขององค์กร และมีหลายคำถามที่มักเกิดขึ้นเกี่ยวกับ KPI ซึ่งมีความสำคัญในการเข้าใจแนวทางการใช้ KPI อย่างถูกต้อง นี่คือ 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI พร้อมคำอธิบายและตัวอย่างที่ละเอียด คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI เป็นคำถามข้อที่พบบ่อยมาเป็นอันดับ 1: KPI คืออะไร คำตอบ: KPI คือตัวชี้วัดประสิทธิภาพของการดำเนินงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าองค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด เราใช้ KPI เพื่อประเมินและติดตามประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง คำอธิบาย:KPI (Key Performance Indicators) คือ ตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินผลสำเร็จขององค์กรในด้านต่างๆ เช่น การเงิน การผลิต การบริการลูกค้า หรือการตลาด เพื่อให้ทราบว่าองค์กรหรือแผนกนั้นๆ บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ตัวอย่าง: โดยมีแนวทางในการนำเอาไปใช้ดังนี้ เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนสำหรับองค์กรของคุณ จากนั้นระบุตัวชี้วัด หรือ KPI ที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น คำถามที่พบบ่อยอันดับ 2: เหตุใด KPI…
-
ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร
OKRs (Objectives and Key Results) คือ ระบบการตั้งเป้าหมายและการวัดผลที่นิยมใช้ในองค์กรเพื่อให้ทีมงานทุกคนมุ่งไปในทิศทางเดียวกันและสามารถประเมินความสำเร็จของเป้าหมายได้ชัดเจน OKRs ประกอบด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ คือ Objectives (เป้าหมาย) และ Key Results (ผลลัพธ์ที่สำคัญ) ซึ่งเป้าหมายจะบ่งบอกถึงสิ่งที่องค์กรหรือทีมต้องการทำให้สำเร็จ ในขณะที่ Key Results จะเป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมินว่าได้บรรลุเป้าหมายหรือไม่ Photo by engin akyurt on Unsplash ทำไม OKRs ถึงสำคัญต่อองค์กร 1. สร้างความชัดเจนในเป้าหมาย 2. การวัดผลและติดตามความคืบหน้า 3. กระตุ้นให้ทุกคนมีส่วนร่วม 4. สร้างความยืดหยุ่นในการปรับกลยุทธ์ 5. สนับสนุนการเติบโตในระยะยาว 6. การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่มุ่งผลลัพธ์ 7. การเชื่อมโยงเป้าหมายของแต่ละทีมกับองค์กร ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร ตัวอย่างที่ 1: OKRs สำหรับการเติบโตของธุรกิจ การอธิบาย:…
-
ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR)
ปัจจุบัน หลายๆคน คงมีการนำเอา OKRs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมการทำงานของทีมและให้การชี้วัดที่ชัดเจนสำหรับการวัดความสำเร็จของเป้าหมาย มาใช้กันในองค์กร โดยเฉพาะในงานทรัพยากรบุคคล OKRs เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำ OKRs ที่เกี่ยวพันกันกับวัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ OKRs (Objectives and Key Results) เป็นเครื่องมือการตั้งเป้าหมายที่ช่วยให้แผนกต่าง ๆ ในองค์กรสามารถตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและวัดผลได้ เพื่อให้สามารถพัฒนาและบรรลุผลสำเร็จตามที่กำหนดไว้ โดยในส่วนของ แผนกทรัพยากรบุคคล (HR) การใช้ OKRs ช่วยให้ฝ่าย HR สามารถจัดการและประเมินผลกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารคนในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมายของ OKRs วัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) Objective 1: ปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากร (Recruitment Process) Key Results: การอธิบาย: การปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากรถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เพื่อให้ฝ่าย HR สามารถหาคนที่เหมาะสมเข้าร่วมทีมได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการตั้ง Key…
-
แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์
การประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้บริหารสามารถทราบถึงปัญหาและโอกาสที่มีอยู่ และช่วยให้ทีมขายพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความสามารถในการทำงานได้อย่างเหมาะสม Photo by krakenimages on Unsplash จุดประสงค์ของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: การวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขาย การประเมินโปรโมทเซลส์เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ผู้จัดการสามารถทราบถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้า และสามารถวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้อย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น การสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขายของธุรกิจ: การใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเจ้าหน้าที่ด้านการขาย ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีในองค์กรและส่งเสริมพัฒนาการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการมีแบบฟอร์มที่เหมาะสมและสมบูรณ์ องค์กรจะสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทหรือองค์กรประเมินผลการทำงานของพนักงานขาย (Sales) หลังจากการทำการโปรโมทหรือแคมเปญการขาย เพื่อดูว่าแคมเปญนั้นๆ สามารถบรรลุเป้าหมายและผลลัพธ์ที่ต้องการได้หรือไม่ รวมถึงการประเมินพัฒนาการของพนักงานขายในการทำงานและการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย จุดประสงค์ของการใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: โครงสร้างของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์จะมีหลายส่วนที่สำคัญ ประกอบด้วยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับแคมเปญ, การประเมินประสิทธิภาพของพนักงานขาย, และผลลัพธ์ที่ได้รับจากการโปรโมท ตัวอย่างโครงสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ 1. ข้อมูลทั่วไป 2. การประเมินการทำงาน (Score 1-5) ให้คะแนนจาก 1-5 โดย 1 = ไม่พอใจที่สุด, 5 = พอใจมากที่สุด…