Category: evaluation

  • ตัวอย่าง Job Description และ KPI : 3D Designer Support Manager

    หน้าที่ความรับผิดชอบ: 1. Technical Support: Provide expert technical assistance to 3D designers, troubleshoot issues, and resolve problems related to 3D modeling software, rendering engines, and other relevant tools.2. Design Process Optimization: Analyze workflows, identify bottlenecks, and suggest improvements to streamline design processes, reducing errors and increasing productivity.3. Training and Mentoring: Develop and deliver training sessions, workshops,…

  • ประเมินผลงานพนักงาน มีแบบไหนบ้าง

    การประเมินผลงานของพนักงาน หรือที่เรียกกันว่า Performance Appraisal ในองค์กรมีหลายรูปแบบ และวิธีต่าง ๆ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของธุรกิจและองค์กร รูปแบบการประเมินผลงานของพนักงานที่มีการเอามาใช้กันบ่อยๆ ได้แก่: นอกเหนือจากนี้แล้ว ในบางองค์กรเรายังอาจจะเห็นการนำเอารูปแบบการประเมินใหม่ๆอย่าง OKRs หรือ Rubric มาใช้กันได้อีก ซึ่งการเลือกใช้รูปแบบการประเมินผลงานที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับลักษณะของธุรกิจ, วัตถุประสงค์ของการประเมิน และวัฒนธรรมองค์กร การใช้วิธีการที่เหมาะสมจะช่วยให้การประเมินผลงานมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของพนักงานได้อย่างเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

  • ตัวอย่าง Job Description และ KPI ของตำแหน่ง 3D Animator

    JD ของตำแหน่งงาน 3D Animator มักจะระบุความต้องการของพนักงานที่มีความสามารถและประสบการณ์ในการสร้างและพัฒนาภาพเคลื่อนไหว 3 มิติสำหรับโปรเจคต่าง ๆ รวมถึงเกม, ภาพยนตร์, และโฆษณา ผู้ที่สนใจจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์และมีทักษะด้านเทคนิคที่ดีเยี่ยม Photo by Mo Eid: https://www.pexels.com/photo/person-in-black-shirt-walking-on-sand-8347501/ ตัวอย่าง Job Description ของตำแหน่งงาน 3D Animator: 1. Conceptualize and design: พัฒนาแนวคิดสำหรับการออกแบบตัวละคร, อุปกรณ์ประกอบฉาก และสภาพแวดล้อมตามบท, สตอรีบอร์ด หรือคำสั่งการ 2. Modeling: สร้างโมเดลสามมิติของตัวละคร, วัตถุ และสภาพแวดล้อมโดยใช้ซอฟต์แวร์ออกแบบด้วยคอมพิวเตอร์ (CAD) หรือเครื่องมือทำโมเดล 3D เช่น Maya, Blender, หรือ ZBrush 3. Texturing and shading: ใส่พื้นผิว, สี และเอฟเฟกต์แสงให้กับโมเดล 3D เพื่อให้มีความสมจริง 4.…

  • 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI (ตอน 2)

    เรามาต่อกันที่ 5 อันดับที่เหลือเลย ถ้าใครยังไม่ได้อ่านตอน 1 สามารถกดดูได้ที่ลิงค์นี้ คำถามที่พบบ่อยอันดับ 6: ฉันจะติดตามและวัดผล KPI ได้อย่างไร คำตอบ: การติดตามและวัดผล KPI นั้น เราจะใช้ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น รายงานทางการเงิน แบบฟอร์มคำติชมของลูกค้า หรือซอฟต์แวร์การจัดการระบบประเมินผลอย่าง EsteeMATE เพื่อติดตามวัดผลอย่างง่ายๆ แนวปฏิบัติ: สร้างโปรเซสในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล ใช้แดชบอร์ด แผนภูมิ หรือตารางเพื่อแสดงภาพข้อมูล KPI ของคุณให้เข้าใจง่าย และครบถ้วน คำถามที่พบบ่อยอันดับ 7: ควรทบทวน KPI กันบ่อยแค่ไหน? คำตอบ: ทบทวน KPI เป็นประจำ (เช่น รายเดือน รายไตรมาส) เพื่อติดตามความคืบหน้าและปรับเป้าหมายตามความจำเป็น แนวปฏิบัติ: กำหนดเวลาเพื่อตรวจสอบเป็นประจำกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อหารือเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ KPI ใช้โอกาสนี้เพื่อระบุจุดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเราใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เราจะสามารถประเมิน KPI กันได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นรายเดือนหรือรายไตรมาส คำถามที่พบบ่อยอันดับ 8:…

  • 10 คำถามยอดฮิตเกี่ยวกับ KPI

    คำถามข้อที่พบบ่อยมาเป็นอันดับ 1: KPI คืออะไร คำตอบ: KPI คือตัวชี้วัดประสิทธิภาพของการดำเนินงาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าองค์กรบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงใด เราใช้ KPI เพื่อประเมินและติดตามประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง โดยมีแนวทางในการนำเอาไปใช้ดังนี้ เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนสำหรับองค์กรของคุณ จากนั้นระบุตัวชี้วัด หรือ KPI ที่สำคัญที่สุดที่แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น คำถามที่พบบ่อยอันดับ 2: เหตุใด KPI จึงมีความสำคัญ คำตอบ: KPI ช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่เป้าหมายที่สำคัญที่สุด อีกทั้งทำให้สามารถวัดผลได้อย่างชัดเจนอีกด้วย คำถามที่พบบ่อยอันดับ 3: จะเลือก KPI ที่เหมาะสมได้อย่างไร คำตอบ: KPI ที่ดี จะต้องเกี่ยวข้อง, วัดผลได้, บรรลุได้, มีความสมจริง และมีกำหนดเวลา (SMART) เพื่อให้แน่ใจได้ว่า KPI นั้นถูกตั้งขึ้นมาอย่างสอดคล้องกับเป้าหมายและวัตถุประสงค์ขององค์กรของคุณ แนวทาง: ทบทวนกลยุทธ์และเป้าหมายขององค์กรของคุณเพื่อระบุด้านประสิทธิภาพหลัก จากนั้นเลือกเมตริกจำนวนนึงที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเป้าหมายด้านนั้นมากที่สุด คำถามที่พบบ่อยอันดับ 4: ตัวอย่างของ KPI ที่ดีคืออะไร คำตอบ: ตัวอย่างของ KPI ที่ดี…

  • ตัวอย่าง OKRs ขององค์กร

    การกำหนดเป้าหมายและผลการดำเนินงาน (OKRs) เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการวางแผนและประเมินผลในองค์กร ด้วยความชัดเจนในเป้าหมายและวิธีการวัดความสำเร็จ เราสามารถช่วยให้องค์กรเติบโตและพัฒนาไปอีกขั้นตอน Photo by engin akyurt on Unsplash เรามาชมตัวอย่าง OKRs ขององค์กรเพื่อเข้าใจการใช้งานและประโยชน์ที่ได้รับกัน ผลการประเมิน: การใช้ OKRs ในบริษัท ช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นสู่เป้าหมายที่เหมาะสม ทั้งนี้ยังช่วยเพิ่มการสื่อสารและการพัฒนาทีมงานในทุกๆ ด้านของธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรมที่น่าสนใจสำหรับการวางแผนในปีถัดไป

  • ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR)

    by

    in

    ปัจจุบัน หลายๆคน คงมีการนำเอา OKRs ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยส่งเสริมการทำงานของทีมและให้การชี้วัดที่ชัดเจนสำหรับการวัดความสำเร็จของเป้าหมาย มาใช้กันในองค์กร โดยเฉพาะในงานทรัพยากรบุคคล OKRs เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการจัดทำ OKRs ที่เกี่ยวพันกันกับวัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล จะทำให้การดำเนินงานเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัตถุประสงค์หลักของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ตัวอย่าง OKRs ของฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีดังนี้: Objectives and Key Results Details Objective 1 เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการและพัฒนาบุคลากร Key Result 1 เพิ่มอัตราการสำเร็จของการฝึกอบรมในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับสายงานในบริษัท โดยเพิ่มจำนวนผู้เข้าร่วมอบรมจาก 70% เป็น 85% ภายในไตรมาสนี้ Key Result 2 ลดอัตราการลาออกจากงานลงจาก 15% เป็น 10% ในช่วงเวลา 6 เดือน Objectives and Key Results Details Objective 2 สร้างบรรยากาศการทำงานที่กระตุ้นและสนับสนุนความก้าวหน้าของพนักงาน Key…

  • แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์

    การประเมินโปรโมทเซลส์ เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพของทีมขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดได้อย่างเหมาะสม และให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์เป็นเครื่องมือที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้ผู้จัดการหรือผู้บริหารสามารถทราบถึงปัญหาและโอกาสที่มีอยู่ และช่วยให้ทีมขายพัฒนาและปรับปรุงทักษะและความสามารถในการทำงานได้อย่างเหมาะสม Photo by krakenimages on Unsplash จุดประสงค์ของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์: การวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขาย การประเมินโปรโมทเซลส์เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจทำการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทำให้ผู้จัดการสามารถทราบถึงปัญหาและความต้องการของลูกค้า และสามารถวางแผนและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้อย่างมีเสถียรภาพ ดังนั้น การสร้างแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อช่วยให้ธุรกิจมีการเพิ่มประสิทธิภาพในการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง ส่วนประกอบสำคัญของแบบฟอร์มประเมินโปรโมทเซลส์ที่มีความสำคัญต่อการวิเคราะห์และการปรับปรุงผลการขายของธุรกิจ: การใช้แบบฟอร์มประเมินโปรโมทเจ้าหน้าที่ด้านการขาย ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยสร้างการรับรู้ที่ดีในองค์กรและส่งเสริมพัฒนาการทำงานของพนักงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการมีแบบฟอร์มที่เหมาะสมและสมบูรณ์ องค์กรจะสามารถสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่เติบโตและยั่งยืนได้ในระยะยาว

  • ตัวอย่าง KPI สำหรับฝ่ายขาย

    KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดผลสำคัญสำหรับฝ่ายขาย มีหลากหลายอย่าง ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของธุรกิจ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการขององค์กร ดังนี้คือตัวอย่างของ KPI สำหรับฝ่ายขาย วิธีการประเมิน รวบรวมยอดขายทั้งหมดจากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 2. ยอดขายต่อบุคคล (Sales per Individual) คำนวณจากยอดขายทั้งหมดหารด้วยจำนวนพนักงานขาย เป็นวิธีการวัดประสิทธิภาพของพนักงานแต่ละคนในทีม วิธีการประเมิน แบ่งยอดขายรวมด้วยจำนวนพนักงานขาย สูตร คำอธิบายสูตร 3. กำไรขั้นต้น (Gross Profit) นับจากยอดขายทั้งหมดลบด้วยต้นทุนทั้งหมด เป็นตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรของฝ่ายขาย วิธีการประเมิน คำนวณจากยอดขายรวมหักต้นทุนของสินค้าที่ขาย สูตร คำอธิบายสูตร 4. การเพิ่มลูกค้าใหม่ (New Customer Acquisition) วัดจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้รับมาในระยะเวลาที่กำหนด เป็นการวัดความสำเร็จในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ วิธีการประเมิน นับจำนวนลูกค้าใหม่ที่ได้ในช่วงเวลาหนึ่ง สูตร คำอธิบายสูตร 5. การรักษาลูกค้า (Customer Retention) วัดอัตราการรักษาลูกค้าเก่าในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อดูความพึงพอใจของลูกค้าและความสามารถในการรักษาลูกค้า วิธีการประเมิน คำนวณอัตราส่วนของลูกค้าที่รักษาไว้…

  • ประโยชน์และผลลัพธ์ที่คาดว่าจะได้จากการใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ

    Photo by krakenimages on Unsplash การใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณ: ประโยชน์และผลลัพธ์ การใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณเป็นการทำให้ธุรกิจมีการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน ด้วยเหตุนี้ การใช้ระบบนี้มีประโยชน์และผลลัพธ์ที่สำคัญต่อธุรกิจดังนี้: ดังนั้น การใช้ระบบประเมินผลงานที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจของคุณมีผลลัพธ์ที่สำคัญต่อการเพิ่มประสิทธิภาพและความสำเร็จของธุรกิจอย่างยั่งยืนในระยะยาว.