Category: evaluation
-
ประเมินผลพนักงานยังไงให้ไม่พัง เทคนิค Feedback ที่ใช้ได้จริง
ความผิดพลาดที่ HR เจอบ่อยในการประเมิน การประเมินพนักงานเป็นกระบวนการที่สำคัญในการบริหารทรัพยากรบุคคล แต่ยังมีความผิดพลาดหลายประการที่ HR มักพบเจอ นี่คือข้อบกพร่องที่พบได้บ่อย: 1. ไม่ชัดเจนในเกณฑ์การประเมิน: เมื่อเกณฑ์การประเมินไม่แน่นอนหรือไม่ชัดเจน อาจทำให้พนักงานไม่เข้าใจว่าสิ่งที่เขาควรปรับปรุงคืออะไร 2. ไม่คำนึงถึงความหลากหลายของพนักงาน: พนักงานแต่ละคนมีพื้นฐานและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน หากไม่พิจารณาความแตกต่างนี้ ผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมไม่ตอบโจทย์ 3. การประเมินที่ไม่ตรงเวลา: การให้ feedback ในเวลาที่ไม่เหมาะสมหรือเลยเวลาที่พนักงานปรับตัวจะทำให้เสียโอกาสในการพัฒนา Photo by Vitaly Gariev on Unsplash เทคนิค Feedback แบบ Sandwich / SBI เทคนิค feedback แบบ Sandwich และ SBI เป็นสองวิธีที่ได้รับความนิยมในการประเมินพนักงาน: เทคนิคแบบ Sandwich เทคนิคนี้มีหลักการในการเริ่มต้นด้วยการชื่นชมสิ่งที่ดี ก่อนที่จะระบุปัญหาหรือจุดที่ต้องปรับปรุง และจบลงด้วยข้อเสนอแนะแบบชื่นชมใหม่ ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขายังมีคุณค่า ตัวอย่างเช่น “คุณทำงานได้ดีในโปรเจกต์นี้ แต่เราควรจะเพิ่มความละเอียดในการรายงานข้อมูล เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต” เทคนิค SBI เทคนิค SBI…
-
ระบบประเมินพนักงานแบบ 360 องศา คืออะไร
ระบบประเมินพนักงานแบบ 360 องศา: คืออะไร และควรเริ่มใช้เมื่อไหร่? ระบบประเมิน 360 องศา เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถประเมินผลการทำงานของพนักงานได้อย่างรอบด้าน โดยไม่เพียงแต่จะใช้การประเมินจากหัวหน้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประเมินจากเพื่อนร่วมงานและผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งการใช้งานระบบนี้จะช่วยเปิดโอกาสให้พนักงานได้รับข้อเสนอแนะแบบหลากหลายมุมมอง ทำให้พวกเขาสามารถพัฒนาทักษะและเติบโตได้กับบริษัท Photo by Campaign Creators on Unsplash ข้อดีของระบบ 360 องศา ระบบประเมิน 360 องศามีข้อดีหลายประการที่สามารถส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานและองค์กร ซึ่งมีดังนี้ 1. มุมมองที่หลากหลาย: การได้รับข้อมูลจากหลายแหล่งทำให้การประเมินมีความครอบคลุมมากขึ้น และช่วยให้ผู้จัดการเห็นภาพรวมของพนักงานได้ชัดเจนขึ้น2. การพัฒนาทักษะ: ข้อเสนอแนะที่ได้รับสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาทักษะของพนักงานให้ดียิ่งขึ้น3. ระดับความโปร่งใส: เมื่อทุกคนมีส่วนร่วมในการประเมิน ส่งผลให้เกิดความโปร่งใสและลดการลำเอียงในกระบวนการประเมิน4. การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี: การให้และรับข้อเสนอแนะแบบ 360 องศาสามารถช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและทีมงานได้ดีขึ้น ข้อควรระวังในการใช้ระบบ 360 องศา แม้ว่าการใช้ระบบประเมิน 360 องศาจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรระวังที่ควรพิจารณา เช่น 1. ความไม่ยุติธรรม: หากไม่มีการจัดการที่ดี อาจเกิดข้อผิดพลาดในการประเมิน ซึ่งอาจทำให้พนักงานรู้สึกไม่เป็นธรรม2. การใช้ข้อมูลไม่เหมาะสม: ข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ซึ่งส่งผลต่อบรรยากาศในการทำงาน3.…
-
คู่มือการทำ Annual Review ที่ไม่เครียดทั้ง HR และพนักงาน (พร้อม Checklist)
Annual Review หรือ การประเมินปลายปี เป็นกระบวนการในการประเมินผลการทำงานของพนักงานในระยะเวลาหนึ่งปี เป็นเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาและยกระดับคุณภาพของแรงงานในองค์กร การประเมินปลายปีนี้ไม่เพียงแค่ใช้เพื่อประเมินผลงาน แต่ยังเป็นโอกาสในการสื่อสารระหว่าง HR และพนักงาน เพื่อสร้างความเข้าใจและพัฒนาทักษะในอนาคต ปัญหาที่ HR มักเจอช่วงปลายปี ในช่วงเวลาดังกล่าว HR มักประสบปัญหาหลายประการที่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของการประเมินปลายปี หนึ่งในปัญหาหลักคือ ความไม่พอใจของพนักงานที่อาจเกิดจากวิธีการประเมินที่ไม่เป็นธรรม การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน หรือคำแนะนำที่ไม่สร้างสรรค์ การเก็บข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน หรือการขาดการเตรียมตัวต่างๆ ที่ทำให้กระบวนการประเมินปลายปีไม่ราบรื่น Photo by SEO Galaxy on Unsplash การเตรียมพนักงานให้พร้อมสำหรับ Annual Review การเตรียมพนักงานให้พร้อมสำหรับการประเมินปลายปีเป็นสิ่งสำคัญที่ควรใส่ใจ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีและเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่ HR ควรมีการสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับกระบวนการประเมิน และแนะนำให้พนักงานเตรียมตัวล่วงหน้า อาทิเช่น การรวบรวมผลงานที่ทำในปีที่ผ่านมา การตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการสื่อสารในระหว่างการประเมิน เป็นต้น เทคนิคการให้ Feedback อย่างเป็นกลาง การให้ Feedback เป็นสิ่งที่จำเป็นในกระบวนการ Annual Review อย่างไรก็ตาม การให้ Feedback อย่างเป็นกลางและสร้างสรรค์จะช่วยส่งผลดีต่อการลดความเครียดในกระบวนการประเมิน มีกลยุทธ์บางประการที่…
-
5 เหตุผลที่บริษัทควรมี ระบบประเมินผลพนักงานแบบดิจิทัล
การบริหารพนักงานในองค์กรปัจจุบันไม่สามารถพึ่งพาแค่การบริหารแบบดั้งเดิมได้อีกต่อไป โดยเฉพาะระบบประเมินพนักงานแบบกระดาษที่มีข้อจำกัดมากมาย ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการทำงาน ระบบประเมินพนักงานแบบดิจิทัลจึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากกว่า มาสำรวจ 5 เหตุผลที่บริษัทควรนำระบบประเมินพนักงานแบบดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในองค์กรกันดีกว่า Photo by Carl Heyerdahl on Unsplash ปัญหาเดิมของระบบประเมินแบบกระดาษ ระบบประเมินพนักงานแบบดั้งเดิมนั้นมักมีปัญหาในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการสูญหายของข้อมูล ความยุ่งยากในการประมวลผล หรือแม้กระทั่งการเสียเวลาในการกรอกข้อมูล ซึ่งส่งผลให้กระบวนการประเมินผลงานเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และไม่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนางานได้อย่างแท้จริง เหตุผลที่ 1: ลดเวลาในการประเมิน ด้วยระบบประเมินพนักงานดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย ทำให้กระบวนการประเมินมีความรวดเร็วขึ้น ไม่จำเป็นต้องพิมพ์เอกสารหรือกรอกข้อมูลด้วยมืออีกต่อไป ซึ่งช่วยลดเวลาที่ใช้ในการจัดการทั้งในด้านการประเมินและการประมวลผลผลลัพธ์ เหตุผลที่ 2: ข้อมูลไม่สูญหาย การใช้ระบบประเมินพนักงานแบบดิจิทัลทำให้ข้อมูลทั้งหมดถูกจัดเก็บในฐานข้อมูลที่มีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่จะสูญหายหรือถูกทำลายเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้เอกสารกระดาษที่อาจจะหายไปได้ง่าย ระบบ HR Digital จะให้การรับประกันในเรื่องของความถูกต้องและการเข้าถึงข้อมูลที่สะดวกสบาย เหตุผลที่ 3: สามารถวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง ระบบประเมินพนักงานแบบดิจิทัลสามารถเก็บข้อมูลผลการประเมินในระยะยาว ทำให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังเพื่อหาข้อบกพร่องหรือประสิทธิภาพในแต่ละปี พร้อมกันนี้ยังช่วยให้บริษัทสามารถติดตามพัฒนาการของพนักงานแต่ละคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหตุผลที่ 4: ปรับใช้ได้กับ Hybrid Work ในปัจจุบัน หลายบริษัทใช้การทำงานแบบ Hybrid Work ที่มีทั้งการทำงานในออฟฟิศและการทำงานจากที่บ้าน ระบบประเมินพนักงานแบบดิจิทัลจึงตอบสนองต่อความต้องการนี้ได้ดี…
-
OKRs กับการประเมินพนักงาน ใช้ร่วมกันอย่างไรให้ได้ผล
OKRs คืออะไร OKRs หรือ Objectives and Key Results เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตั้งเป้าหมายและกำหนดผลลัพธ์สำคัญในองค์กร ที่ช่วยให้พนักงานมีแนวทางในการทำงานอย่างชัดเจน เป้าหมาย (Objectives) จะเป็นสิ่งที่ต้องการบรรลุ ในขณะที่ผลลัพธ์สำคัญ (Key Results) จะเป็นวิธีการหรือมาตรการในการประเมินความก้าวหน้าของการบรรลุเป้าหมายเหล่านั้น OKRs จะช่วยเพิ่มความชัดเจนในการทำงานและสร้างการมีส่วนร่วมของพนักงานในองค์กร การประเมินผลจาก OKRs จะช่วยให้ผู้บริหารทราบถึงความสำเร็จและปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลา Photo by Afif Ramdhasuma on Unsplash การตั้งเป้าหมายกับการประเมินผล การตั้งเป้าหมายเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับทุกองค์กร โดยเฉพาะในการประเมินผลพนักงาน การใช้ OKRs กับการประเมินพนักงานจะช่วยให้เป้าหมายมีความเชื่อมโยงกับการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าหมายระยะสั้นหรือระยะยาว การตั้งเป้าหมายนี้ควรสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กรและสามารถวัดผลได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้พนักงานสามารถมุ่งมั่นทำงานในทิศทางที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น การจับคู่ระหว่าง OKRs และ KPI KPI หรือ Key Performance Indicators คือการวัดผลผลการดำเนินงานที่เน้นในแง่ของประสิทธิภาพเป็นสำคัญ การจับคู่ระหว่าง OKRs กับ KPI จะช่วยให้การประเมินผลของพนักงานมีความสมบูรณ์มากขึ้น OKRs จะช่วยในการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน ขณะที่…
-
10 ตัวอย่าง KPI สำหรับฝ่าย HR ที่ใช้งานได้จริง (แจกฟรี Template)
KPI คืออะไร (สำหรับ HR) KPI หรือ Key Performance Indicator เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินความสำเร็จและผลการดำเนินงานขององค์กรในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะฝ่ายบุคคล (HR) ซึ่งมีหน้าที่หลักในการจัดการบุคลากรและส่งเสริมให้การดำเนินงานขององค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง KPI ที่ใช้ในฝ่าย HR จะช่วยให้สามารถติดตามความก้าวหน้า วิเคราะห์ผล และปรับปรุงกระบวนการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Photo by Christina @ wocintechchat.com on Unsplash ทำไมต้องมี KPI ในฝ่าย HR การตั้ง KPI สำหรับฝ่ายบุคคลนั้นมีความสำคัญสำหรับหลายเหตุผล อาทิเช่น 1. ช่วยในการวางแผนและกำหนดเป้าหมาย2. เป็นเครื่องมือในการวัดผลการทำงานของพนักงาน3. สามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นในทีมและองค์กร4. ทำให้การสื่อสารระหว่างทีม HR และผู้จัดการฝ่ายต่าง ๆ เป็นไปอย่างราบรื่น ตัวอย่าง KPI ด้านการสรรหา การสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพและเหมาะสมคือเป้าหมายที่สำคัญของฝ่าย HR ดังนั้น การกำหนด KPI ด้านการสรรหาจะสะท้อนถึงผลลัพธ์ที่จับต้องได้ 1.…
-
เปรียบเทียบ 3 เครื่องมือประเมินผลงานพนักงาน
การประเมินผลงานพนักงานเป็นเรื่องสำคัญสำหรับองค์กรในยุคที่การแข่งขันสูงเช่นนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายต่าง ๆ ในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้นการเลือกใช้ เครื่องมือประเมินผลงานพนักงาน ที่เหมาะสมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ในบทความนี้ เราจะ เปรียบเทียบระบบประเมินพนักงาน 3 ตัว ได้แก่ Esteemate, Lattice และ PerformYard โดยจะพิจารณาจากเกณฑ์ที่สำคัญเช่น ราคา, ฟีเจอร์, UX, และภาษา ทำไมต้องใช้ระบบประเมินผลงานพนักงาน การใช้ระบบประเมินผลงานพนักงานช่วยให้องค์กรสามารถติดตามและวิเคราะห์ผลงานของพนักงานได้อย่างมีระบบ ช่วยสร้างพื้นฐานที่มั่นคงให้กับการพัฒนาและการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพ รวมถึงเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานของพนักงาน นอกจากนี้ยังช่วยให้องค์กรสามารถประเมินความสามารถของพนักงานในด้านต่าง ๆ เพื่อกำหนดนโยบายการฝึกอบรม Photo by Redd Francisco on Unsplash เกณฑ์เปรียบเทียบ เครื่องมือประเมินผลงานพนักงาน ราคา การเปรียบเทียบ เครื่องมือประเมินผลงานพนักงาน ในเรื่องของราคาเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากองค์กรต่าง ๆ มีงบประมาณที่แตกต่างกัน โดย Esteemate มักจะมีราคาที่ค่อนข้างยืดหยุ่น เหมาะสำหรับองค์กรขนาดเล็กถึงกลาง ขณะที่ Lattice และ PerformYard อาจมีราคาค่อนข้างสูงแต่มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย ฟีเจอร์ เมื่อพูดถึงฟีเจอร์…
-
5 วิธีประเมินพนักงาน แบบมืออาชีพ ไม่ใช่แค่ให้คะแนน
การประเมินผลงานพนักงานคือหนึ่งในหน้าที่สำคัญของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และผู้จัดการทีม แต่ในความเป็นจริง หลายองค์กรยังคงใช้ วิธีประเมินพนักงาน แบบเดิม ๆ ที่เน้นแค่การให้คะแนนในแบบฟอร์ม แล้วก็จบไปในแต่ละปี ซึ่งทำให้พนักงานรู้สึกกังวล ไม่เข้าใจผลลัพธ์ และที่สำคัญคือ “ไม่รู้จะพัฒนาตัวเองต่อยังไง” หากคุณเป็น HR หรือหัวหน้างานที่อยากเปลี่ยนกระบวนการประเมินผลงานให้มีประสิทธิภาพและเป็นมืออาชีพมากขึ้น ลองมาดู 5 วิธีประเมินพนักงาน ที่ไม่ได้แค่ “ให้คะแนน” แต่เน้นการสื่อสาร ความเข้าใจ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน Photo by Arlington Research on Unsplash ปัญหาที่เจอบ่อยใน วิธีประเมินพนักงาน แบบเดิม ๆ ก่อนเข้าสู่เทคนิค มาดูกันก่อนว่าปัญหาหลักของการประเมินแบบเก่าคืออะไร: ทั้งหมดนี้นำไปสู่ความไม่พอใจ และทำให้การประเมินกลายเป็นภาระมากกว่าประโยชน์ วิธีที่ 1: การตั้งเป้าหมายชัดเจนตั้งแต่ต้น “What gets measured, gets improved.”หากคุณไม่กำหนดเป้าหมาย (Goals หรือ OKRs) ที่ชัดเจนตั้งแต่ต้นปี พนักงานก็จะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรเพื่อให้ถูกประเมินว่า “ดี” แนวทาง: ตัวอย่าง:…
-
Employee Evaluation คือ อะไร? คู่มือฉบับสมบูรณ์สำหรับ HR ยุคใหม่ (พร้อมตัวอย่างฟอร์ม)
ในโลกของการบริหารทรัพยากรบุคคลยุคใหม่ การประเมินพนักงาน หรือ Employee Evaluation คือ หนึ่งในกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วจริง ๆ การประเมินพนักงานคืออะไร สำคัญแค่ไหน และทำอย่างไรให้เป็นมืออาชีพ บทความนี้มีคำตอบครบ!
-
Desire in Relationships จะทำได้อย่างไร
Desire in Relationships หมายถึง ความปรารถนาและความต้องการที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความสัมพันธ์โรแมนติกหรือความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดมากขึ้น เช่น คู่รักหรือคู่สมรส ความปรารถนานี้สามารถปรากฏในหลายด้าน รวมถึงความรู้สึกทางเพศ ความสนใจทางอารมณ์ ความผูกพันทางจิตใจ และการร่วมมือกันในชีวิตประจำวัน การที่แต่ละคนมีความปรารถนาหรือความต้องการในระดับที่แตกต่างกันอาจมีผลต่อความสัมพันธ์และการดำเนินชีวิตคู่ 1. ความปรารถนาทางร่างกาย (Physical Desire) ความปรารถนาทางร่างกายในความสัมพันธ์ส่วนใหญ่หมายถึงความต้องการที่จะมีความใกล้ชิดทางร่างกาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการสัมผัส การกอด หรือการมีเพศสัมพันธ์ ความปรารถนานี้ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้คู่รักมีความพึงพอใจในความสัมพันธ์ทางร่างกายและทางเพศ การที่ทั้งสองฝ่ายมีความปรารถนาเดียวกันและสามารถตอบสนองความต้องการทางร่างกายได้อย่างเหมาะสมมักจะส่งผลให้ความสัมพันธ์นั้นมีความสุขและมีความใกล้ชิดมากขึ้น ตัวอย่าง: ความท้าทาย: ความปรารถนาทางร่างกายของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป บางคนอาจต้องการมาก ในขณะที่บางคนอาจไม่รู้สึกเช่นนั้น การสื่อสารและความเข้าใจระหว่างคู่รักจึงสำคัญมาก 2. ความปรารถนาทางอารมณ์ (Emotional Desire) ความปรารถนาทางอารมณ์เกี่ยวข้องกับความต้องการในการสร้างความสัมพันธ์ที่มีความใกล้ชิดทางจิตใจและอารมณ์ ความต้องการนี้รวมถึงการที่คู่รักต้องการที่จะได้รับการยอมรับ การรักและให้ความสำคัญซึ่งกันและกัน การแสดงออกถึงความรักและความห่วงใยเป็นสิ่งที่สำคัญมากในความสัมพันธ์ระยะยาว ตัวอย่าง: ความท้าทาย: บางครั้งคนในความสัมพันธ์อาจไม่สามารถแสดงความรู้สึกได้อย่างเปิดเผย หรือบางครั้งอาจรู้สึกไม่สบายใจในการแสดงออกถึงความรักและความห่วงใย สิ่งนี้อาจสร้างความเครียดหรือความเข้าใจผิดในความสัมพันธ์ 3. ความปรารถนาในความเข้าใจและการสื่อสาร (Desire for Understanding and Communication) การสื่อสารที่ดีเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความเข้าใจในความสัมพันธ์ ความปรารถนานี้หมายถึงการที่คู่รักต้องการที่จะเข้าใจซึ่งกันและกันทั้งในเรื่องของความรู้สึก ความคิด และความต้องการ การสื่อสารที่ดีช่วยให้สามารถจัดการกับปัญหาหรือข้อขัดแย้งได้อย่างราบรื่นและช่วยให้ความสัมพันธ์แข็งแกร่งขึ้น…