Author: Admin

  • จาก KPI รายบุคคลสู่เป้าหมายองค์กร: ทำไมการเชื่อมโยง KPI แบบลำดับชั้นจึงสำคัญ

    ในหลายองค์กร การวัดผลมักเป็นเพียง “ตัวเลขรายบุคคล” ที่ไม่เชื่อมโยงกับเป้าหมายระดับองค์กร พนักงานอาจทำงานเต็มที่ตาม KPI ของตัวเอง แต่ไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำส่งผลต่อเป้าหมายบริษัทอย่างไร ความไม่เชื่อมโยงนี้ทำให้เกิดปัญหาคลาสสิก: องค์กรเดินไปคนละทิศทาง Hierarchical KPI Dashboard จึงกลายเป็นแนวคิดสำคัญในการบริหารยุคใหม่ ที่ช่วยให้องค์กรเห็นภาพรวมของความสัมพันธ์ระหว่าง KPI ทุกระดับ ตั้งแต่ผู้บริหารจนถึงพนักงานแนวหน้า ปัญหาที่เกิดจาก KPI แยกส่วน หลายองค์กรยังคงบริหาร KPI ด้วยไฟล์ Excel แยกกันแต่ละแผนก หรือตั้งเป้าหมายโดยไม่มีระบบเชื่อมโยงกัน ผลที่ตามมาคือ เมื่อไม่มี “สายโซ่เชื่อมโยง” ระหว่าง KPI ระดับบนและล่าง การขับเคลื่อนกลยุทธ์ขององค์กรย่อมสะดุด Hierarchical KPI คืออะไร Hierarchical KPI คือระบบที่ เชื่อมโยง KPI ทุกระดับเข้าด้วยกัน ระบบนี้ทำให้ทุกคน “เห็นเส้นทางเดียวกัน” — เมื่อพนักงานคนหนึ่งทำผลงานดี ผลลัพธ์จะถูกสะท้อนขึ้นไปยังระดับแผนก และต่อเนื่องถึงเป้าหมายหลักขององค์กร ประโยชน์ของการเชื่อมโยง KPI แบบลำดับชั้น เมื่อระบบเชื่อมโยง KPI ทำงานจริงใน…

  • Engagement Survey ทำไปแล้วได้อะไร

    Engagement Survey ทำไปแล้วได้อะไร

    หลายองค์กรทำ Engagement Survey ทุกปี แต่กลับไม่แน่ใจว่า “ได้ประโยชน์จริงหรือไม่”คำถามยอดฮิตคือ — ทำไปแล้วจะเห็นผลอะไร? ช่วยองค์กรได้อย่างไร?ความจริงคือ แบบสำรวจความผูกพันของพนักงานไม่ได้มีไว้แค่เก็บคะแนน “พึงพอใจ” เท่านั้นแต่เป็นเครื่องมือวิเคราะห์สุขภาพขององค์กร ที่ช่วยให้ HR และผู้บริหาร “ฟังเสียงพนักงาน” และ “ปรับกลยุทธ์คน” ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น 1. เข้าใจแรงจูงใจและความรู้สึกจริงของพนักงาน Engagement Survey เปิดโอกาสให้พนักงานแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ทั้งในเรื่องหัวหน้างาน การสื่อสาร การยอมรับ และสภาพแวดล้อมในการทำงานเมื่อ HR นำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ จะเห็นว่า สิ่งเหล่านี้คือข้อมูลเชิงลึก (People Insight) ที่ไม่มีใน KPI หรือผลประเมินผลงานทั่วไป 2. สร้างความไว้วางใจระหว่างพนักงานกับองค์กร เมื่อองค์กรเปิดพื้นที่ให้คนได้ “พูด” และ “รู้ว่าความเห็นของตนมีค่า” จะเกิดความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรโดยเฉพาะเมื่อผลสำรวจถูกนำมาปรับใช้จริง เช่น ปรับนโยบายการสื่อสาร หรือเพิ่มโอกาสในการพัฒนา จะช่วยสร้างวัฒนธรรมแห่งความไว้วางใจ (Trust Culture) ที่แข็งแกร่ง 3. ใช้เป็นเครื่องมือวางแผนพัฒนาองค์กร Engagement Survey…

  • ทำไมองค์กรยุคใหม่ต้องมีระบบประเมิน Competency

    ทำไมองค์กรยุคใหม่ต้องมีระบบประเมิน Competency

    ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว องค์กรไม่สามารถวัดความสำเร็จของพนักงานจาก “ผลงาน” เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป เพราะความสามารถ (Competency) คือสิ่งที่บอกได้ชัดเจนกว่าว่าพนักงาน “มีศักยภาพที่จะเติบโต” หรือไม่องค์กรยุคใหม่จึงเริ่มหันมาใช้ ระบบประเมิน Competency เพื่อมองลึกกว่าผลลัพธ์ — ไปสู่พฤติกรรม ทักษะ และทัศนคติ ที่เป็นพื้นฐานของความสำเร็จระยะยาว Competency คืออะไร? Competency หมายถึง “สมรรถนะ” หรือชุดของ ความรู้ (Knowledge), ทักษะ (Skill) และ พฤติกรรม (Behavior) ที่ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพองค์กรที่กำหนด Competency ชัดเจนจะสามารถตอบคำถามสำคัญได้ว่า เหตุผลที่องค์กรยุคใหม่ต้องมีระบบประเมิน Competency 1. พัฒนา “คนเก่ง” ได้ตรงจุด ระบบจะช่วย HR และหัวหน้าเห็นจุดแข็ง–จุดอ่อนของพนักงานแต่ละคนอย่างเป็นระบบ สามารถวางแผนอบรมและพัฒนาได้แม่นยำ ไม่ต้องคาดเดา 2. เชื่อมโยงกับการประเมินผลและค่าตอบแทน การใช้ Competency เป็นเกณฑ์ประเมินร่วมกับ KPI ทำให้องค์กรสามารถประเมิน “ทั้งผลงานและพฤติกรรม” ได้ครบถ้วน ใช้ในการตัดสินใจเรื่องโบนัส การเลื่อนตำแหน่ง…

  • อนาคตของการประเมินพนักงาน: AI จะไม่แทนที่ HR แต่ทำให้ HR ฉลาดขึ้น

    อนาคตของการประเมินพนักงาน: AI จะไม่แทนที่ HR แต่ทำให้ HR ฉลาดขึ้น

    หลายคนอาจกลัวว่า “AI จะมาแทนที่ HR” แต่ความจริงแล้ว AI ไม่ได้มาเพื่อแย่งงาน — มันมาเพื่อ “ขยายศักยภาพ” ให้ HR ทำงานได้ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น โดยเฉพาะในงานประเมินผลพนักงาน ที่เดิมต้องอาศัยเวลา การรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์เชิงคน แต่วันนี้ AI สามารถช่วย HR มองเห็น “ภาพรวมและแนวโน้ม” ได้ในไม่กี่วินาที จากข้อมูลดิบ สู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ในอดีต HR ต้องใช้เวลาเป็นวัน ๆ เพื่อรวมคะแนนจากแบบประเมิน Excel แต่ AI ทำให้ข้อมูลทั้งหมดเชื่อมโยงกันอัตโนมัติ — ตั้งแต่ KPI, 360 Feedback จนถึง Engagement Survey ระบบอย่าง EsteeMATE AI Dashboard ช่วยแปลผลและชี้แนะแนวโน้ม เช่น AI + HR =…

  • AI + HR Dashboard: วิเคราะห์ผลประเมินทั้งองค์กรในไม่กี่คลิก

    AI + HR Dashboard: วิเคราะห์ผลประเมินทั้งองค์กรในไม่กี่คลิก

    ในยุคที่ข้อมูลคือพลัง การประเมินผลพนักงานไม่ควรเป็นเพียง “รายงานคะแนน” อีกต่อไป แต่ต้องกลายเป็น “ข้อมูลเชิงลึก” ที่ช่วยผู้บริหารตัดสินใจได้แบบเรียลไทม์ EsteeMATE พัฒนา AI + HR Dashboard เพื่อให้ HR และผู้บริหารสามารถดูภาพรวมผลการประเมินทั้งองค์กรได้ในไม่กี่คลิก — ไม่ว่าจะเป็นคะแนนเฉลี่ยของแต่ละแผนก ระดับความผูกพันของพนักงาน หรือแนวโน้มจุดแข็ง–จุดอ่อนของทีมทั้งหมด จากไฟล์ Excel สู่ Dashboard อัจฉริยะ องค์กรจำนวนมากยังคงใช้ Excel สรุปผลการประเมินพนักงานแบบ manual ซึ่งกินเวลาหลายวัน แต่ด้วยระบบ Dashboard ของ EsteeMATE ข้อมูลจากแบบประเมินทั้งหมดจะถูกประมวลอัตโนมัติในทันทีที่พนักงานกดส่ง — ทั้งคะแนน KPI, 360 Feedback, และ Engagement Survey ถูกเชื่อมต่อกันแบบอัตโนมัติAI จะช่วยแปลผลและชี้แนะแนวโน้ม เช่น วิเคราะห์ได้ลึกกว่าที่เคย HR Dashboard ไม่ได้แค่รวมข้อมูล แต่ “เข้าใจข้อมูล” ด้วย AI วิเคราะห์เชิงพฤติกรรม…

  • Predictive Performance: ใช้ AI คาดการณ์ศักยภาพพนักงานล่วงหน้า

    Predictive Performance: ใช้ AI คาดการณ์ศักยภาพพนักงานล่วงหน้า

    ในอดีต การประเมินผลงานมักเป็นการมอง “ย้อนหลัง” เพื่อสรุปว่าใครทำได้ดีหรือไม่ดี แต่โลกของ HR วันนี้กำลังเปลี่ยนไปสู่การ “คาดการณ์อนาคต” ว่าพนักงานคนใดมีศักยภาพจะเติบโต พัฒนา หรือเสี่ยงต่อการลาออก — และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้ด้วยพลังของ AI Predictive Analytics จากการประเมินอดีต สู่การคาดการณ์อนาคต ระบบ AI ไม่ได้แค่รวบรวมคะแนนประเมิน แต่เรียนรู้จากพฤติกรรมและผลลัพธ์ในอดีต เพื่อระบุ “สัญญาณล่วงหน้า” ของประสิทธิภาพและศักยภาพ เช่น AI ช่วยให้ HR มองเห็นสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นได้ก่อนใคร 3 การใช้งานจริงของ Predictive Performance ในองค์กร 1. Talent Forecasting — คาดการณ์ดาวรุ่งขององค์กรAI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการประเมิน การอบรม และพฤติกรรมการทำงาน เพื่อหาผู้ที่มีแนวโน้มเป็น “High Potential” และออกแบบเส้นทางการพัฒนาเฉพาะบุคคลได้ล่วงหน้า 2. Attrition Prediction — คาดการณ์การลาออกด้วยข้อมูลจาก engagement survey และ…

  • AI กับการประเมินพนักงาน: จากคะแนนสู่ข้อมูลเชิงพฤติกรรม

    AI กับการประเมินพนักงาน: จากคะแนนสู่ข้อมูลเชิงพฤติกรรม

    การประเมินพนักงานแบบเดิมมักจบลงที่ “ตัวเลข” เช่น คะแนนเฉลี่ย หรือระดับความสามารถ แต่ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท การประเมินไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่แค่การให้คะแนนอีกต่อไป — มันสามารถกลายเป็น “ข้อมูลเชิงพฤติกรรม” ที่ช่วยให้องค์กรมองเห็นความจริงของทีมงานได้ชัดเจนขึ้น จาก “คะแนน” สู่ “ข้อมูลเชิงพฤติกรรม” AI ไม่ได้มาแทนที่การประเมินของหัวหน้า แต่ช่วย แปลผลลัพธ์ที่กระจัดกระจายให้เป็นภาพรวมของพฤติกรรมการทำงานเช่น จากผลแบบประเมิน 360 องศา หรือการตอบแบบสอบถาม engagement survey ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ได้ว่า สิ่งเหล่านี้คือข้อมูลเชิงพฤติกรรม (Behavioral Insights) ที่คะแนนเพียงอย่างเดียวบอกไม่ได้ 3 วิธีที่ AI พลิกกระบวนการประเมินพนักงาน 1. วิเคราะห์แนวโน้มเชิงพฤติกรรมแบบเรียลไทม์AI ช่วยดึงข้อมูลจากการประเมินหลายรอบ มาวิเคราะห์แนวโน้ม เช่น “ระดับความเป็นผู้นำของหัวหน้าเพิ่มขึ้นหรือไม่” หรือ “ทีมที่มีคะแนน feedback ต่ำในปีที่แล้ว มีพัฒนาการอย่างไร” 2. ชี้จุดแข็งและโอกาสพัฒนาเฉพาะบุคคลจากแบบประเมิน AI สามารถสร้าง “พฤติกรรมโปรไฟล์” ของแต่ละคน…

  • ลดภาระ HR ด้วยแอปประเมินพนักงาน: เก็บคะแนนได้ทุกที่ ทุกเวลา

    ลดภาระ HR ด้วยแอปประเมินพนักงาน: เก็บคะแนนได้ทุกที่ ทุกเวลา

    การปรับปรุงกระบวนการประเมินพนักงานในองค์กร ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ HR ต้องให้ความสนใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับพนักงานที่ทำงานในภาคสนามหรือทีมขายที่ต้องเดินทาง แอปประเมินพนักงานที่สามารถใช้งานได้บนมือถือและ hr mobile dashboard กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ไม่เพียงช่วยลดภาระงานของ HR แต่ยังเปิดโอกาสให้การประเมินผลผ่านมือถือเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วทุกที่ทุกเวลา ด้วยความสามารถของแอปพลิเคชันที่สามารถเก็บคะแนนและข้อมูลต่างๆ ได้แบบ real-time HR ไม่จำเป็นต้องรอให้พนักงานกลับมาที่ออฟฟิศเพื่อทำการประเมินผลอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังช่วยให้การจัดการและติดตาม kpi พนักงานเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมและแสดงผลใน hr mobile dashboard อย่างเป็นระบบ พนักงานภาคสนามหรือทีมขายซึ่งมักต้องพบเจอกับความท้าทายในการจัดการเวลาการทำงานของตน การประเมินผลผ่านมือถือจึงเป็นวิธีการที่ช่วยให้พวกเขาสามารถรับรู้และปรับตัวได้ทันที ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาอย่างดีและใช้งานง่ายทำให้ทุกฝ่ายสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีการอบรมเพิ่มเติม และยังช่วยให้การรายงานผล kpi พนักงานเป็นไปได้อย่างโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ สำหรับ HR การมีเครื่องมือที่ช่วยให้การประเมินผลผ่านมือถือเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระงานเอกสารและการจัดการที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลให้พวกเขามีเวลาไปโฟกัสกับการพัฒนากลยุทธ์และแผนพัฒนาพนักงานในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้แอปฯ ยังช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากการประเมินผลแบบออฟไลน์และทำให้ข้อมูลที่ได้มีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ประโยชน์ที่พนักงานทุกคนจะได้รับจากการใช้แอปนี้คือความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลประเมินผลส่วนบุคคล การตั้งเป้าหมาย kpi พนักงานสอดคล้องกับแผนพัฒนาฝีมือ และยังสามารถติดตามผลการปฏิบัติงานของตนเองได้ตลอดเวลา ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถปรับปรุงคุณภาพของตนได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอการชี้แจงจากผู้บังคับบัญชา สรุปแล้ว การลดภาระงานของ HR ด้วยแอปประเมินพนักงานที่รองรับการประเมินผลผ่านมือถือและมี hr mobile dashboard…

  • เพิ่มอัตราการตอบแบบประเมินได้ 2 เท่า ด้วย Mobile Engagement Survey

    เพิ่มอัตราการตอบแบบประเมินได้ 2 เท่า ด้วย Mobile Engagement Survey

    การทำแบบสำรวจความผูกพันพนักงาน (Employee Engagement Survey) คือหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ HR ใช้เข้าใจ “เสียงของคนในองค์กร” แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือ… “พนักงานไม่ตอบ”บางองค์กรส่งอีเมลไป 500 ฉบับ แต่มีคนเปิดเพียงครึ่งเดียว และตอบจริงไม่ถึง 30%สาเหตุไม่ได้อยู่ที่คำถาม — แต่อยู่ที่ “ช่องทาง” ที่ใช้สื่อสารกับพนักงาน Mobile Engagement Survey คือทางออกของโจทย์นี้ เพราะเปลี่ยนการตอบแบบสอบถามให้สะดวกเหมือนแชตกับเพื่อนในมือถือ 1. ทำไมอัตราการตอบแบบประเมินถึงต่ำ ก่อนอื่น ต้องเข้าใจก่อนว่าทำไมคนถึงไม่อยากตอบ ผลคือ แบบสำรวจที่ตั้งใจดี กลับไม่มีข้อมูลมากพอให้วิเคราะห์ 2. Mobile Engagement Survey แก้ปัญหาได้อย่างไร ระบบแบบประเมินผ่านมือถือ เช่นใน EsteeMATE ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นี้โดยตรง ✅ เข้าถึงทุกคนได้จริง พนักงานไม่ต้องเปิดคอมฯ — แค่คลิกจาก LINE, QR Code หรือ Notification บนมือถือไม่ว่าจะอยู่โรงงานหรือสาขา ก็สามารถตอบได้ภายในไม่กี่นาที ✅ ใช้งานง่ายเหมือนแชต อินเทอร์เฟซถูกย่อให้เหมาะกับจอมือถือ…

  • Database Performance

    by

    in

    ตัวชี้วัดประสิทธิภาพฐานข้อมูล (Database Performance KPI) ในโลกของการจัดการทรัพยากรบุคคลและเทคโนโลยีสารสนเทศ KPI เป็นองค์ประกอบสำคัญในการประเมินและพัฒนาการทำงานภายในองค์กร โดยเฉพาะในส่วนของฐานข้อมูล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการจัดเก็บและเรียกใช้ข้อมูล การวัดประสิทธิภาพฐานข้อมูลหรือ Database Performance จึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ ความสำคัญของการวัดประสิทธิภาพฐานข้อมูล Database Performance KPI วัดค่าการตอบสนองเฉลี่ยของการเรียกใช้งานคำสั่งในฐานข้อมูล ซึ่งถูกกำหนดเป็นวินาทีหรือมิลลิวินาที ตัวชี้วัดนี้มีความสำคัญเนื่องจากการที่ฐานข้อมูลตอบสนองช้าอาจทำให้กระทบต่อการใช้งานของผู้ใช้ การซื้อขาย และความพอใจของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพย์สินสำคัญในธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะทำงานในตำแหน่ง Web Admin หรือไม่ก็ตาม ความเข้าใจในตัวชี้วัดนี้ก็มีผลต่อประสิทธิภาพของงานเป็นอย่างมาก การนำไปใช้และติดตามการทำงานของ KPI นี้อย่างได้ผล การนำ Database Performance KPI ไปใช้ในองค์กรจำเป็นต้องมีการวางแผนและการติดตามที่มีประสิทธิภาพ ขั้นแรกคือการเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น การใช้ซอฟต์แวร์การตรวจสอบฐานข้อมูลที่สามารถบันทึกเวลาในการตอบสนองอย่างละเอียด นอกจากนี้การตั้งค่าขีดจำกัดการยอมรับจะช่วยในการระบุปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น หากฐานข้อมูลมีเวลาตอบสนองที่เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ก็ควรมีการแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบทันที แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการบรรลุเป้าหมาย การเพิ่มประสิทธิภาพของคำสั่ง SQL: ตรวจสอบและปรับเปลี่ยนคำสั่ง SQL ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยตรวจสอบจากแผนการทำงาน (Execution Plans) การแคชข้อมูล: ใช้การแคชข้อมูลเมื่อเป็นไปได้เพื่อลดจำนวนครั้งที่ต้องทำการเรียกข้อมูลใหม่…