KPI (Key Performance Indicators) หรือตัวชี้วัดประสิทธิภาพสำคัญ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดและติดตามผลการดำเนินงานของแผนกหรือองค์กร ซึ่งสำหรับแผนกการเงิน KPI สามารถเน้นได้ทั้งด้านการเงินและด้านการบริหารจัดการทางการเงินขององค์กร ตัวอย่างของ KPI ที่น่าสนใจสำหรับแผนกการเงินได้แก่
- อัตราการเรียกเก็บหนี้ (Debt Collection Rate): วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของเงินหนี้ที่สำเร็จการเรียกเก็บได้ต่อรายการเงินหนี้ทั้งหมดที่ต้องเรียกเก็บ
- ค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บหนี้ (Cost of Debt Collection): วัดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนเงินของค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการจัดเก็บหนี้ต่อยอดหนี้ที่เก็บได้
- ระยะเวลาการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญ (Cycle Time for Invoice Processing): วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการตรวจสอบและอนุมัติใบสำคัญทางการเงิน ตั้งแต่วันที่รับใบสำคัญจนถึงวันที่อนุมัติเสร็จสิ้น
- อัตราผลตอบแทนในการลงทุน (Return on Investment – ROI): วัดผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในกิจกรรมทางการเงิน เช่น การลงทุนในระบบสารสนเทศทางการเงินหรือการพัฒนากระบวนการทางการเงิน
- อัตราค่าใช้จ่ายทั่วไป (Operating Expense Ratio): วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายจ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของแผนกการเงินต่อรายได้ทั้งหมดของบริษัท
- ระยะเวลาในการประมวลผลการชำระเงิน (Payment Processing Time): วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการประมวลผลการชำระเงิน ตั้งแต่วันที่รับคำขอชำระเงินจนถึงการชำระเงินจริง
- อัตราความผิดพลาดในการบัญชี (Accounting Error Rate): วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของการบันทึกบัญชีที่ผิดพลาดต่อรายการบันทึกทั้งหมด
- ระยะเวลาการทำงานของบัญชีเงินเดือน (Payroll Processing Time): วัดเป็นจำนวนวันที่ใช้ในการประมวลผลเงินเดือนของพนักงาน ตั้งแต่วันที่รับข้อมูลจนถึงการจ่ายเงินเดือนจริง
- อัตราการเงินทองแดง (Cash Flow Ratio): วัดความสามารถในการสร้างเงินทองแดงในการดำเนินกิจกรรมทางการเงินขององค์กร
- อัตราการขาดทุน (Loss Ratio): วัดเป็นเปอร์เซ็นต์ของขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการลงทุนทางการเงินต่อรายได้ทั้งหมดขององค์กร
KPI ของแผนกการเงินอาจแตกต่างกันไปตามวัตถุประสงค์และธุรกิจของบริษัท ดังนั้น ควรทำการปรับแต่งและเลือกใช้ KPI ที่เหมาะสมกับการดำเนินงานและเป้าหมายของแผนกการเงินเองโดยเฉพาะเท่านั้นนะคะ