Category: Competency and KPI
-

จากการประเมินรายบุคคล สู่การบริหารเชิงกลยุทธ์ด้วย Hierarchical KPI
องค์กรจำนวนมากมี KPI แต่ไม่ได้ใช้ KPI เพื่อ “ขับเคลื่อนกลยุทธ์จริง”ปัญหาไม่ใช่ KPI ตัวชี้วัดแย่ แต่เพราะ KPI ถูกใช้แค่ในระดับ “ประเมินรายบุคคล” ไม่ได้ทำให้ทั้งองค์กรเคลื่อนพร้อมกัน ไม่ได้เชื่อมโยงแผนก และไม่ได้สะท้อนความคืบหน้าของกลยุทธ์ใหญ่ สิ่งที่องค์กรต้องการจริง ๆ คือ “ระบบ KPI ที่เชื่อมโยงตั้งแต่ระดับองค์กร ลงมาถึงระดับพนักงาน”นี่คือแนวคิด Hierarchical KPI หรือบางที่เรียกว่า KPI Alignment / Cascading Objectives ซึ่งเป็นหัวใจของการบริหารยุคใหม่ที่เน้นผลลัพธ์ (Outcome-driven Organization) บทความนี้อธิบายแบบลึกแต่อ่านง่าย ว่าทำไมองค์กรควรเปลี่ยนจากการมอง KPI เป็นรายบุคคล มาเป็นระบบ KPI เชิงโครงสร้าง และปลายทางจะเปลี่ยนการทำงานทั้งองค์กรอย่างไร ปัญหาของการใช้ KPI แบบแยกส่วน (แบบที่หลายองค์กรใช้อยู่) หลายองค์กรมีปัญหาเดิม ๆ เพราะใช้ KPI แบบ “แยกกันทำ แยกกันวัด” เช่น พนักงานส่วนใหญ่รู้แค่ “KPI…
-

อัตราการรักษาพนักงาน (Employee Retention Rate): KPI สำคัญสำหรับ HR Director
ในยุคที่สงครามแย่งชิงทาเลนต์กำลังรุนแรง การรักษาพนักงานที่มีคุณภาพไว้กับองค์กรกลายเป็นความท้าทายสำคัญของ HR Director ทุกคน อัตราการรักษาพนักงาน (Employee Retention Rate) ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขธรรมดา แต่เป็นเครื่องชี้วัดสุขภาพขององค์กร สะท้อนวัฒนธรรมการทำงาน ความพึงพอใจของพนักงาน และประสิทธิภาพของกลยุทธ์ HR ที่คุณกำลังใช้อยู่ วันนี้เราจะมาเจาะลึกถึง Employee Retention Rate แบบ 360 องศา ตั้งแต่คำนิยาม วิธีการคำนวณ การตีความผล ไปจนถึงการนำไปใช้จริงในระบบ KPI Management ของ EsteeMATE Employee Retention Rate คือ อะไร? อัตราการรักษาพนักงาน (Employee Retention Rate) คือ ตัวชี้วัดความสามารถขององค์กรในการรักษาพนักงานไว้ ค่าบอกจำนวนพนักงานที่ยังทำงานอยู่กับองค์กรเมื่อเทียบกับจำนวนพนักงานทั้งหมดในช่วงเวลาที่กำหนด สูตรการคำนวณพื้นฐาน: ยิ่งค่าสูง แสดงว่าองค์กรสามารถรักษาพนักงานไว้ได้ดี ยิ่งค่าต่ำ แสดงว่ามีอัตราการลาออก (Turnover Rate) สูง ทำไม Employee Retention Rate…
-

Time Series Dashboard: เครื่องมือวิเคราะห์ผลงานรายเดือนที่ผู้บริหารยุคใหม่ต้องมี
การวัดผล KPI ที่ดีไม่ควรดูแค่ “ปลายทาง” ว่าทำได้หรือไม่ได้แต่ต้องดู “เส้นทาง” ว่าองค์กรหรือพนักงานเดินมาถูกทางหรือไม่ในแต่ละเดือนนี่คือแนวคิดของ Time Series Dashboard เครื่องมือวิเคราะห์ผลงานที่กำลังกลายเป็นหัวใจของระบบบริหารยุคใหม่ ปัญหาเดิมของการติดตาม KPI องค์กรส่วนใหญ่ในไทยยังรายงานผล KPI แบบ “รายไตรมาส” หรือ “รายปี”เมื่อถึงเวลาสรุปผล ก็มักพบว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ไม่บรรลุ แต่ไม่รู้ว่า “เกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง” ตัวอย่างเช่น สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าการดูแค่ “Snapshot” ปลายงวดไม่พออีกต่อไปองค์กรจำเป็นต้องเห็นภาพ “Time Series” ที่แสดงการเปลี่ยนแปลงตลอดช่วงเวลา Time Series Dashboard คืออะไร Time Series Dashboard คือระบบแสดงผลข้อมูล KPI แบบต่อเนื่องตาม “มิติของเวลา”เช่น รายเดือน รายสัปดาห์ หรือรายไตรมาส โดยเน้นให้เห็นแนวโน้ม (Trend) และการเปลี่ยนแปลงของผลงาน เครื่องมือนี้จะแสดงกราฟหรือเส้นข้อมูลที่ต่อเนื่อง เช่น ข้อมูลทั้งหมดช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจว่า “เรากำลังเดินไปในทิศทางที่ดีหรือไม่” ทำไม Time Series Dashboard ถึงสำคัญกับผู้บริหารยุคใหม่…
-

Dashboard การบริหาร KPI แบบหลายระดับ: จากองค์กรสู่พนักงาน
ในยุคที่ธุรกิจต้องตัดสินใจด้วยข้อมูล การบริหาร KPI ไม่ได้เป็นเพียงการตั้งตัวเลขเป้าหมายอีกต่อไป แต่คือการสร้าง “ระบบ” ที่เชื่อมโยงทุกระดับขององค์กรให้เคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันและเครื่องมือที่ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้จริงก็คือ Dashboard KPI แบบหลายระดับ (Hierarchical KPI Dashboard) ปัญหาของการบริหาร KPI แบบแยกส่วน หลายองค์กรในไทยยังติดปัญหาเดิม ๆ เช่น ผลคือองค์กรมี “ข้อมูลเยอะ แต่ขาดมุมมองเชิงโครงสร้าง”Dashboard แบบหลายระดับจึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ Hierarchical KPI คืออะไร Hierarchical KPI คือการจัดระบบ KPI ตามลำดับชั้นความรับผิดชอบ เชื่อมโยงจากระดับบนลงล่างดังนี้ ลำดับชั้น จุดมุ่งหมาย ตัวอย่าง Corporate KPI เป้าหมายระดับองค์กร รายได้รวม กำไร NPS คุณภาพบริการ Department KPI เป้าหมายของแต่ละฝ่าย ยอดขาย ระดับความพึงพอใจ อัตราความผิดพลาด Individual KPI เป้าหมายส่วนบุคคล ยอดขายรายเดือน จำนวนลูกค้าที่ดูแล ประสิทธิภาพงาน การกำหนดความสัมพันธ์…
-

Dashboard เดียวเห็นทั้งองค์กร: วิธีใช้ Hierarchical KPI Dashboard เพื่อบริหารกลยุทธ์อย่างมีประสิทธิภาพ
ในยุคที่ข้อมูลคืออาวุธ ผู้บริหารต้องการ “ภาพรวมที่ถูกต้องและทันเวลา” เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่ความจริงคือ หลายองค์กรยังคงจมอยู่กับรายงานจากหลายแหล่ง หลายไฟล์ Excel และไม่มีเครื่องมือที่รวบรวม KPI ทุกระดับไว้ในที่เดียว Hierarchical KPI Dashboard จาก EsteeMATE ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ ทำไมผู้บริหารถึงต้องการ Dashboard เดียว เมื่อข้อมูลกระจัดกระจาย การตัดสินใจย่อมล่าช้า การรวม KPI จากหลายแผนกด้วยมือไม่เพียงเสียเวลา แต่ยังเสี่ยงต่อความคลาดเคลื่อน การมี Dashboard เดียวที่เชื่อมโยงทุกระดับขององค์กรช่วยให้ ฟีเจอร์หลักของ Hierarchical KPI Dashboard ประโยชน์ที่ผู้บริหารได้รับ ตัวอย่างการใช้งานในองค์กร ลองใช้ EsteeMATE เชื่อมโยง KPI ของฝ่ายขาย (Individual KPI) กับ KPI ของฝ่ายการตลาด (Department KPI) ซึ่งทั้งหมดถูกสะท้อนขึ้นไปยัง KPI องค์กรใน Dashboard เดียว สิ่งที่จะได้คือ ทดลองใช้ Hierarchical…
-

ทำไมองค์กรยุคใหม่ต้องมีระบบประเมิน Competency
ในโลกการทำงานที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว องค์กรไม่สามารถวัดความสำเร็จของพนักงานจาก “ผลงาน” เพียงอย่างเดียวได้อีกต่อไป เพราะความสามารถ (Competency) คือสิ่งที่บอกได้ชัดเจนกว่าว่าพนักงาน “มีศักยภาพที่จะเติบโต” หรือไม่องค์กรยุคใหม่จึงเริ่มหันมาใช้ ระบบประเมิน Competency เพื่อมองลึกกว่าผลลัพธ์ — ไปสู่พฤติกรรม ทักษะ และทัศนคติ ที่เป็นพื้นฐานของความสำเร็จระยะยาว Competency คืออะไร? Competency หมายถึง “สมรรถนะ” หรือชุดของ ความรู้ (Knowledge), ทักษะ (Skill) และ พฤติกรรม (Behavior) ที่ทำให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพองค์กรที่กำหนด Competency ชัดเจนจะสามารถตอบคำถามสำคัญได้ว่า เหตุผลที่องค์กรยุคใหม่ต้องมีระบบประเมิน Competency 1. พัฒนา “คนเก่ง” ได้ตรงจุด ระบบจะช่วย HR และหัวหน้าเห็นจุดแข็ง–จุดอ่อนของพนักงานแต่ละคนอย่างเป็นระบบ สามารถวางแผนอบรมและพัฒนาได้แม่นยำ ไม่ต้องคาดเดา 2. เชื่อมโยงกับการประเมินผลและค่าตอบแทน การใช้ Competency เป็นเกณฑ์ประเมินร่วมกับ KPI ทำให้องค์กรสามารถประเมิน “ทั้งผลงานและพฤติกรรม” ได้ครบถ้วน ใช้ในการตัดสินใจเรื่องโบนัส การเลื่อนตำแหน่ง…
-

อนาคตของการประเมินพนักงาน: AI จะไม่แทนที่ HR แต่ทำให้ HR ฉลาดขึ้น
หลายคนอาจกลัวว่า “AI จะมาแทนที่ HR” แต่ความจริงแล้ว AI ไม่ได้มาเพื่อแย่งงาน — มันมาเพื่อ “ขยายศักยภาพ” ให้ HR ทำงานได้ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น และตัดสินใจได้แม่นยำขึ้น โดยเฉพาะในงานประเมินผลพนักงาน ที่เดิมต้องอาศัยเวลา การรวบรวมข้อมูล และการวิเคราะห์เชิงคน แต่วันนี้ AI สามารถช่วย HR มองเห็น “ภาพรวมและแนวโน้ม” ได้ในไม่กี่วินาที จากข้อมูลดิบ สู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ในอดีต HR ต้องใช้เวลาเป็นวัน ๆ เพื่อรวมคะแนนจากแบบประเมิน Excel แต่ AI ทำให้ข้อมูลทั้งหมดเชื่อมโยงกันอัตโนมัติ — ตั้งแต่ KPI, 360 Feedback จนถึง Engagement Survey ระบบอย่าง EsteeMATE AI Dashboard ช่วยแปลผลและชี้แนะแนวโน้ม เช่น AI + HR =…
-

AI กับการประเมินพนักงาน: จากคะแนนสู่ข้อมูลเชิงพฤติกรรม
การประเมินพนักงานแบบเดิมมักจบลงที่ “ตัวเลข” เช่น คะแนนเฉลี่ย หรือระดับความสามารถ แต่ในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาท การประเมินไม่จำเป็นต้องหยุดอยู่แค่การให้คะแนนอีกต่อไป — มันสามารถกลายเป็น “ข้อมูลเชิงพฤติกรรม” ที่ช่วยให้องค์กรมองเห็นความจริงของทีมงานได้ชัดเจนขึ้น จาก “คะแนน” สู่ “ข้อมูลเชิงพฤติกรรม” AI ไม่ได้มาแทนที่การประเมินของหัวหน้า แต่ช่วย แปลผลลัพธ์ที่กระจัดกระจายให้เป็นภาพรวมของพฤติกรรมการทำงานเช่น จากผลแบบประเมิน 360 องศา หรือการตอบแบบสอบถาม engagement survey ระบบ AI สามารถวิเคราะห์ได้ว่า สิ่งเหล่านี้คือข้อมูลเชิงพฤติกรรม (Behavioral Insights) ที่คะแนนเพียงอย่างเดียวบอกไม่ได้ 3 วิธีที่ AI พลิกกระบวนการประเมินพนักงาน 1. วิเคราะห์แนวโน้มเชิงพฤติกรรมแบบเรียลไทม์AI ช่วยดึงข้อมูลจากการประเมินหลายรอบ มาวิเคราะห์แนวโน้ม เช่น “ระดับความเป็นผู้นำของหัวหน้าเพิ่มขึ้นหรือไม่” หรือ “ทีมที่มีคะแนน feedback ต่ำในปีที่แล้ว มีพัฒนาการอย่างไร” 2. ชี้จุดแข็งและโอกาสพัฒนาเฉพาะบุคคลจากแบบประเมิน AI สามารถสร้าง “พฤติกรรมโปรไฟล์” ของแต่ละคน…
-

ลดภาระ HR ด้วยแอปประเมินพนักงาน: เก็บคะแนนได้ทุกที่ ทุกเวลา
การปรับปรุงกระบวนการประเมินพนักงานในองค์กร ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ HR ต้องให้ความสนใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องจัดการกับพนักงานที่ทำงานในภาคสนามหรือทีมขายที่ต้องเดินทาง แอปประเมินพนักงานที่สามารถใช้งานได้บนมือถือและ hr mobile dashboard กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ไม่เพียงช่วยลดภาระงานของ HR แต่ยังเปิดโอกาสให้การประเมินผลผ่านมือถือเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วทุกที่ทุกเวลา ด้วยความสามารถของแอปพลิเคชันที่สามารถเก็บคะแนนและข้อมูลต่างๆ ได้แบบ real-time HR ไม่จำเป็นต้องรอให้พนักงานกลับมาที่ออฟฟิศเพื่อทำการประเมินผลอีกต่อไป นอกจากนี้ ยังช่วยให้การจัดการและติดตาม kpi พนักงานเป็นไปได้ง่ายขึ้น เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดถูกรวบรวมและแสดงผลใน hr mobile dashboard อย่างเป็นระบบ พนักงานภาคสนามหรือทีมขายซึ่งมักต้องพบเจอกับความท้าทายในการจัดการเวลาการทำงานของตน การประเมินผลผ่านมือถือจึงเป็นวิธีการที่ช่วยให้พวกเขาสามารถรับรู้และปรับตัวได้ทันที ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาอย่างดีและใช้งานง่ายทำให้ทุกฝ่ายสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องมีการอบรมเพิ่มเติม และยังช่วยให้การรายงานผล kpi พนักงานเป็นไปได้อย่างโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ สำหรับ HR การมีเครื่องมือที่ช่วยให้การประเมินผลผ่านมือถือเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดภาระงานเอกสารและการจัดการที่ซับซ้อน ซึ่งส่งผลให้พวกเขามีเวลาไปโฟกัสกับการพัฒนากลยุทธ์และแผนพัฒนาพนักงานในระยะยาว นอกจากนี้ การใช้แอปฯ ยังช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดจากการประเมินผลแบบออฟไลน์และทำให้ข้อมูลที่ได้มีความน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น ประโยชน์ที่พนักงานทุกคนจะได้รับจากการใช้แอปนี้คือความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูลประเมินผลส่วนบุคคล การตั้งเป้าหมาย kpi พนักงานสอดคล้องกับแผนพัฒนาฝีมือ และยังสามารถติดตามผลการปฏิบัติงานของตนเองได้ตลอดเวลา ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถปรับปรุงคุณภาพของตนได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอการชี้แจงจากผู้บังคับบัญชา สรุปแล้ว การลดภาระงานของ HR ด้วยแอปประเมินพนักงานที่รองรับการประเมินผลผ่านมือถือและมี hr mobile dashboard…
-
Database Performance
ตัวชี้วัดประสิทธิภาพฐานข้อมูล (Database Performance KPI) ในโลกของการจัดการทรัพยากรบุคคลและเทคโนโลยีสารสนเทศ KPI เป็นองค์ประกอบสำคัญในการประเมินและพัฒนาการทำงานภายในองค์กร โดยเฉพาะในส่วนของฐานข้อมูล ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการจัดเก็บและเรียกใช้ข้อมูล การวัดประสิทธิภาพฐานข้อมูลหรือ Database Performance จึงมีความสำคัญเป็นพิเศษ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ ความสำคัญของการวัดประสิทธิภาพฐานข้อมูล Database Performance KPI วัดค่าการตอบสนองเฉลี่ยของการเรียกใช้งานคำสั่งในฐานข้อมูล ซึ่งถูกกำหนดเป็นวินาทีหรือมิลลิวินาที ตัวชี้วัดนี้มีความสำคัญเนื่องจากการที่ฐานข้อมูลตอบสนองช้าอาจทำให้กระทบต่อการใช้งานของผู้ใช้ การซื้อขาย และความพอใจของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ข้อมูลเป็นทรัพย์สินสำคัญในธุรกิจ ไม่ว่าคุณจะทำงานในตำแหน่ง Web Admin หรือไม่ก็ตาม ความเข้าใจในตัวชี้วัดนี้ก็มีผลต่อประสิทธิภาพของงานเป็นอย่างมาก การนำไปใช้และติดตามการทำงานของ KPI นี้อย่างได้ผล การนำ Database Performance KPI ไปใช้ในองค์กรจำเป็นต้องมีการวางแผนและการติดตามที่มีประสิทธิภาพ ขั้นแรกคือการเก็บข้อมูลที่ถูกต้อง ด้วยเครื่องมือที่เหมาะสม เช่น การใช้ซอฟต์แวร์การตรวจสอบฐานข้อมูลที่สามารถบันทึกเวลาในการตอบสนองอย่างละเอียด นอกจากนี้การตั้งค่าขีดจำกัดการยอมรับจะช่วยในการระบุปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น หากฐานข้อมูลมีเวลาตอบสนองที่เกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด ก็ควรมีการแจ้งเตือนผู้ดูแลระบบทันที แนวทางที่ดีที่สุดสำหรับการบรรลุเป้าหมาย การเพิ่มประสิทธิภาพของคำสั่ง SQL: ตรวจสอบและปรับเปลี่ยนคำสั่ง SQL ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นโดยตรวจสอบจากแผนการทำงาน (Execution Plans) การแคชข้อมูล: ใช้การแคชข้อมูลเมื่อเป็นไปได้เพื่อลดจำนวนครั้งที่ต้องทำการเรียกข้อมูลใหม่…