Author: Esteemate

  • การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรผ่านค่านิยมองค์กร

    การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรผ่านค่านิยมองค์กร วัฒนธรรมองค์กรคือชุดของความเชื่อ ค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมที่สมาชิกในองค์กรยึดถือร่วมกัน ซึ่งมีอิทธิพลต่อวิธีการทำงาน การสื่อสาร และการตัดสินใจภายในองค์กร การมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในระยะยาว ค่านิยมองค์กร (Core Values) ค่านิยมองค์กรคือหลักการหรือความเชื่อที่สำคัญขององค์กร ซึ่งเป็นแนวทางในการตัดสินใจและกำหนดพฤติกรรมของสมาชิกในองค์กร ค่านิยมองค์กรที่ดีควรมีความชัดเจน เข้าใจง่าย และสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจขององค์กร การเสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กรผ่านค่านิยมองค์กร 1. การกำหนดค่านิยมองค์กรที่ชัดเจน 2. การสื่อสารค่านิยมองค์กรอย่างทั่วถึง 3. การนำค่านิยมองค์กรไปใช้ในการปฏิบัติจริง 4. การสร้างบรรยากาศที่ส่งเสริมค่านิยมองค์กร 5. การทบทวนและปรับปรุงค่านิยมองค์กรอย่างสม่ำเสมอ ตัวอย่างค่านิยมองค์กร 1. ความซื่อสัตย์ (Integrity) 2. ความรับผิดชอบ (Accountability) 3. การทำงานเป็นทีม (Teamwork) 4. การมุ่งเน้นลูกค้า (Customer Focus) 5. การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง (Continuous Improvement) ประโยชน์ของการมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง 1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน 2. สร้างความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร 3. ดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพ 4. สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน…

  • 7 ตัวอย่างค่านิยมองค์กรที่สร้าง Employee Engagement และเสริมความสำเร็จขององค์กร

    ค่านิยมองค์กร (Organizational Values) เปรียบเสมือนเข็มทิศที่นำทางให้องค์กรและบุคลากรทุกคนไปในทิศทางเดียวกัน เป็นสิ่งที่หล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กร สร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของ และส่งผลต่อความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement) ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนความสำเร็จขององค์กร 7 ตัวอย่างค่านิยมองค์กรที่สามารถสร้าง Employee Engagement และส่งเสริมความสำเร็จขององค์กร ได้แก่ การนำค่านิยมองค์กรไปปฏิบัติ ประโยชน์ของค่านิยมองค์กร ตัวอย่างการนำค่านิยมองค์กรไปปฏิบัติจริง ข้อควรจำ ค่านิยมองค์กรเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้าง Employee Engagement และส่งเสริมความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว องค์กรควรให้ความสำคัญกับการกำหนดและสื่อสารค่านิยมองค์กรให้ชัดเจน รวมถึงการนำค่านิยมองค์กรไปปฏิบัติจริงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างองค์กรที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI บริการของ EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ ที่นี่

  • Core Values ค่านิยมองค์กร (วัฒนธรรมองค์กร) คืออะไร

    Core Values หรือ ค่านิยมองค์กร (วัฒนธรรมองค์กร) คือ หลักการหรือความเชื่อที่สำคัญที่องค์กรยึดถือและถือเป็นแนวทางในการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กร ค่านิยมองค์กรสะท้อนถึงสิ่งที่องค์กรให้ความสำคัญ และเป็นสิ่งที่ช่วยให้บุคลากรในองค์กรตัดสินใจได้ว่าอะไรถูกหรือผิด และจะทำงานร่วมกันอย่างไรให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร ค่านิยมองค์กรมีบทบาทสำคัญในการกำหนดวัฒนธรรมองค์กร (Organizational Culture) ซึ่งจะมีผลต่อพฤติกรรมของพนักงานและการทำงานร่วมกันของทีม ค่านิยมที่ดีจะช่วยเสริมสร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน ส่งเสริมความเชื่อมั่นและความร่วมมือ ซึ่งส่งผลต่อผลผลิตและประสิทธิภาพขององค์กร ค่านิยมองค์กร = หัวใจของวัฒนธรรมองค์กร วัฒนธรรมองค์กร คือ บรรยากาศหรือสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ถูกสร้างขึ้นจากการรวมตัวกันของค่านิยม พฤติกรรม และทัศนคติของคนในองค์กร ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำงานร่วมกันอย่างมาก วัฒนธรรมที่ดีสามารถทำให้พนักงานรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า มีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และทำให้องค์กรเติบโตไปในทิศทางที่ดี ค่านิยมองค์กรกับการบริหารงาน ค่านิยมไม่ใช่แค่คำพูด แต่ต้องถูกนำไปใช้จริงในการบริหารงานและการตัดสินใจทุกระดับ ค่านิยมองค์กรจะมีอิทธิพลในหลายด้าน ได้แก่: ทำไมค่านิยมองค์กรถึงสำคัญ ลักษณะของค่านิยมองค์กร ค่านิยมองค์กรมักจะประกอบด้วยหลาย ๆ มิติ เช่น ความสำคัญของค่านิยมองค์กร ค่านิยมองค์กรมีความสำคัญต่อหลายด้าน ได้แก่ การพัฒนาค่านิยมองค์กร การพัฒนาค่านิยมองค์กรให้เหมาะสมกับยุคสมัยและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ สามารถทำได้ผ่านกระบวนการต่าง ๆ เช่น ตัวอย่างของค่านิยมองค์กรที่นิยม การนำค่านิยมองค์กรไปปฏิบัติจริง สรุป ค่านิยมองค์กรคือแกนหลักที่สร้างแนวทางการทำงาน…

  • การปรับปรุงประสบการณ์การทำงาน (Employee Experience) ด้วย AI

    การปรับปรุงประสบการณ์การทำงาน (Employee Experience) ด้วย AI เป็นการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาใช้เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ของพนักงานในการทำงานทั้งในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพ การพัฒนาความพึงพอใจ และการสนับสนุนการเติบโตของพนักงานในองค์กร การใช้ AI ในการปรับปรุงประสบการณ์การทำงานจะมีหลายด้านที่สามารถนำมาใช้ได้ ซึ่งจะทำให้การทำงานในองค์กรมีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น 1. การปรับปรุงประสบการณ์ในกระบวนการสรรหาพนักงาน (Recruitment and Onboarding) AI สามารถช่วยในการคัดเลือกผู้สมัครงานที่เหมาะสม โดยใช้เทคโนโลยีเช่น Machine Learning (ML) เพื่อวิเคราะห์คุณสมบัติของผู้สมัครที่ตรงกับตำแหน่งงานที่เปิดรับ และทำนายความเหมาะสมของผู้สมัครสำหรับองค์กร นอกจากนี้ยังสามารถใช้ AI ในกระบวนการฝึกอบรมและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างการใช้งาน 2. การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานและองค์กร (Employee Engagement) AI ช่วยให้การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพนักงานและองค์กรสามารถทำได้ง่ายขึ้น โดยการใช้ข้อมูลเพื่อประเมินระดับความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงาน (Employee Engagement) อย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น การสำรวจความคิดเห็นแบบอัตโนมัติที่ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลจากความคิดเห็นของพนักงาน เพื่อทำให้ผู้บริหารสามารถทำการตัดสินใจที่แม่นยำขึ้น ตัวอย่างการใช้งาน 3. การพัฒนาและฝึกอบรมพนักงาน (Training and Development)…

  • การใช้ AI ในการจัดการความผูกพันและความพึงพอใจของพนักงาน

    การใช้ AI ในการจัดการความผูกพันและความพึงพอใจของพนักงานเป็นแนวทางที่องค์กรสามารถนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการบริหารทรัพยากรมนุษย์ โดยการใช้เทคโนโลยี AI เพื่อเพิ่มความพึงพอใจและความผูกพันในที่ทำงาน ถือเป็นกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและทันสมัย นี่คือวิธีการที่ AI สามารถช่วยในด้านนี้ 1. การวิเคราะห์ข้อมูลและคาดการณ์แนวโน้ม AI สามารถช่วยในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากพนักงาน เช่น การสำรวจความคิดเห็น การประเมินผลการทำงาน และข้อมูลอื่น ๆ เพื่อสร้างการคาดการณ์เกี่ยวกับระดับความพึงพอใจและความผูกพันของพนักงานได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้ผู้บริหารเข้าใจถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในองค์กรได้เร็วขึ้นและสามารถจัดการได้ทันเวลา เช่น หากพนักงานมีความกังวลเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือมีการเปลี่ยนแปลงในความพึงพอใจในบางด้าน 2. การทำงานร่วมกับพนักงานผ่านแชทบอท (Chatbots) แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถใช้ในการติดต่อสื่อสารกับพนักงานในเรื่องต่าง ๆ เช่น การตอบคำถามทั่วไป การให้คำแนะนำเกี่ยวกับสวัสดิการหรือการพัฒนาทักษะ รวมถึงการรับข้อเสนอแนะจากพนักงานเกี่ยวกับปัญหาหรือความคิดเห็นที่พวกเขามี เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน แชทบอทสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงและให้คำตอบที่รวดเร็ว ซึ่งช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานและสร้างความรู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการปรับปรุงองค์กร 3. การสร้างประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล AI สามารถช่วยในการปรับแต่งประสบการณ์ของพนักงานแต่ละคนโดยใช้ข้อมูลจากการทำงานของพวกเขา เช่น การให้คำแนะนำที่เหมาะสมในเรื่องการพัฒนาอาชีพ หรือการให้การสนับสนุนในการทำงานที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะบุคคล AI ยังสามารถช่วยในการแนะนำแผนการฝึกอบรมที่ตรงกับทักษะและความสนใจของพนักงาน 4. การประเมินผลและการติดตามความผูกพันในระยะยาว AI สามารถช่วยในการติดตามระดับความผูกพันของพนักงานโดยใช้การสำรวจหรือฟีดแบ็คจากพนักงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ผู้บริหารสามารถเห็นภาพรวมของความพึงพอใจและความผูกพันในองค์กรได้ดีขึ้น AI…

  • การใช้ Chatbot ในการตอบคำถามพนักงาน

    การใช้ Chatbot ในการตอบคำถามพนักงาน เป็นการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการช่วยเหลือพนักงานภายในองค์กรในการหาคำตอบหรือข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานหรือภารกิจที่ทำอยู่ โดยทั่วไปแล้ว Chatbot จะถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถตอบคำถามอัตโนมัติและช่วยประหยัดเวลาในการหาข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง การใช้ Chatbot ในการตอบคำถามพนักงาน สามารถทำได้หลายด้าน ดังนี้ 1. การตอบคำถามทั่วไปเกี่ยวกับองค์กร Chatbot สามารถถูกตั้งโปรแกรมให้ตอบคำถามที่พนักงานมักจะถามบ่อย ๆ เกี่ยวกับนโยบายขององค์กร เช่น: การมี Chatbot ที่สามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและลดภาระของแผนก HR หรือฝ่ายที่รับผิดชอบ 2. การสนับสนุนด้าน IT หรือเทคโนโลยี พนักงานอาจมีคำถามเกี่ยวกับปัญหาทางเทคนิค เช่น การเข้าใช้งานระบบ, การรีเซ็ตรหัสผ่าน, หรือการขอการสนับสนุนด้านซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ Chatbot ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบคำถามในด้าน IT สามารถช่วยให้พนักงานหาคำตอบจากฐานข้อมูลหรือคู่มือได้โดยไม่ต้องติดต่อฝ่าย IT โดยตรง 3. การฝึกอบรมและการพัฒนา Chatbot สามารถนำมาใช้ในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรการฝึกอบรมต่าง ๆ ในองค์กร พนักงานสามารถสอบถามเกี่ยวกับโปรแกรมฝึกอบรมที่มีอยู่, การลงทะเบียน, เนื้อหาของหลักสูตร,…

  • วิธีเลือกใช้ AI ในการคัดกรองผู้สมัครงาน

    การใช้ AI ในการคัดกรองผู้สมัครงาน เป็นกระบวนการที่สามารถช่วยให้องค์กรประหยัดเวลาและทรัพยากรในการคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถตรงกับความต้องการของตำแหน่งงานนั้น ๆ โดย AI สามารถช่วยในหลายขั้นตอนตั้งแต่การรับสมัคร การตรวจสอบคุณสมบัติ หรือการประเมินความเหมาะสมของผู้สมัครกับตำแหน่งงาน ต่อไปนี้คือลักษณะการเลือกใช้ AI ในการคัดกรองผู้สมัครงานอย่างละเอียด: 1. การรับสมัครงาน (Job Posting & Sourcing) AI สามารถช่วยในการสร้างคำอธิบายตำแหน่งงานที่ดึงดูดความสนใจและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย โดยสามารถใช้การวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้สมัครก่อนหน้า หรือข้อมูลจากเว็บไซต์หางานเพื่อทำการกำหนดลักษณะของคำอธิบายที่มีแนวโน้มจะได้รับการตอบรับจากผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตรงกับตำแหน่ง 2. การกรองใบสมัคร (Resume Screening) หนึ่งในขั้นตอนหลักที่ AI ใช้คือการกรองและประเมินใบสมัครงาน (resume) โดยไม่ต้องให้ HR หรือผู้คัดเลือกงานต้องอ่านทุกใบสมัครแบบ Manual ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้: 3. การประเมินทักษะและความสามารถ (Skills Assessment) AI สามารถใช้ในการประเมินทักษะของผู้สมัครได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การใช้เครื่องมือทดสอบออนไลน์หรือการทดสอบที่มีการออกแบบโดย AI เพื่อประเมินความรู้และทักษะเฉพาะทางในด้านต่าง ๆ 4. การสัมภาษณ์อัตโนมัติ (Automated Interviews) AI สามารถใช้ในการสัมภาษณ์ผู้สมัครผ่านระบบอัตโนมัติ เช่น การใช้โปรแกรมสัมภาษณ์ทางวีดีโอที่มีการวิเคราะห์การตอบคำถามและพฤติกรรมของผู้สมัคร…

  • การปรับตัวสู่โลกของ Generative AI ในสายงาน HR

    การปรับตัวสู่โลกของ Generative AI ในสายงาน HR (Human Resources) เป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและการวางแผนที่รอบคอบ เนื่องจากเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Generative AI สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานของ HR อย่างมากมาย ทั้งในด้านการสรรหาบุคลากร การฝึกอบรม และการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ในบทความนี้จะขออธิบายอย่างละเอียดว่า AI สามารถมีบทบาทในแต่ละด้านของงาน HR อย่างไร และการปรับตัวนั้นต้องทำอย่างไรบ้าง 1. การสรรหาบุคลากร (Recruitment) Generative AI สามารถช่วยให้การสรรหาบุคลากรมีประสิทธิภาพมากขึ้นในหลายด้าน เช่น 2. การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร (Training and Development) Generative AI สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการฝึกอบรมพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3. การวางแผนทรัพยากรบุคคล (HR Planning) การใช้ AI ในการวางแผนทรัพยากรบุคคลสามารถช่วยให้ HR ทำการตัดสินใจที่มีข้อมูลสนับสนุนอย่างชาญฉลาด 4. การจัดการผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) Generative AI สามารถช่วย…

  • Google Workspace สำหรับการจัดการงาน HR

    Google Workspace สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการจัดการงาน HR (Human Resources) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่สามารถช่วยในกระบวนการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล เช่น การจัดการเอกสาร การสื่อสารภายในองค์กร และการติดตามงานต่าง ๆ รวมถึงการดูแลพนักงานต่าง ๆ ในบริษัท ให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ซึ่งสามารถอธิบายการใช้งาน Google Workspace สำหรับการจัดการงาน HR ได้ดังนี้ 1. การจัดการเอกสาร (Google Drive, Google Docs, Google Sheets) 2. การสื่อสารภายในองค์กร (Gmail, Google Meet, Google Chat) 3. การจัดการการลาและการขาดงาน (Google Calendar, Google Forms) 4. การจัดการข้อมูลพนักงาน (Google Contacts, Google Sheets) 5. การวิเคราะห์ข้อมูล (Google…

  • รายชื่อเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลที่ HR Tech ควรติดตาม

    การติดตามเว็บไซต์และแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับ HR Tech เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ที่ทำงานในสายงาน HR และต้องการเข้าใจแนวโน้มใหม่ ๆ เทคโนโลยีที่พัฒนาไปเรื่อย ๆ และเครื่องมือที่สามารถช่วยในการจัดการทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยปรับปรุงการทำงานให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น 1. HR Technologist เว็บไซต์: https://www.hrtechnologist.comเนื้อหา: HR Technologist เป็นแหล่งข้อมูลที่เน้นการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีในแวดวง HR โดยจะมีบทความเกี่ยวกับการนำ AI, การวิเคราะห์ข้อมูล, การพัฒนาเครื่องมือ HR เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวมถึงวิธีการใช้เทคโนโลยีในการปรับปรุงประสบการณ์ของพนักงาน, การสรรหา, การจัดการความสามารถ และการพัฒนาทรัพยากรบุคคล 2. SHRM (Society for Human Resource Management) เว็บไซต์: https://www.shrm.orgเนื้อหา: SHRM เป็นองค์กรที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ โดยมีทั้งข้อมูลด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์, ข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับ HR, การจัดการประสิทธิภาพ, การสรรหา และรวมไปถึงการพัฒนาเทคโนโลยีใน HR 3. HR Dive เว็บไซต์: https://www.hrdive.comเนื้อหา: HR…