Author: Admin

  • Behavioral HR: ทำไม HR ไทยควรเริ่มใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมตั้งแต่วันนี้

    Behavioral HR: ทำไม HR ไทยควรเริ่มใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมตั้งแต่วันนี้

    พฤติกรรมทรัพยากรบุคคลหรือที่เรารู้จักกันในหลายคำว่า “Behavioral HR” กำลังกลายเป็นเครื่องมือที่ผู้จัดการทรัพยากรบุคคลทั้งในและนอกประเทศเลือกใช้ในการประเมินพนักงาน และพัฒนาการสื่อสารในทีมอย่างมีประสิทธิภาพ ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจรุนแรงเช่นนี้ การทำความเข้าใจในพฤติกรรมของพนักงานกลายเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ประโยชน์แรกที่เห็นได้ชัดจากการใช้ Behavioral HR คือการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของพนักงาน ทำให้ HR ไทยสามารถทำการประเมินพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การใช้โปรไฟล์ DISC Profile ในกระบวนการนี้ช่วยให้สามารถวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของพนักงานได้อย่างลึกซึ้ง ปัจจัยนี้ช่วยให้การบริหารทรัพยากรบุคคลเป็นไปอย่างราบรื่น และสอดคล้องกับองค์กร หนึ่งในข้อดีสำคัญของ Behavioral HR คือการพัฒนาการสื่อสารภายในทีม การมีข้อมูลด้านพฤติกรรมที่ชัดเจนช่วยปรับปรุง Team Communicationหมดปัญหาสื่อสารในองค์กรไม่ชัดเจน? จัดการ Communication Gaps ด้วยเช็คลิสต์ ให้ดีขึ้นเพราะช่วยลดความเข้าใจผิดระหว่างสมาชิกทีม และช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพสูงขึ้น HR ไทยสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการจัดสร้างโปรแกรมการพัฒนาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้ ในมุมมองของการพัฒนาความสามารถของพนักงาน DISC Profile สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการวางแผนการพัฒนาที่ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงทักษะด้าน การสื่อสาร ทักษะการบริหารจัดการ หรือทักษะอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการทำงาน ในระยะยาวการใช้ Behavioral HR สามารถลดการลาออกของพนักงานได้ ช่วยสร้างความพึงพอใจและการมีส่วนร่วมในองค์กรเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Behavioral HR ยังมีประโยชน์ในการสรรหาและเลือกสรรพนักงานที่มีทักษะและคุณสมบัติตรงกับความต้องการขององค์กรอีกด้วย การประเมินที่ดีช่วยให้ได้พนักงานที่เหมาะสมเข้ามาร่วมงาน และลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม…

  • ทำ Employee Survey แล้วเงียบกริบ? 5 วิธีเปลี่ยนผลสำรวจให้กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้

    ทำ Employee Survey แล้วเงียบกริบ? 5 วิธีเปลี่ยนผลสำรวจให้กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้

    การทำแบบสำรวจพนักงานหรือที่รู้จักกันว่า employee survey นั้นถือเป็นเครื่องมือในการตรวจสอบสภาพแวดล้อมและบรรยากาศในที่ทำงานที่หลายองค์กรนิยมใช้ เพื่อให้ได้ผลสำรวจที่สามารถนำมาพัฒนาและเปลี่ยนแปลงองค์กรได้อย่างจับต้องได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการในขั้นตอนต่างๆ อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ทำไมผลสำรวจถึงเงียบ? การทำ employee survey ที่มีผลสำรวจแต่ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งเกิดจากการที่องค์กรไม่ได้ดำเนินการต่ออย่างรวดเร็วเมื่อได้รับผลจากการสำรวจ ขาดความกระตือรือร้นในการตอบสนองต่อข้อเสนอแนะ หรือไม่สามารถแปลผลสำรวจให้เกิดเป็นการกระทำที่ชัดเจน ซึ่งจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าเสียงของพวกเขาไม่ได้ถูกฟัง และไม่เห็นประโยชน์ของการทำผลสำรวจ สร้างแผนการดำเนินการที่ชัดเจน เมื่อได้ผลสำรวจมาแล้ว ควรเริ่มต้นด้วยการสร้างแผนการดำเนินการที่ชัดเจนและมีความยืดหยุ่น สามารถนำผลสำรวจมาวิเคราะห์และสร้างการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆ ได้อย่างมีทิศทาง การกำหนดเป้าหมายอย่างชัดเจน และสอดคล้องกับข้อเสนอแนะของพนักงานก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน สร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในองค์กร เพื่อให้ผลสำรวจมีประสิทธิภาพ ต้องสร้างการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่ายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร หัวหน้างาน หรือพนักงานต่างๆ ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการวางแผนและตัดสินใจในการนำผลสำรวจมาปรับใช้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงจากทุกภาคส่วน สื่อสารอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ การสื่อสารเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงตามผลสำรวจเกิดขึ้นจริง ควรมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่องและชัดเจนถึงสถานะของการดำเนินการ การตอบสนองต่อผลสำรวจ และการปรับปรุงที่เกิดขึ้น เพื่อให้พนักงานได้รับรู้ถึงความคืบหน้าและเปลี่ยนแปลง ฝึกอบรมและพัฒนา นำผลสำรวจมาวิเคราะห์เพื่อค้นหาความต้องการในการฝึกอบรมและพัฒนาให้กับพนักงาน ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีขึ้น หมั่นลงทุนในการปรับปรุงทั้งทักษะและความรู้ตลอดจนวิธีการทำงานให้สอดคล้องกับผลสำรวจ ติดตามและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ การประเมินผลเป็นสิ่งสุดท้ายที่ไม่ควรมองข้าม ควรมีการติดตามและประเมินผลหลังจากที่ได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงตามผลสำรวจ เพื่อให้ทราบว่าสิ่งที่ดำเนินการไปมีประสิทธิภาพหรือไม่ และปรับปรุงส่วนที่ยังต้องการพัฒนา บทสรุป การทำ employee survey แล้วเงียบอาจเป็นปัญหาที่หลายคนเผชิญ แต่ด้วยการมีแผนการดำเนินการที่ชัดเจน การสร้างการมีส่วนร่วมจากฝ่ายต่างๆ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การฝึกอบรมที่ตรงจุด…

  • จาก Feedback ถึงการเปลี่ยนแปลง: วิธีสร้างวัฒนธรรมให้คำแนะนำอย่างปลอดภัยในองค์กรไทย

    จาก Feedback ถึงการเปลี่ยนแปลง: วิธีสร้างวัฒนธรรมให้คำแนะนำอย่างปลอดภัยในองค์กรไทย

    ในโลกของการทำงานในปัจจุบัน ความสามารถในการรับและให้ฟีดแบ้คเชิงบวกในองค์กรเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างยิ่ง ด้วยการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการให้คำแนะนำ เราสามารถเพิ่มประสิทธิภาพและส่งเสริมความก้าวหน้าในที่ทำงานได้ การมีระบบฟีดแบ้คที่ดีสามารถช่วยสร้างความไว้วางใจในทีมงาน และส่งเสริมให้พนักงานทั้งหมดรู้สึกว่าพวกเขาสามารถแสดงความคิดเห็นและให้ข้อเสนอแนะได้อย่างเปิดเผย โดยไม่ต้องกลัวผลกระทบที่ไม่ดี การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เน้นการฟีดแบ้คต้องเริ่มจากการทำให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของการสื่อสารที่เปิดเผยในองค์กรไทย นอกจากนี้ การที่ผู้บริหารหรือหัวหน้างานมีท่าทีเปิดกว้างและให้การต้อนรับต่อคำแนะนำเหล่านี้ จะเป็นการส่งเสริมให้พนักงานรู้สึกมั่นใจในการแสดงความเห็น ผู้บริหารควรจะต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างในการยอมรับฟีดแบ้ค ทั้งยังต้องมีการตอบสนองในเชิงพัฒนา โดยไม่ทำให้ผู้ให้รู้สึกว่าคำแนะนำของเขาไม่ได้รับการใส่ใจ วัฒนธรรมองค์กร ที่แข็งแรงเกิดจากการสื่อสารที่ดีและความไว้วางใจที่ถูกสร้างขึ้นจากการเปิดรับฟีดแบ้คในทุกระดับชั้น การประเมินผลการทำงานของพนักงานควรมีทั้งด้านบวกและด้านที่ต้องปรับปรุง ไม่ใช่เพื่อการตัดสิน แต่เพื่อการพัฒนา ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการทำให้พนักงานเห็นว่าคำแนะนำที่ได้รับจะถูกนำไปปรับใช้เพื่อการพัฒนาตนเอง รวมถึงวิธีการสื่อสารให้คำแนะนำที่เหมาะสมและไม่รุกรานจะช่วยสร้างบรรยากาศที่มีศักยภาพในการเรียนรู้และเปลี่ยนแปลง การสร้างวัฒนธรรม ฟีดแบ้ค ที่ประสบความสำเร็จจะช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่นในการปรับปรุงและพัฒนาตนเอง การเปิดโอกาสให้กับพนักงานทุกคนในการแสดงความคิดเห็น ไม่เพียงแต่จะทำให้องค์กรมีความสดใสและคล่องตัว แต่ยังช่วยให้มีการปรับตัวและพัฒนาคุณภาพงานไปพร้อมกับความพึงพอใจของพนักงาน โดยทำให้การสื่อสารเป็นสิ่งที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ การปรับใช้ ฟีดแบ้คในวัฒนธรรมองค์กรของไทยจึงเสมือนเส้นทางสู่การพัฒนาองค์กรในลักษณะยั่งยืน และเสริมสร้างความสัมพันธ์ในทีมงานที่มั่นคง นำไปสู่การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเปิดกว้างรับฟีดแบ้ค และการตอบสนองอย่างเปิดเผยและจริงใจ จะเป็นการสร้างองค์กรที่มีศักยภาพที่ไม่หยุดนิ่ง การสร้างวัฒนธรรม ฟีดแบ้ค ที่มั่นคงเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาองค์กรที่ปรับตัวได้ดีในทุกสภาวะ การนำวิธีการและแนวคิดที่เกี่ยวข้องมาใช้ในองค์กรไทยจะช่วยสร้างงานที่มีคุณภาพ ปรับปรุงความสัมพันธ์ของบุคลากรภายใน และสนับสนุนให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาในทุกระดับ ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้จากการรับฟังและการตอบสนองอย่างแท้จริงในวัฒนธรรมฟีดแบ้คที่เป็นมาตรฐาน ท้ายที่สุด การรับฟีดแบ้คในองค์กรจะสามารถนำไปสู่การพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนได้อย่างแท้จริง การยอมรับและเริ่มเปลี่ยนแปลงจากภายในองค์กรจะไม่เพียงแต่สร้างความสุขในที่ทำงาน แต่ยังได้รับความไว้วางใจและความประทับใจจากทั้งภายในและภายนอกองค์กรด้วย

  • แบบประเมินทดลองงาน: เครื่องมือสำคัญที่ HR ไม่ควรมองข้าม

    แบบประเมินทดลองงาน: เครื่องมือสำคัญที่ HR ไม่ควรมองข้าม

    การรับพนักงานใหม่เข้ามาในองค์กรไม่ใช่เพียงการคัดเลือกจากการสัมภาษณ์เท่านั้น แต่ยังต้องมีการทดลองงาน (Probation) เพื่อประเมินว่าพนักงานใหม่มีความเหมาะสมทั้งในด้านทักษะ ทัศนคติ และการทำงานร่วมกับทีมจริงหรือไม่ เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้ HR และหัวหน้างานตัดสินใจได้อย่างมีระบบก็คือ “แบบประเมินทดลองงาน” ทำไมแบบประเมินทดลองงานถึงสำคัญ? องค์ประกอบของแบบประเมินทดลองงาน โดยทั่วไป แบบประเมินทดลองงานที่ดีจะครอบคลุม 3 มิติหลัก: ตัวอย่างหัวข้อคำถามในแบบประเมินทดลองงาน แนวทางการนำไปใช้ในองค์กร ดาวน์โหลดตัวอย่างแบบประเมินทดลองงานฟรี EsteeMATE ได้เตรียม ไฟล์ Excel แบบประเมินทดลองงาน ที่สามารถปรับใช้ได้ทันทีในองค์กรของคุณ ดาวน์โหลดได้ที่นี่ EsteeMATE กับระบบประเมินผลที่ครบวงจร แบบประเมินทดลองงานเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่ EsteeMATE มีโซลูชันที่ครอบคลุมทั้ง การประเมินผลงาน, การจัดการ KPI, Feedback 360 องศา และการสำรวจความผูกพันของพนักงาน ที่ช่วยให้องค์กรบริหาร “Employee Experience” ได้อย่างครบวงจร

  • HR ไม่ใช่แค่เอกสาร: 5 วิธีเปลี่ยนบทบาท HR จากคนคีย์ข้อมูล เป็นผู้ขับเคลื่อนการเติบโต

    HR ไม่ใช่แค่เอกสาร: 5 วิธีเปลี่ยนบทบาท HR จากคนคีย์ข้อมูล เป็นผู้ขับเคลื่อนการเติบโต

    การบริหารทรัพยากรมนุษย์หรือ HR มีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการพัฒนาหรือสนับสนุนการเติบโตขององค์กร หลายคนอาจมองว่า HR มีหน้าที่หลักๆ ในการคีย์ข้อมูลหรือจัดการงานเอกสาร แต่ในความเป็นจริงแล้ว HR มีบทบาทที่สำคัญยิ่งกว่านั้น โดย HR สามารถเปลี่ยนแปลงและขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรได้ตั้งแต่ระดับบุคคลจนไปถึงภาพรวมขององค์กร ด้วยวิธีการและกลยุทธ์ต่างๆ มาดูกันว่า HR สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อเปลี่ยนบทบาทจากการเป็นผู้จัดการงานเอกสาร มาเป็นผู้ขับเคลื่อนการเติบโต หน้าที่ของ HR ที่มากกว่าการคีย์ข้อมูล อย่างแรกคือการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง วัฒนธรรมองค์กรที่ดีจะช่วยกระตุ้นให้พนักงานทุกคนมีแรงบันดาลใจและมีแรงจูงใจที่ดีในการทำงาน ซึ่งมากไปกว่าการคีย์ข้อมูลแล้ว HR สามารถริเริ่มและนำเสนอวิธีการที่ทำให้พนักงานรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ด้วยกิจกรรมหรือโปรแกรมพัฒนาต่างๆ ที่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ขององค์กร อีกหนึ่งวิธีที่ HR สามารถขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้คือการพัฒนาทักษะพนักงานในองค์รวม HR ไม่ควรจำกัดตัวเองเพียงแค่การจัดการอบรมอบรมที่เป็นไปตามข้อกำหนดเท่านั้น แต่ควรมีการประเมินหาความต้องการเพิ่มเติมของพนักงานในแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้สามารถพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการทำงานได้จริง การสรรหาและคัดเลือกพนักงานที่เหมาะสมก็ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ HR สามารถใช้ในการขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโต ควรให้ความสำคัญกับการคัดเลือกคนที่ไม่ใช่แค่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน แต่ควรเป็นคนที่มีศักยภาพในการพัฒนาและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร หนึ่งในส่วนสำคัญที่ HR สามารถทำได้คือการให้คำแนะนำและส่วนสนับสนุนต่อผู้นำองค์กร ในการตัดสินใจด้านทรัพยากรมนุษย์ การมีส่วนร่วมในการเสนอแนะแนวทางที่ส่งผลต่อการเติบโตจะช่วยนำพาองค์กรไปสู่ทิศทางที่ถูกต้อง การประเมินและติดตามผลเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ของ HR ที่จะช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง การสร้างระบบประเมินผลที่โปร่งใสและมีประสิทธิภาพจะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าทั้งการพัฒนาตัวเองและสิ่งที่เขาทำได้รับการยอมรับ สรุปได้ว่า HR สามารถนำพาและขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตได้มากกว่าการจัดการเอกสารหรือคีย์ข้อมูล ด้วยการพัฒนาตนเองให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และการริเริ่มในส่วนสำคัญต่างๆ ที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตทั้งในระดับบุคคลและภาพรวมองค์กร ทุกคนในองค์กรสามารถมีบทบาทในความสำเร็จได้เมื่อ…

  • เจาะลึก DISC Profile: เครื่องมือช่วยให้หัวหน้าคุยกับลูกทีมได้เข้าใจขึ้น

    เจาะลึก DISC Profile: เครื่องมือช่วยให้หัวหน้าคุยกับลูกทีมได้เข้าใจขึ้น

    ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นสูงขึ้นทุกวัน การเข้าใจพฤติกรรมและบุคลิกภาพของพนักงานในทีมงานเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การใช้เครื่องมืออย่าง DISC Profile จึงกลายเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารระหว่างหัวหน้ากับทีมงาน เพื่อให้การทำงานเป็นทีมมีความสามัคคีมากขึ้น และสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ดีขึ้นได้ DISC Profile: เครื่องมือที่ช่วยให้การสื่อสารในทีมง่ายขึ้น DISC Profile เป็นแบบประเมินบุคลิกภาพที่แสดงผลออกมาในรูปแบบของสี่ประเภทหลัก ได้แก่ Dominance (D), Influence (I), Steadiness (S), และ Conscientiousness (C) ซึ่งช่วยให้หัวหน้าและทีมงานสามารถเข้าใจสไตล์การทำงานและวิธีการสื่อสารของแต่ละบุคคลได้อย่างลึกซึ้ง การเข้าใจบุคลิกพนักงานให้ละเอียดจะทำให้การสื่อสารในทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น และส่งผลให้เกิดทีมเวิร์คและสไตล์การทำงานที่สอดคล้องกัน แบบประเมิน DISC: บันไดสู่การพัฒนาทักษะหัวหน้า การใช้แบบประเมิน DISC ฟรีเป็นขั้นตอนแรกที่ช่วยให้หัวหน้าได้รู้จักทีมงานในมุมมองใหม่ๆ ความเข้าใจบุคลิกพนักงานเหล่านี้ จะช่วยให้หัวหน้าสามารถเลือกใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล เนื่องจากบางคนอาจต้องการข้อมูลที่กระชับและตรงไปตรงมา ในขณะที่บางคนอาจจะชอบการสื่อสารที่อบอุ่นและให้กำลังใจ การทราบถึงลักษณะเหล่านี้จะช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นทีมเกิดทักษะหัวหน้าที่มีประสิทธิภาพ ทำไมแบบทดสอบ DISC ถึงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญในองค์กร? ในองค์กรที่ต้องมีการทำงานร่วมกันเป็นทีม การมีความเข้าใจในแบบทดสอบ DISC จะสามารถช่วยให้การจัดสรรบทบาทและหน้าที่ในทีมเป็นไปอย่างเหมาะสม DISC personality ไทย ช่วยให้การสื่อสารมีความราบรื่น ลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นจากการขาดความเข้าใจ ซึ่งส่งผลให้งานที่ทำร่วมกันมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่สูงสุด การนำ DISC Profile ไปใช้จริงในองค์กร…

  • 5 เหตุผลที่ HR ไทยควรหยุดใช้ Excel ทำงาน แล้วหันมาใช้ระบบที่เหมาะสมกับยุค AI กว่า

    5 เหตุผลที่ HR ไทยควรหยุดใช้ Excel ทำงาน แล้วหันมาใช้ระบบที่เหมาะสมกับยุค AI กว่า

    การใช้ Excel ในการจัดการงาน HR สำหรับหลายองค์กรไทยอาจดูเป็นเรื่องสะดวกและคุ้นเคยอย่างมาก แต่ในยุคที่เทคโนโลยีและ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ระบบ HR ออนไลน์กลายเป็นที่นิยมและมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เราจึงขอเสนอเหตุผล ว่าทำไม HR ไทยควรพิจารณาหยุดใช้ Excel และหันมาใช้ โปรแกรม HR ที่เหมาะสมกับยุคนี้แทน หนึ่งในข้อเสียของการใช้ Excel ในงาน HR คือการที่ข้อมูลมีความเสี่ยงต่อการผิดพลาด ไม่ว่าจะจากการกรอกข้อมูลผิดพลาดหรือการคำนวณที่ไม่ถูกต้อง สิ่งเหล่านี้สามารถทำให้ค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นได้ เช่น ข้อมูลการจ่ายเงินเดือนที่ผิดพลาดส่งผลต่อทั้งพนักงานและองค์กร นอกจากนี้ความผิดพลาดจากไฟล์ Excel ยังอาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือไม่ได้รับการสำรองอย่างเหมาะสมด้วย การที่หลายองค์กรยังคงเลือกใช้ Excel นั้นอาจเนื่องมาจากความคุ้นเคยและความประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะสั้น แต่การเปลี่ยนจาก Excel เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อการจัดการ HR โดยเฉพาะสามารถลดความเสี่ยงของความผิดพลาดและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ดีกว่า โปรแกรม HR ไทยที่ทันสมัยสามารถช่วยให้การทำงาน HR ออนไลน์เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น ในยุคที่ทุกอย่างกำลังก้าวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงแบบดิจิทัล (digital transformation) องค์กรที่ยังคงยึดติดกับการใช้ Excel เท่านั้นอาจตามไม่ทันการแข่งขัน ปัจจุบันมีระบบ HR ออนไลน์ที่สามารถผสานรวมข้อมูลจากหลายแหล่งได้อย่างง่ายดาย ซึ่งสิ่งนี้เป็นไปไม่ได้ใน…

  • ทำไมระบบ Performance Review แบบเดิมถึงทำร้ายพนักงานมากกว่าช่วย?

    ทำไมระบบ Performance Review แบบเดิมถึงทำร้ายพนักงานมากกว่าช่วย?

    ในยุคสมัยที่เทคโนโลยีและการจัดการพนักงานเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การประเมินผลการทำงานหรือ Performance Review ไทย แบบเดิมๆ ที่ยังอิงกับการประชุมประจำปีนั้น อาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรและพนักงานในยุคใหม่ได้เท่าที่ควร เรามาลองดูกันว่าทำไมระบบประเมินผลการทำงานแบบเดิมถึงเป็นอันตรายและทำร้ายพนักงานมากกว่าช่วย ระบบประเมินผลการทำงานแบบเดิมไม่ได้เหมาะสมกับทุกคน การประเมินพนักงานปีละครั้งนั้นมักเน้นไปที่การวัดผลสำเร็จของพนักงานในช่วงเวลาที่ผ่านมาแทนที่จะมองไปข้างหน้าและพัฒนาทักษะที่จำเป็นในอนาคต ด้วยเหตุนั้น HR ยุคใหม่ จึงต้องพิจารณาการนำเครื่องมือใหม่ๆ อย่าง continuous feedback เข้ามาใช้ เพื่อให้พนักงานได้รับคำแนะนำที่สามารถนำไปปรับปรุงและพัฒนาตัวเองได้ตลอดเวลา การที่พนักงานได้รับ feedback เพียงปีละครั้งจากระบบประเมินผลการทำงานแบบเดิม อาจทำให้พนักงานรู้สึกถูกจำกัดอยู่กับมุมมองของหัวหน้าเพียงคนเดียว และอาจทำให้เกิดความไม่พอใจ ความขัดแย้ง หรือแม้กระทั่งการลดทอนแรงจูงใจในการทำงาน ด้วยเหตุนี้ การนำเอาระบบที่ให้อิสระในเรื่องของ feedback หรือที่เรียกว่า check-in system เพื่อให้หัวหน้างานและพนักงานสามารถพบปะกันอย่างสม่ำเสมอ และสามารถอภิปรายเป้าหมายและปัญหาการทำงานได้ทันทีจึงเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากนี้ การประเมินพนักงานแบบเดิมยังอาจไม่สามารถส่งเสริมการพัฒนาของพนักงานได้อย่างแท้จริง การมุ่งเน้นเพียงผลลัพธ์ที่ได้ อาจทำให้พนักงานรู้สึกว่าบริษัทไม่สนใจใน ศักยภาพและการเติบโตของพวกเขา จึงควรส่งเสริมให้เกิด employee development ผ่านการฝึกอบรมและการสนับสนุนการเรียนรู้ในที่ทำงาน อีกหนึ่งข้อเสียเปรียบคือประสิทธิภาพของระบบประเมินผลการทำงานแบบเดิม อาจไม่สามารถมองเห็นประสิทธิภาพและผลกระทบของการทำงานได้เท่าที่ควร application ของ employee performance management ที่ให้ feedback และคำแนะนำอย่างต่อเนื่อง คือสิ่งหนึ่งที่องค์กรควรนำมาพิจารณาใช้…

  • เก็บ Consent พนักงานแบบมืออาชีพ ง่าย ฟรี และไม่ต้องกลัวผิด PDPA

    เก็บ Consent พนักงานแบบมืออาชีพ ง่าย ฟรี และไม่ต้องกลัวผิด PDPA

    ในยุคปัจจุบันที่การจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเป็นเรื่องสำคัญมากยิ่งขึ้น PDPA หรือ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ได้กลายเป็นหัวข้อที่องค์กรทุกแห่งจำเป็นต้องให้ความสนใจอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในส่วนของการจัดการข้อมูลพนักงาน การเก็บ consent พนักงานให้สอดคล้องกับกฎหมาย PDPA เป็นหนึ่งในความรับผิดชอบหลักของฝ่าย HR ที่ไม่ควรมองข้าม ให้ความสำคัญกับการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลในองค์กร ไม่เพียงแค่การปฏิบัติตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงาน องค์กรที่ปฏิบัติตาม HR Compliance ไทยในการเก็บ consent จะไม่เพียงแค่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมาย แต่ยังสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรเองด้วย การสร้างแบบฟอร์มขอความยินยอม PDPA ที่ถูกต้องและสมบูรณ์เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการเก็บ consent พนักงานให้เป็นไปตามกฎหมาย องค์กรควรมีระบบ HR ตาม PDPA ที่ชัดเจน รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีซอฟต์แวร์เพื่อช่วยในการบริหารจัดการ consent management HR เมื่อเปรียบเทียบกับการเก็บ consent แบบเดิม ๆ การใช้ระบบดิจิทัลจะช่วยประหยัดเวลา ลดการใช้กระดาษ และลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ ในขณะที่หลายองค์กรอาจกังวลกับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติตามกฎหมาย PDPA แต่ความจริงแล้วมีเครื่องมือและแบบฟอร์ม PDPA ฟรีที่สามารถนำมาปรับใช้ในองค์กรได้ มีแหล่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตที่รองรับการใช้งานฟรีและสามารถปรับให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรได้อย่างไม่ยากลำบาก ข้อดีของการมี consent management HR ที่มีประสิทธิภาพคือ…

  • จาก HRMS สู่ Employee Experience: ถอดบทเรียน ประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านที่เราอยากบอก

    จาก HRMS สู่ Employee Experience: ถอดบทเรียน ประสบการณ์การเปลี่ยนผ่านที่เราอยากบอก

    ในทศวรรษที่ผ่านมา วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีในภาค HR ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่การจัดการเงินเดือนของพนักงาน ไปสู่การมองที่คุณค่าและการมีส่วนร่วมของพนักงานเอง การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงความจำเป็นในการทำความเข้าใจผู้คนในสถานที่ทำงานได้ลึกซึ้งกว่าเดิม ซึ่งเป็นศูนย์กลางของแนวคิด Employee Experience Platform ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วนี้ องค์กรที่นำนวัตกรรม HR Tech ไทยมาใช้ มีการพัฒนา Payroll SAAS ที่สามารถจัดการเอกสารเงินเดือนและดำเนินการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ การนำระบบ HR ออนไลน์เข้ามาประยุกต์ใช้ทำให้การจัดการเรื่องนี้ง่ายขึ้นและมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ HR Software ไทยยังมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูลระดับสูงเพื่อการวิเคราะห์ประสบการณ์พนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ การที่ HR จะต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น SaaS สำหรับ HR เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ การมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์พนักงานไม่ใช่แค่ความสะดวกสบายในงานประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการมีส่วนร่วมและความรู้สึกที่ดีต่อตำแหน่งงานและองค์กรโดยรวม วิธีการที่ HR Tech ไทยสามารถช่วยสนับสนุนสิ่งนี้คือการให้ข้อมูลเชิงลึกซึ่งทำให้ฝ่ายจัดการสามารถตัดสินใจอย่างชาญฉลาด ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพนักงานนั้นสามารถนำไปใช้ปรับปรุงนโยบายและวิธีการจัดการภายในองค์กรให้ดีขึ้น ในด้านของ Payroll SAAS และ HR Software ไทย สิ่งสำคัญคือความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับประสบการณ์พนักงานในทุกรูปแบบ ตั้งแต่การตรวจสอบความพึงพอใจในงาน ไปจนถึงการปรับตัว HR ยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างแรงจูงใจให้พนักงาน…