Author: Esteemate

  • การสร้าง Employee Experience ด้วย Digital Tools

    การสร้าง Employee Experience ด้วย Digital Tools เป็นวิธีที่องค์กรสามารถใช้เทคโนโลยีในการยกระดับประสบการณ์การทำงานของพนักงาน เพื่อให้พวกเขารู้สึกมีส่วนร่วม มีความสุข และได้รับการสนับสนุนในทุกขั้นตอนของการทำงาน โดยการใช้เครื่องมือดิจิทัลในหลายด้านจะช่วยให้พนักงานมีประสบการณ์ที่ดีขึ้น ตั้งแต่การเริ่มต้นเข้าร่วมองค์กร (Onboarding) จนถึงการพัฒนาทักษะและการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็ง วิธีสร้าง Employee Experience ด้วย Digital Tools ประโยชน์ของการใช้ Digital Tools ในการสร้าง Employee Experience สรุป การใช้ Digital Tools เพื่อสร้าง Employee Experience เป็นแนวทางที่สำคัญในการยกระดับประสบการณ์การทำงานของพนักงานตั้งแต่กระบวนการเริ่มงาน (Onboarding) การพัฒนาทักษะ การประเมินผล และการจัดการสวัสดิการต่าง ๆ การใช้เทคโนโลยีไม่เพียงแต่ช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพ แต่ยังช่วยส่งเสริมความพึงพอใจและการมีส่วนร่วมของพนักงาน ทำให้พวกเขารู้สึกเชื่อมโยงกับองค์กรมากขึ้น หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI บริการของ EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ที่นี่

  • วิธีลด Workload ของ HR ด้วย Automation

    การใช้ Automation เพื่อลด Workload ของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับปรุงกระบวนการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของทีม HR โดยเฉพาะในงานที่มีลักษณะซ้ำซากและเป็นกิจวัตร ซึ่งการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยจะช่วยลดเวลาที่ใช้ในการทำงานซ้ำซ้อนและลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ วิธีลด Workload ของ HR ด้วย Automation ประโยชน์ของการใช้ Automation ในการลด Workload ของ HR สรุป วิธีลด Workload ของ HR ด้วย Automation เป็นการนำ Automation มาใช้ในกระบวนการต่าง ๆ ของ HR เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการลด Workload และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฝ่าย HR ด้วยการทำให้กระบวนการต่าง ๆ เป็นอัตโนมัติ เช่น การสรรหาพนักงาน, การคำนวณเงินเดือน, การจัดการข้อมูลพนักงาน, และการประเมินผลการทำงาน ช่วยลดเวลาในการทำงานซ้ำซ้อน, ลดข้อผิดพลาด, และทำให้ทีม HR สามารถมุ่งเน้นในงานที่มีคุณค่ามากขึ้น หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI บริการของ…

  • การสร้างโปรแกรมพัฒนาทักษะดิจิทัลในองค์กร

    โปรแกรมพัฒนาทักษะดิจิทัลในองค์กร เป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มความสามารถของพนักงานในการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ ในการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลและการทำงานในยุคใหม่ ขั้นตอนในการสร้าง โปรแกรมพัฒนาทักษะดิจิทัลในองค์กร มีดังนี้: 1. การวิเคราะห์ความต้องการ 2. การออกแบบโปรแกรมการเรียนรู้ 3. การฝึกอบรมและพัฒนา 4. การใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือ 5. การสนับสนุนและสร้างแรงจูงใจ 6. การประเมินผลและปรับปรุงโปรแกรม ตัวอย่างเครื่องมือและเทคนิคที่สามารถใช้: ตัวอย่างโปรแกรมที่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัลในองค์กร ตัวอย่างที่ 1: โปรแกรมการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลพื้นฐาน วัตถุประสงค์: เพื่อให้พนักงานมีความรู้พื้นฐานในการใช้เครื่องมือดิจิทัลและสามารถใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อหาหลักสูตร: รูปแบบการเรียนรู้: ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: ตัวอย่างที่ 2: โปรแกรมพัฒนาและฝึกอบรมทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล วัตถุประสงค์: เพื่อพัฒนาทักษะการใช้เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เนื้อหาหลักสูตร: รูปแบบการเรียนรู้: ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: การสร้างโปรแกรมพัฒนาทักษะดิจิทัลในองค์กรสามารถทำได้หลายรูปแบบขึ้นอยู่กับลักษณะขององค์กรและความต้องการของพนักงาน ต่อไปนี้คือตัวอย่างโปรแกรมที่สามารถนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาทักษะดิจิทัลในองค์กร: ตัวอย่างที่ 1: โปรแกรมการฝึกอบรมทักษะดิจิทัลพื้นฐาน วัตถุประสงค์: เพื่อให้พนักงานมีความรู้พื้นฐานในการใช้เครื่องมือดิจิทัลและสามารถใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื้อหาหลักสูตร: รูปแบบการเรียนรู้: ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: ตัวอย่างที่ 2: โปรแกรมพัฒนาและฝึกอบรมทักษะการวิเคราะห์ข้อมูล…

  • การทำ Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps

    การทำผ่าน Mobile Apps เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานในองค์กรในยุคดิจิทัล โดยเฉพาะในช่วงที่การทำงานทางไกล (remote work) และการทำงานที่บ้าน (work from home) กลายเป็นเรื่องปกติ การใช้แอปพลิเคชันบนมือถือเพื่อดูแลสุขภาพกายและจิตใจของพนักงานสามารถเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว ประโยชน์ของการทำ Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps ความสำคัญของการทำ Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps การดูแล ผ่าน Mobile Apps เป็นแนวทางที่สำคัญในการส่งเสริมสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจของพนักงาน ซึ่งจะช่วยให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน, ลดความเครียด, และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งสร้างสมดุลที่ดีระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว โดยเฉพาะในยุคที่การทำงานทางไกล (remote work) และการทำงานจากบ้าน (work from home) กลายเป็นแนวทางที่พนักงานต้องใช้มากขึ้น การนำแอปพลิเคชันมาช่วยส่งเสริมนั้นสามารถให้ผลลัพธ์ที่สำคัญหลายประการ ได้แก่ ตัวอย่างแอปพลิเคชันที่ใช้ในการทำ Employee Wellbeing วิธีการสร้างโปรแกรม Employee Wellbeing ด้วย Mobile Apps หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI…

  • ตัวอย่าง KPI ที่เหมาะสมสำหรับแผนกต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพองค์กร

    KPI คือ ตัวชี้วัดผลสำคัญ ที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการต่าง ๆ ภายในองค์กร เป้าหมายของ KPI คือการช่วยให้ธุรกิจสามารถวัดผลลัพธ์ที่ได้จากการดำเนินงานและใช้ข้อมูลเหล่านั้นในการตัดสินใจเพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาผลการทำงานในอนาคต โดย KPI สามารถใช้ในแผนกต่าง ๆ ที่สำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ดีขึ้น 1. แผนกการตลาด (Marketing Department) KPI ที่เหมาะสม: อธิบาย: ตัวอย่างการใช้งาน: 2. แผนกการขาย (Sales Department) KPI ที่เหมาะสม: อธิบาย: ตัวอย่างการใช้งาน: 3. แผนกทรัพยากรบุคคล (HR Department) KPI ที่เหมาะสม: อธิบาย: ตัวอย่างการใช้งาน: 4. แผนกการผลิต (Production Department) KPI ที่เหมาะสม: อธิบาย: ตัวอย่างการใช้งาน: 5. แผนกบริการลูกค้า (Customer Service Department) KPI ที่เหมาะสม: อธิบาย: ตัวอย่างการใช้งาน:…

  • ปรับกลยุทธ์ด้วย KPI เคล็ดลับการวัดผลที่ตรงเป้าหมาย

    ปรับกลยุทธ์ด้วย KPI เคล็ดลับการวัดผลที่ตรงเป้าหมาย เป็นกระบวนการที่ใช้ KPI (Key Performance Indicators) หรือ ดัชนีชี้วัดผลสำคัญ เพื่อช่วยในการปรับกลยุทธ์ขององค์กรให้ตรงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งทำให้การดำเนินงานในแต่ละแผนกหรือทุกภาคส่วนมีความชัดเจนและมีทิศทางที่สามารถนำไปสู่ความสำเร็จได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมายของการปรับกลยุทธ์ด้วย KPI ปรับกลยุทธ์ด้วย KPI เคล็ดลับการวัดผลที่ตรงเป้าหมาย คือการใช้ KPI เพื่อประเมินผลการดำเนินงานและกำหนดทิศทางของกลยุทธ์ในองค์กร ซึ่ง KPI จะช่วยให้สามารถวัดและตรวจสอบผลการทำงานของแต่ละแผนก, โครงการ, หรือองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ข้อมูลจากการวัด KPI ที่ได้จากการทำงานจริงมาปรับปรุงกลยุทธ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการและความเปลี่ยนแปลงในตลาดหรือในองค์กร เคล็ดลับในการใช้ KPI เพื่อปรับกลยุทธ์ ตัวอย่างที่ 1: แผนกการตลาด (Marketing Department) สถานการณ์: แผนกการตลาดของบริษัทมีการวางแผนเพื่อเพิ่มยอดขายผ่านการโฆษณาออนไลน์และการทำแคมเปญโปรโมชัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากแคมเปญนั้นไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง KPI ที่ใช้ในการวัดผล: การวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์: ผลลัพธ์ที่คาดหวังหลังการปรับกลยุทธ์: ตัวอย่างที่ 2: แผนกการขาย (Sales Department) สถานการณ์: บริษัทต้องการเพิ่มยอดขายในไตรมาสที่ 2 แต่ยอดขายในไตรมาสที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ KPI ที่ใช้ในการวัดผล: การวิเคราะห์และปรับกลยุทธ์:…

  • KPI ช่วยธุรกิจได้อย่างไร แนวทางการนำไปใช้วัดผลในแต่ละแผนก

    KPI (Key Performance Indicator) หรือ ดัชนีชี้วัดผลสำคัญ แนวทางการนำไปใช้วัดผลในแต่ละแผนก เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการวัดผลและประเมินผลการทำงานของบุคคลหรือองค์กรโดยเฉพาะในด้านต่างๆ ของธุรกิจ เพื่อให้สามารถกำหนดทิศทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้อย่างชัดเจน และช่วยให้ธุรกิจสามารถบรรลุเป้าหมายที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมายของ KPI KPI ช่วยธุรกิจได้อย่างไร แนวทางการนำไปใช้วัดผลในแต่ละแผนก 1. แผนกการตลาด (Marketing Department) KPI ช่วยธุรกิจ เช่น แผนกการตลาดมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้า ดังนั้น KPI ที่ใช้ในแผนกนี้จะเน้นไปที่การวัดประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดและการเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ 2. แผนกขาย (Sales Department) KPI ในแผนกขายจะช่วยให้สามารถติดตามความคืบหน้าในการปิดการขายและการเพิ่มยอดขายจากลูกค้าเดิมหรือใหม่ 3. แผนกทรัพยากรบุคคล (Human Resources Department) แผนก HR มีหน้าที่ในการดูแลพนักงาน ตั้งแต่การสรรหาจนถึงการดูแลประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน ดังนั้น KPI ที่ใช้ในแผนกนี้จะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาและรักษาพนักงาน 4. แผนกการเงิน (Finance Department) แผนกการเงินต้องมีการติดตามผลการดำเนินงานทางการเงินขององค์กรเพื่อให้แน่ใจว่าองค์กรมีการใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถบรรลุเป้าหมายทางการเงินได้ 5. แผนกผลิต (Production/Operations Department) แผนกผลิตต้องการ…

  • เหตุผลที่ธุรกิจของคุณควรใช้บริการประเมินผลพนักงานจากภายนอก

    เหตุผลที่ธุรกิจของคุณควรใช้บริการประเมินผลพนักงานจากภายนอก การใช้บริการประเมินผลพนักงานจากภายนอกนั้นเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับหลายองค์กร เพราะจะช่วยให้ได้มุมมองที่เป็นกลางและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาองค์กรและบุคลากรมากยิ่งขึ้น ธุรกิจที่ควรใช้บริการประเมินผลพนักงานจากภายนอกคือธุรกิจที่มีความซับซ้อนสูง หรือมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว หรือแม้กระทั่งธุรกิจที่ต้องการความเป็นกลางและข้อมูลที่มีความแม่นยำจากการประเมินผลที่ไม่เกี่ยวข้องกับผู้จัดการหรือผู้บังคับบัญชาโดยตรง ต่อไปนี้คือลักษณะของธุรกิจที่ควรใช้บริการประเมินผลภายนอก 1. ความเป็นกลางและไม่มีอคติ การประเมินผลพนักงานจากภายนอกช่วยลดความเป็นส่วนตัวและอคติที่อาจเกิดขึ้นจากผู้บังคับบัญชาหรือผู้จัดการภายในองค์กร ซึ่งอาจมีความสัมพันธ์ส่วนตัวหรือความคิดเห็นที่อาจส่งผลกระทบต่อการประเมินตัวบุคคล เช่น ความชอบหรือความไม่ชอบในตัวพนักงาน ตัวอย่าง: ถ้าผู้จัดการประเมินผลพนักงานที่ทำงานร่วมกันมานาน อาจมีอคติในการประเมินผล ซึ่งอาจไม่ยุติธรรมต่อตัวพนักงานที่ไม่เคยได้รับการประเมินจากมุมมองที่เป็นกลาง การใช้บริการจากบริษัทภายนอกจะทำให้ได้รับการประเมินที่ไม่มีอคติจากผู้ที่ไม่รู้จักหรือไม่ได้มีความสัมพันธ์กับพนักงาน 2. ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ บริษัทหรือบุคคลภายนอกที่มีความเชี่ยวชาญในการประเมินผลพนักงานจะมีเครื่องมือและกระบวนการที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ พวกเขาสามารถใช้เครื่องมือที่ทันสมัยในการประเมินผล เช่น การใช้แบบทดสอบด้านจิตวิทยา การสัมภาษณ์หลายรูปแบบ หรือการประเมินจากหลายมุมมอง (360-degree feedback) ตัวอย่าง: หากธุรกิจต้องการประเมินความสามารถด้านการสื่อสารของพนักงาน, บริการจากภายนอกสามารถจัดให้มีการสัมภาษณ์จากเพื่อนร่วมงานหรือการวิเคราะห์จากผลลัพธ์การทำงานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนและแม่นยำ 3. การประเมินแบบเชิงลึกและครอบคลุม การใช้บริการจากภายนอกช่วยให้การประเมินผลพนักงานมีความครอบคลุมมากขึ้น ไม่เพียงแต่การประเมินจากหัวหน้างานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการประเมินจากเพื่อนร่วมงานหรือการประเมินจากมุมมองของลูกค้า ซึ่งจะทำให้ได้ข้อมูลที่หลากหลายและตรงกับความต้องการขององค์กร ตัวอย่าง: ธุรกิจที่มีการทำงานร่วมกับลูกค้าหลายรายอาจใช้บริการภายนอกในการประเมินผลการทำงานของพนักงานฝ่ายขาย โดยการประเมินจากความพึงพอใจของลูกค้ารวมถึงการประเมินจากหัวหน้างานและเพื่อนร่วมงาน 4. เพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใส การให้บริษัทภายนอกทำการประเมินผลจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความโปร่งใสให้กับกระบวนการประเมินผล ซึ่งสามารถลดข้อสงสัยหรือความไม่พอใจจากพนักงานที่อาจคิดว่าได้รับการประเมินแบบไม่เป็นธรรมจากผู้จัดการภายในองค์กร ตัวอย่าง: เมื่อธุรกิจต้องการให้พนักงานเข้าใจผลการประเมินอย่างชัดเจนและไม่รู้สึกว่าได้รับการประเมินอย่างไม่ยุติธรรม การใช้บริการจากภายนอกในการจัดทำรายงานหรือให้คำแนะนำสามารถสร้างความมั่นใจและโปร่งใสในกระบวนการ 5. ประหยัดเวลาและทรัพยากร การให้บริษัทภายนอกทำการประเมินผลพนักงานช่วยลดภาระงานของฝ่ายทรัพยากรบุคคล (HR) และผู้จัดการในองค์กร โดยที่พวกเขาสามารถใช้เวลานี้ในการทำงานที่สำคัญอื่นๆ เช่น การพัฒนากลยุทธ์หรือการจัดการปัญหาภายใน…

  • คู่มือการเลือกบริการประเมินผลพนักงานที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ

    คู่มือการเลือกบริการประเมินผลพนักงานที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ การเลือกบริการประเมินผลพนักงานที่ดีนั้นเปรียบเสมือนการลงทุนในทรัพยากรบุคคลที่สำคัญที่สุดขององค์กร เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจพนักงานแต่ละคนได้ดีขึ้น และ นำไปสู่การพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทำไมต้องมีการประเมินผลพนักงาน? ปัจจัยที่ต้องพิจารณา คู่มือการเลือกบริการประเมินผลพนักงานที่เหมาะกับธุรกิจของคุณ คุณสมบัติของบริการประเมินผลพนักงานที่ดี คู่มือเลือกบริการประเมินผลพนักงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ การเลือกบริการประเมินผลพนักงานที่ดีนั้นเปรียบเสมือนการลงทุนในทรัพยากรบุคคลที่สำคัญที่สุดขององค์กร เพราะจะช่วยให้คุณเข้าใจพนักงานแต่ละคนได้ดีขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ทำไมต้องมีการประเมินผลพนักงาน ข้อดีและประโยชน์ของการใช้บริการประเมินผลพนักงาน ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกบริการ คุณสมบัติของบริการประเมินผลพนักงานที่ดี ตัวอย่างบริการประเมินผลพนักงาน ขั้นตอนการเลือกบริการ การเลือกบริการประเมินผลพนักงานที่ดีเปรียบเสมือนการลงทุนในทรัพยากรบุคคลที่สำคัญที่สุดขององค์กร เพราะจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืน การประเมินผลที่ดีจะช่วยให้คุณเข้าใจพนักงานแต่ละคนมากขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาบุคลากร ปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดี หากคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่ช่วยในการประเมินผล KPI EsteeMATE มี Features ที่จะช่วยให้คุณประเมินผล KPI ให้กับพนักงานได้ ศึกษาข้อมูลพิ่มเติมได้ ที่นี่

  • ระบบประเมินผลพนักงานสำเร็จรูป ทำไม EsteeMATE Pro ถึงตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่

    ระบบประเมินผลพนักงานสำเร็จรูป (Pre-built Performance Management System) ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ธุรกิจยุคใหม่ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยแก้ปัญหาและตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มาดูกันว่าทำไมระบบประเมินผลสำเร็จรูปจึงตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เหตุผลที่ควรใช้โปรแกรม เหตุผลที่ระบบประเมินผลสำเร็จรูปตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ ตัวอย่างฟังก์ชันของระบบประเมินผลสำเร็จรูป คุณสมบัติของโปรแกรม KPI ที่ดี โปรแกรม KPI ที่ดีควรมีคุณสมบัติเหล่านี้ ทำไม EsteeMATE Pro ถึงตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ เหตุผลที่ควรใช้โปรแกรมสำหรับงาน KPI and Competency Evaluation บริการ EsteeMATE Pro สามารถปรับให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น สำหรับธุรกิจทุกขนาด การประเมินผลที่ครบวงจร: แพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายจะช่วยให้คุณสามารถประเมินผลพนักงานได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว การสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญ: ที่ปรึกษาของเราจะดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบเกณฑ์การประเมินจนถึงการให้คำแนะนำที่สามารถนำไปใช้ได้ โซลูชันที่ปรับแต่งได้: ไม่ว่าจะเป็นการประเมินแบบครั้งเดียวหรือการประเมินต่อเนื่อง เราสามารถปรับบริการให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ ไม่ต้องลงมือทำเอง: เราดูแลทุกขั้นตอนของการประเมินให้คุณตั้งแต่ต้นจนจบ ข้อมูลที่แม่นยำและนำไปใช้ได้: รับข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำที่สามารถนำไปปรับปรุงผลการทำงานได้ ประหยัดเวลาและทรัพยากร: มุ่งเน้นการเติบโตของธุรกิจ ขณะที่เราจัดการเรื่องการประเมินผลให้คุณ ประเมินผลเสร็จภายใน 15 วัน รับรายงานฉบับสมบูรณ์เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจ ทำไม EsteeMATE Pro ถึงตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ ภายในโปรแกรมมีฟังก์ชั่น ดังนี้ 1.ลืม Excel ไปได้เลย!จากไฟล์ตารางซับซ้อน สู่การประเมินที่สุดง่ายในไม่กี่คลิก esteemate.io ช่วยให้คุณสร้างแบบประเมิน ติดตามผล และ วิเคราะห์ข้อมูลได้โดยไม่ต้องปวดหัวกับสูตร…