Tag: รีวิว monday
-
แชร์กลยุทธ์ทำ Digital Transformation ยังไงให้ปัง
กลยุทธ์ Digital Transformation (การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล) สามารถช่วยให้องค์กรปรับตัวและเติบโตในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อไปนี้คือกลยุทธ์หลักที่สามารถใช้เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จ Photo by Luis Benito on Unsplash 1. กำหนดวิสัยทัศน์และเป้าหมายชัดเจน 2. สร้างวัฒนธรรมการเปลี่ยนแปลง 3. ลงทุนในเทคโนโลยีที่เหมาะสม 4. การจัดการการเปลี่ยนแปลงและการสื่อสาร 5. มุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่ดีขึ้น 6. การวัดและติดตามผลลัพธ์ 7. การจัดการข้อมูลและความปลอดภัย การทำ Digital Transformation ให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยการวางแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมองค์กร การพัฒนาทักษะของพนักงาน และการเปิดรับการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง หากองค์กรสามารถผสมผสานปัจจัยเหล่านี้ได้อย่างลงตัว ก็จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลเป็นเส้นทางที่ท้าทาย แต่ก็เต็มไปด้วยโอกาสมหาศาล องค์กรที่สามารถปรับตัวและนำนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นผู้นำที่แท้จริงในยุคดิจิทัลนี้
-
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล เกี่ยวกับคุณยังไง
Digital Transformation หรือการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลส่งผลกระทบต่อทุกคนในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน 1. การทำงานและอาชีพ 2. การศึกษาและการเรียนรู้ 3. การสื่อสารและความสัมพันธ์ 4. การบริโภคและการใช้ชีวิต 5. การบริหารจัดการและความปลอดภัย
-
Digital Transformation คืออะไร
ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) กลายเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงมากขึ้นในวงการธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ แต่แท้จริงแล้ว Digital Transformation คืออะไร? และทำไมมันถึงมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน? Digital Transformation ไม่ใช่เพียงแค่การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ในองค์กรเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงาน ปรับเปลี่ยนกระบวนการทางธุรกิจ และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับแนวคิด Digital Transformation ในเชิงลึก เพื่อให้คุณเข้าใจถึงความหมาย ประโยชน์ และวิธีการนำไปใช้ในองค์กรของคุณ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหาร หรือพนักงานทั่วไป การเข้าใจ Digital Transformation จะช่วยให้คุณสามารถปรับตัวและเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาสใหม่ ๆ Digital Transformation (การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล) หมายถึงกระบวนการที่องค์กรหรือธุรกิจนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงในการวางรากฐาน กำหนดเป้าหมาย ดำเนินธุรกิจ ไปจนถึงปรับใช้กับขั้นตอนการทำงานและการขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น โดยทั่วไป การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลประกอบด้วยหลายด้าน เช่น
-
รวมเทคนิคการใช้งานฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ เช่น การใช้ Template การตั้งค่า Automations และการรวมกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในmonday.com
1. การใช้ Templates Templates เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คุณเริ่มต้นได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องสร้างระบบจากศูนย์ นี่คือวิธีการใช้ Templates ใน monday.com: สามารถดู Template ที่ตนเองสร้างหรือสมาชิกในทีมสร้างจากเมนู + เลือก “Start With Template” และเลือกเมนู Created by … 2. การตั้งค่า Automations Automations ช่วยในการทำงานอัตโนมัติและลดความซับซ้อนในการจัดการงาน โดยการตั้งค่า Automations คุณสามารถ: หน้าสูตรกรณีต้องการสร้างเงื่อนไขเอง ตัวอย่าง เมื่อสถานะเสร็จสิ้น ตัวอย่าง ให้ทำการแจ้งเตือนทีมของฉัน วลัยพร มีลูกแมวเหมียว โดยมีการแจ้งเตือนว่า It’s done 3. การรวมกับแอปพลิเคชันอื่น ๆ การรวม monday.com กับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างราบรื่นและเพิ่มประสิทธิภาพ ตัวอย่างบางแอปพลิเคชันที่สามารถรวมกับ Monday.com เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: Google Workspace (Google Drive, Gmail,…
-
แนะนำการสร้างและปรับแต่งแดชบอร์ด (Dashboard) เพื่อสรุปข้อมูลและติดตาม KPI ของทีม รวมถึงวิธีการทำรายงานต่าง ๆ
ตัวอย่างการสร้างและปรับแต่งแดชบอร์ดเพื่อสรุปข้อมูลและติดตาม KPI ที่เกี่ยวข้องกับการขาด ลา มาสาย และจำนวนวันทำงานทั้งหมดของทีม มีขั้นตอนและแนวทางดังนี้ 1. การกำหนดวัตถุประสงค์ 2. การออกแบบแดชบอร์ด 3. การรวบรวมข้อมูล 4. การปรับแต่ง 5. การสร้างรายงาน โดยการสร้างรายงานโดยใช้ Automations และ Integrations การตั้งค่า Automation: การใช้ Integrations: 3. การนำเสนอ
-
แชร์วิธีการทำงานเป็นทีมและการสื่อสารผ่าน monday.com อย่างมีประสิทธิภาพ
ในบล้อกนี้ เราจะมาแชร์วิธีการใช้ฟีเจอร์การสื่อสารในทีม เช่น การใช้ Updates, การ Mention และการแชร์ไฟล์ เพื่อให้ทีมงานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ในเซ็คชั่นการอัปเดตช่วยให้คุณและทีมของคุณสามารถสื่อสารรูปแบบโซเชียลมีเดียภายในรายการ โดยเก็บการสนทนาทั้งหมดเกี่ยวกับงานหรือโครงการเฉพาะไว้ในที่เดียวกันและในบริบท อ่านบทความนี้ต่อไปเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับทุกสิ่งที่คุณสามารถทําได้ด้วยส่วนการอัปเดต สื่อสารกับทีมของคุณ เมื่อ @mentioning บุคคลหรือหากคุณได้สร้างทีมในบัญชีของคุณ @mentioning ทีม คุณจะมั่นใจได้ว่าบุคคลที่เหมาะสมจะเห็นการอัปเดตของคุณ เมื่อกล่าวถึงแล้ว สมาชิกในทีมจะได้รับการแจ้งเตือนในกระดิ่งแจ้งเตือน หากต้องการ @mention เพียงคลิกปุ่ม “@ กล่าวถึง” หรือพิมพ์สัญลักษณ์ “@” แล้วเลือกทีมหรือสมาชิกในทีมจากเมนูแบบเลื่อนลง หมายเหตุ: ผู้ใช้ในบัญชีที่มีที่นั่งมากกว่า 5,000 ที่นั่งไม่สามารถพูดถึง “ทุกคนในบัญชีนี้” ได้ สําหรับบัญชีที่มีที่นั่งน้อยกว่า 5,000 ที่นั่ง เมื่อใช้การกล่าวถึง “@everyone” เฉพาะผู้ใช้ที่สมัครรับข้อมูลรายการหรือรายการย่อยเท่านั้นที่จะได้รับการแจ้งเตือน หากคุณสมัครรับข้อมูลเฉพาะรายการย่อย คุณจะไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการกล่าวถึงรายการ สมาชิกในทีมสามารถตอบสนองต่อการอัปเดตและการตอบกลับด้วยการยกนิ้วโป้งหรืออีโมจิ ทําให้การตอบกลับเป็นส่วนตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น พวกเขายังสามารถเลือกที่จะตอบกลับด้วย GIF, ไฟล์ อิโมจิ และ@mentions ไอคอนตา “เห็นแล้ว” ใต้การอัปเดตของคุณจะปรากฏขึ้นเมื่อมีคนดูการอัปเดตของคุณ เมื่อวางเมาส์เหนือไอคอน คุณจะเห็นว่าใครได้เห็นการอัปเดตนั้น อย่างไรก็ตาม…
-
บอร์ดบน monday.com ทำอะไรได้บ้าง
องค์ประกอบของบอร์ด 1. Board คือ เป็นกระดานของคุณ ซึ่งประกอบไปด้วยไอเท็ม (คือ แถว) และใน1กระดานสามารถมีกลุ่มได้หลายกลุ่มบนกระดาน 2. Group คือ กลุ่มที่สร้างขึ้นมาเพื่อใส่ข้อมูล 3. Item คือ รายการที่อยู่ในกลุ่มนั้นๆ โดยเป็นข้อมูลใดก็ได้ตามต้องการ 4. Subitem คือ รายการหรือข้อมูลที่เป็นข้อมูลย่อย โดยกดที่ลูกศรที่หน้า Item และทำการเพิ่ม Subitem การสร้างบอร์ดแบบมี Template สามารถเรียกดูเทมเพลตที่ทางเว็บมีไว้อยู่แล้วซึ่งสามารถเลือกรูปแบบที่ตรงกับความต้องการ วิธีการเพิ่มมุมมองบอร์ด คลิกที่ไอคอน + ซึ่งอยู่ทางขวาใต้ชื่อบอร์ด ซึ่งสามารถกดดูเป็นมุมมองต่างๆได้ เช่น เป็นแบบแผนภูมิ /kanban /gantt/มุมมองปฏิทิน/มุมมองไทม์ไลน์ สามารถเลือกมุมมองหลายรูปแบบในหน้าเดียวได้ โดยกด + Add Widget
-
สอนวิธีสร้างกระดานและการ import โปรเจ็กต์ บน monday.com
ในการสร้างกระดานจะสามารถเปลี่ยนชื่อกระดานของตนเองได้ ที่ช่อง Board name ส่วนของตัวเลือกด้านล่างหมายถึงดังนี้ Main จะเป็นบอร์ดหลัก หมายถึง คนที่เป็นสมาชิกสามารถมองเห็นกระดานที่เราสร้างได้ทุกคน Private อนุญาตให้เฉพาะผู้ใช้ที่สร้างบอร์ดและผู้ที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมบอร์ดเท่านั้นที่จะมองเห็นบอร์ดได้ Shareable เป็นการอนุญาตให้ทุกคนที่มีลิงก์ไปยังบอร์ดมองเห็นบอร์ดได้ และสามารถเลือกตารางข้อมูลที่ต้องการใช้บนหน้ากระด้านเพิ่มเติมได้ รวมถึงสามารถเพิ่มรายการที่ต้องการตั้งชื่อเองในช่อง Custom ได้ การนำเข้าโปรเจ็กต์ การนำเข้าข้อมูล: Errorที่แสดงหากไฟล์ไม่ตรงกับที่สามารถอัพโหลดได้ ตัวอย่างไฟล์ Excel ที่นำเข้าระบบ เมื่อไฟล์ที่อัพโหลดถูกต้องตามรูปแบบจะขึ้นเเจ้งเตือนดังภาพ และให้กด Next ถัดไปโดยตรวจสอบข้อมูลก่อนกดสร้างกระดาน หรือ Create Board คุณสามารถนำเข้าคอลัมน์ได้ในรูปแบบคอลัมน์ ตัวเลข สถานะ อีเมลวันที่หรือข้อความเท่านั้นแต่เมื่ออัพโหลดแล้วก็สามารถเปลี่ยนประเภทคอลัมน์ได้หลังจากนำเข้า การเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลภายนอก:
-
เริ่มต้นใช้งาน monday.com ต้องทำยังไง
ขั้นตอนแรก เราไปลงทะเบียนบัญชีการใช้งานได้ฟรีที่นี่ ไปที่เว็บไซต์ Monday.com คลิกที่ “Get Started” หรือ ปุ่มเริ่มต้นใช้งาน หรือ “Sign Up.” – กรอกข้อมูลพื้นฐาน โดยสามารถใช้อีเมลที่มีอยู่แล้ว หรือ กรอกข้อมูลอีเมลของบริษัทได้ เช่น ชื่อ, อีเมล, และรหัสผ่าน เพื่อสร้างบัญชี เข้าสู่ระบบ: เมื่อกดเข้าใช้งานกรอกข้อมูลแล้วจะมีทางเลือกสำหรับการใช้งานให้เราเลือก โดยจะมีคำถาม เป็นการใช้งานเพื่อทำอะไร เช่น ทำงาน หรือ ใช้ส่วนตัว ใช้กี่คน ใช้สำหรับบริษัทธุรกิจใด ตำแหน่งงานใด วัตถุประสงค์ของการใช้งานเกี่ยวกับงานใด เป็นต้น เพื่อให้Monday.com แสดง Template ตรงกับการใช้งานของผู้สมัครใช้งาน คำถามสุดท้ายเป็นการเลือกว่าต้องการให้ในหน้ากระดานมีข้อมูลใในแต่ละแถวเป็นอะไรบ้าง เช่น ชื่อผู้ติดต่อ , เบอร์โทรศัพท์ , อีเมล เป็นต้น การแก้ไขโปรไฟล์: การตั้งค่าการแจ้งเตือน: ไปที่ “Notifications” หรือ “การแจ้งเตือน” ในการตั้งค่าบัญชีปรับแต่งการแจ้งเตือนเพื่อให้คุณได้รับการอัปเดตที่สำคัญ
-
การสร้าง Timeline, การตั้งค่าอัตโนมัติ (Automations) และการติดตามความคืบหน้า ของ monday.com
วิธีเพิ่มคอลัมน์ในบอร์ดของคุณ หมายเหตุ: จำกัด 500 คอลัมน์ต่อบอร์ด 1. การสร้าง Timeline Timeline เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสามารถมองเห็นภาพรวมของโปรเจ็กต์ในรูปแบบกราฟิก ซึ่งเหมาะสำหรับการติดตามความคืบหน้าและกำหนดการต่าง ๆ 2. เพิ่มข้อมูลใน Timeline 3. มองเห็น Timeline 2. การตั้งค่าอัตโนมัติ (Automations) Automations ช่วยให้คุณสามารถตั้งกฎการทำงานอัตโนมัติ เพื่อช่วยลดงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโปรเจ็กต์ 2. เลือก Automation ที่ต้องการ 3. กำหนดกฎ Automation: 4. บันทึกและทดสอบ Automation: หมายเหตุ หากมีการทำ “Automations” แล้วข้อมูลไม่เปลี่ยนให้กดแก้ไขสถานะใหม่อีกครั้ง 3. การติดตามความคืบหน้า การติดตามความคืบหน้าใน Monday.com ช่วยให้คุณสามารถดูว่าแต่ละงานหรือโปรเจ็กต์ดำเนินไปอย่างไร หากยังไม่มีคอลลัมน์ Status สามารถกดสร้างที่เมนู + และเลือก Status ได้ 2. ใช้คอลัมน์เปอร์เซ็นต์การเสร็จสิ้น (Progress Column)…