Monday.com มีแผนราคาหลายระดับที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันของทีมและองค์กร ซึ่งแต่ละแผนมีฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน และการเลือกแผนที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับขนาดของทีม ความต้องการเฉพาะ และงบประมาณของคุณ นี่คือรีวิวของแผนราคาและความคุ้มค่าของ Monday.com พร้อมแนวทางในการเลือกแผนที่เหมาะสมที่สุด
1. แผนราคาหลักของ Monday.com
1.1. แผน Basic
- ราคา เริ่มต้นที่ประมาณ $8 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (เมื่อจ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
- ฟีเจอร์หลัก
- การจัดการบอร์ดและงานพื้นฐาน
- ความสามารถในการสร้างคอลัมน์ที่ปรับแต่งได้
- การแชร์บอร์ดกับสมาชิกทีม
- การตั้งค่าและการแจ้งเตือนพื้นฐาน
- เหมาะสำหรับ ทีมเล็ก ๆ ที่ต้องการฟีเจอร์พื้นฐานในการจัดการโครงการและการทำงานร่วมกัน
1.2. แผน Standard
- ราคา เริ่มต้นที่ประมาณ $10 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (เมื่อจ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
- ฟีเจอร์หลัก
- ฟีเจอร์ทั้งหมดของแผน Basic
- การใช้บอร์ดแบบ Kanban, Gantt, และอื่น ๆ
- การติดตามสถานะของงานที่มีความละเอียดมากขึ้น
- การรวมเข้ากับเครื่องมืออื่น ๆ เช่น Slack, Google Drive
- การสร้างรายงานพื้นฐาน
- เหมาะสำหรับ ทีมที่ต้องการฟีเจอร์ที่หลากหลายและการทำงานร่วมกันที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
1.3. แผน Pro
- ราคา เริ่มต้นที่ประมาณ $16 ต่อผู้ใช้ต่อเดือน (เมื่อจ่ายล่วงหน้า 1 ปี)
- ฟีเจอร์หลัก
- ฟีเจอร์ทั้งหมดของแผน Standard
- การสร้าง Dashboards ที่กำหนดเอง
- ฟีเจอร์การทำงานร่วมกันที่มากขึ้น เช่น การตั้งค่า Automation ขั้นสูง
- ฟีเจอร์การติดตามเวลา (time tracking)
- ฟีเจอร์การควบคุมการเข้าถึงและการจัดการความปลอดภัยที่สูงขึ้น
- เหมาะสำหรับ ทีมที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูงและการจัดการโครงการที่มีความซับซ้อน
1.4. แผน Enterprise
- ราคา ต้องติดต่อ Monday.com เพื่อขอราคา
- ฟีเจอร์หลัก
- ฟีเจอร์ทั้งหมดของแผน Pro
- การสนับสนุนระดับสูงและการฝึกอบรม
- ฟีเจอร์การปรับแต่งเฉพาะและการรวมระบบที่สามารถทำได้
- ความปลอดภัยขั้นสูงและการควบคุมการเข้าถึงที่ดีเยี่ยม
- การรายงานและการวิเคราะห์ขั้นสูง
- เหมาะสำหรับ องค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการการปรับแต่งเฉพาะและการสนับสนุนที่ละเอียด
2. ความคุ้มค่าและการเลือกแผนที่ดีที่สุด
2.1 แผน Basic
- ความคุ้มค่า เหมาะสำหรับทีมเล็ก ๆ หรือองค์กรที่เพิ่งเริ่มต้นและมีงบประมาณจำกัด
- ข้อดี ราคาไม่แพง, ฟีเจอร์พื้นฐานเพียงพอสำหรับการจัดการงานทั่วไป
*2.2. แผน Standard
- ความคุ้มค่า ดีสำหรับทีมที่ต้องการฟีเจอร์การทำงานร่วมกันที่มากขึ้นและการรวมเข้ากับเครื่องมืออื่น ๆ
- ข้อดี ฟีเจอร์ที่หลากหลายและการรวมเข้ากับเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
2.3. แผน Pro
- ความคุ้มค่า เหมาะสำหรับทีมที่มีความต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การติดตามเวลาและการสร้างแดชบอร์ดที่ปรับแต่งได้
- ข้อดี ฟีเจอร์ที่ครบครันและเหมาะสำหรับการจัดการโครงการที่ซับซ้อน
2.4. แผน Enterprise
- ความคุ้มค่า เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการการปรับแต่งสูงและการสนับสนุนที่ละเอียด
- ข้อดี การสนับสนุนระดับสูง, ฟีเจอร์การปรับแต่งเฉพาะ, ความปลอดภัยที่สูง
ข้อพิจารณาในการเลือกแผน
- ขนาดและประเภทของทีม เลือกแผนที่เหมาะสมกับขนาดของทีมและความต้องการในการทำงานร่วมกัน
- ฟีเจอร์ที่ต้องการ พิจารณาว่าทีมต้องการฟีเจอร์อะไร เช่น การติดตามเวลา, การสร้างแดชบอร์ด, หรือการรวมเข้ากับเครื่องมืออื่น ๆ
- งบประมาณ เลือกแผนที่ตรงตามงบประมาณของคุณ แต่ยังคงมีฟีเจอร์ที่จำเป็น
- การสนับสนุนและการฝึกอบรม ถ้าคุณต้องการการสนับสนุนที่มากขึ้น อาจพิจารณาแผนที่มีการสนับสนุนระดับสูง